รักษาความลับไม่ใช่ปัญหาสำหรับหลี่โม่ ยิ่งไปกว่านั้นฉิงจี้เย่ทำเหมือนเป็นความลับซะขนาดนั้น ยิ่งทำให้หลี่โม่อยากรู้ว่าธุรกิจใหญ่นั่นคืออะไร
“นายสามารถรักษาความลับได้เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ถึงแม้นายจะรักษาความลับไม่ได้ ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร เพราะว่าไม่มีใครเชื่อสิ่งที่นายพูดอยู่แล้ว”
ฉิงจี้เย่นั่งหลังตรง สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “นายรู้จักสำนักหลงเหมินใช่ไหม”
หลี่โม่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหรี่ตาลง “เคยได้ยินมาบ้าง เหมือนว่าสำนักหลงเหมินมีบารมีที่ไม่มีใครเทียบได้”
“สำนักหลงเหมินมีบารมีมากจริงๆ แต่มันก็เท่านั้น ตระกูลฉิงของเราก็พึ่งพาบารมีที่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน แต่ผมจะไม่เล่าอะไรให้คุณฟังมากนัก”
ฉิงจี้เย่ไม่ได้เล่าภูมิหลังของตระกูลตัวเองออกมา เขาทิ้งไว้ให้หลี่โม่จินตนาการเอาเอง นี่คือเทคนิคการพูดที่ฉิงจี้เย่ใช้บ่อย
เว้นที่ว่างเอาไว้ให้จินตนาการ ให้คนคิดไปตามคำพูดกันเอาเอง เพราะผลที่ได้รับมันดียิ่งกว่าบอกให้อีกฝ่ายรู้ด้วยตัวเองเสียอีก
หลี่โม่แสยะยิ้มออกมา เขาคิดว่าจะได้ต่อกรกับสำนักหลงเหมิน
เหมือนว่าจะไม่มีอำนาจใดในประเทศที่สามารถต่อกรกับสำนักหลงเหมินได้ มีเพียงกลุ่มเก่าแก่ในต่างแดนไม่กี่กลุ่มเท่านั้น เหมือนว่าตระกูลฉิงจะพึ่งพาบารมีของกลุ่มในต่างแดน ไม่แน่อาจจะโดนพวกเขาควบคุมแล้วก็ไม่แน่เหมือนกัน
“ฉันไม่ได้สนใจภูมิหลังของตระกูลนาย คุยเรื่องธุรกิจใหญ่กันดีกว่า ฉันสนใจเรื่องเงินมากกว่า”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ฉิงจี้เย่เหนื่อยใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะไม่สามารถเรียกความสนใจจากหลี่โม่ได้
“ก็ได้ งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลย เร็วๆ นี้ฉันเพิ่งได้รับภารกิจมา ภารกิจคือลอบท่านแปดที่เป็นบุคคลสำคัญของสำนักหลงเหมิน ท่านแปดเป็นหนึ่งในแปดราชาของสำนักหลงเหมิน แต่ว่าคนที่คอยคุ้มกันเขามีจำนวนมาก เพราะฉะนั้นฉันจึงต้องรวบรวมลูกน้องฝีมือดีจำนวนมาก”
“ถ้านายสามารถเข้าร่วมภารกิจครั้งนี้ได้ ฉันคิดว่าโอกาสชนะมีสูง เลยอยากมาปรึกษากับนาย พวกเรามาช่วยกันทำธุรกิจครั้งนี้ให้สำเร็จ”
เมื่อได้ยินว่าฉิงจี้เย่จะลอบฆ่าท่านแปด หลี่โม่รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที
ท่านแปดเป็นผู้สนับสนุนหลักของราชินีของสำนักหลงเหมิน ตอนนี้ท่านแปดอยู่ในเมืองฮ่าน น่าจะมาเตรียมการให้ราชินีของสำนักหลงเหมิน
อีกทั้งการปรากฏตัวของครัฟฟ์ก็สามารถที่จะอธิบายได้แล้ว
หลี่โม่คิดอยู่ในใจ ถ้าฆ่าท่านแปด ไม่รู้ว่าราชินีของสำนักหลงเหมินจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
เมื่อเห็นว่าหลี่โม่ครุ่นคิดอยู่นาน ฉิงจี้เย่ไม่ได้พูดอะไร จึงรออย่างเงียบๆ
หลี่โม่คิดอยู่ครู่ใหญ่ เขาคิดว่าตัวเองควรจะเข้าร่วมงานการลอบฆ่าครั้งนี้ ถ้าสามารถจับท่านแปดมาพูดกันตัวต่อตัวได้ บางทีอาจจะรู้เรื่องอะไรมากขึ้นก็ได้
“ฉันสนใจนะ แต่นายควรจะแสดงความจริงใจออกมาสักหน่อย”
ฉิงจี้เย่เลิกคิ้วขึ้นมา เขายิ้มแล้วพูดว่า “ผมมีความจริงใจอยู่แล้ว ขอแค่นายตกลงเข้าร่วมงานครั้งนี้ ฉันสามารถทำให้หม่าเต๋อฝูไปอยู่เป็นเพื่อนลูกชายได้ ต่อไป ตระกูลหม่าจะไม่สามารถขู่นายได้อีก และเงินยี่สิบล้านที่หม่าเต๋อฝูจ้างฆ่า ฉันจะยกให้นาย”
ฉิงจี้เย่ใช้เงินของคนอื่นมาสร้างสัมพันธ์ เขาเอาชีวิตกับทรัพย์สินของหม่าเต๋อฝูมาเป็นข้อต่อรอง ฉิงจี้เย่ยังสามารถทำเงินมหาศาลจากเรื่องนี้ได้อีกด้วย ขณะเดียวกันเขาสามารถแทรกแซงการเลือกผู้สืบทอดตระกูลของตระกูลหม่า อีกไม่นานฉิงจี้เย่ก็จะทำให้ตระกูลหม่ามาเป็นทาสบริวารของเขา
ถ้าความคิดถูกฉิงจี้เย่ทำให้แตกกระเจิง ฉิงจี้เย่คิดถึงผลประโยชน์ต่างๆ ที่เขาจะได้รับเอาไว้แล้ว
หลี่โม่ยิ้มแล้วพยักหน้า “ได้ ฉันหวังว่าจะได้ยินข่าวการตายของหม่าเต๋อฝูก่อนที่จะร่วมมือกับนาย”
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจะจัดการเรื่องของหม่าเต๋อฝู พรุ่งนี้ตอนบ่ายเรามาเจอกันที่นี่ เพื่อจัดแจงเรื่องแผนการ”
ฉิงจี้เย่ดีดนิ้วด้วยความตื่นเต้น
“ฉันหวังว่าจะได้เห็นข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านแปดก่อน จะได้เตรียมตัวไว้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...