สรุปเนื้อหา บทที่ 441 รวดเร็วดั่งพายุ – จักรพรรดิมังกร โดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋
บท บทที่ 441 รวดเร็วดั่งพายุ ของ จักรพรรดิมังกร ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ครั้นยามดึกสงัดมืดมิดปกคลุมทั่วท้องฟ้า ดวงจันทร์และดวงดาวซ่อนเร้นอยู่หลังเมฆดำทะมึน ส่งผลให้ทั่วท้องฟ้าดำมืด
คุณชายสามหลินเอนกายอยู่บนเก้าอี้นอน เงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าที่มืดสนิท รู้สึกว่าความรู้สึกตนเองในเวลานี้ช่างมืดมิดเหมือนดั่งท้องฟ้าที่มืดมิดมาก
ลุงเป้าที่นอนอยู่บนแคร่ไม้ไม่ห่างจากคุณชายสามหลินมากนัก ทอดถอนใจด้วยความเศร้าใจ โมโหตนเองที่โชคร้ายเอามาก ๆ ที่ไปเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้โรคจิตอย่างหลี่โม่
คุณชายสามหลินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มองดูข้อความใหม่ในโทรศัพท์ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“หลงเทา จะมาหาฉัน ในสภาพเช่นนี้ฉันจะไปพบผู้คนได้ยังไง สภาพสิ้นหวังอย่างนี้ จะมีหน้าไปพบใครได้อีกล่ะ”
ลุงเป้าเอียงศีรษะมองไปทาง คุณชายสามหลิน พูดเสียงต่ำว่า “คุณชายสาม คุณไม่อยากพบจริง ๆ เหรอ? ผมคิดว่า ถ้าไม่ให้พบคงจะไม่ค่อยดี ยังไงแล้วเรื่องราวงานเลี้ยงเมื่อคืน ทุกคนต่างก็เห็นกันจนหมดสิ้น คิดจะปกปิด ยาก ที่จะปกปิดได้มิดชิด”
“คุณหมายความว่าอย่างไร? เจอเรื่องน่าอับอายเช่นนี้จะแบกหน้าไปพบคนอื่นได้ยังไง ผมรู้สึกขายหน้ามากไม่อยากพบใคร”
คุณชายสามหลินใช้มือลูบที่ใบหน้า รู้สึกว่าใบหน้าของตนตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว
“ต้องเข้มแข็งขึ้นมาให้ได้ ยังไงต้องหาวิธีแก้แค้นหลี่โม่ อย่างน้อยต้องให้คนอื่นได้เห็น เชือดไก่ให้ลิงดูเป็นอย่างไร” ลุงเป้า เอ่ยปากแนะนำ
นับได้ว่าลุงเป้าในเวลานี้ร่วมหัวจมท้ายกับคุณชายหลินอย่างลึกซึ้ง เพราะทั้งสองคนผ่านเรื่องราวดีร้ายต่าง ๆมาด้วยกัน ฉะนั้นแล้ว ลุงเป้า จึงได้ออกอุบายช่วยเหลือคุณชายสามหลิน
หากสามารถช่วยเหลือให้คุณชายสามหลินขึ้นรับตำแหน่งได้ นับเป็นผลงานอันใหญ่หลวงของลุงเป้าเลยทีเดียว สถานะของตนก็คงจะสูงมากยิ่งขึ้น
คุณชายสามหลิน ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็รู้สึกว่าสิ่งที่ลุงเป้าพูดก็พอจะมีเหตุผล
“จะพบหลงเทาเหรอ? ไม่งั้นก็รอให้เฉียนเปิดตามาถึงก่อนค่อยพบหลงเทาดีไหม คุณไม่เห็นเหรอคนข้างกายล้วนบาดเจ็บทำอะไรไม่ได้ ดูไปแล้วไม่น่าเกรงขามเอาเสียเลย”
ลูกน้องที่เข้าเฝือกที่มือกลุ่มหนึ่ง ได้ยินคำพูดของคุณชายสามหลิน ในใจสบถด่าMMPออกมานับไม่ถ้วน อยากที่จะแช่งชักหักระดูกหลี่โม่ให้ตาย ๆ ไปเสียให้พ้น
ลุงเป้า พยักหน้าเห็นด้วยเป็นอย่างมาก เพราะในเวลานี้ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง มีเฉียนเปิดตาคอยอยู่ข้างกาย ก็สามารถรับรองความปลอดภัยของคุณชายหลินได้
ด้วยสภาพอาการบาดเจ็บของลูกสมุนและลุงเป้า จึงไม่มีทางที่จะรับรองความปลอดภัยของคุณชายสามหลินได้
“ใช่ รอให้เฉียนเปิดตามาถึงก่อนแล้วค่อยไปเจอหลงเทา มีเฉียนเปิดตาคอยปกป้องอยู่ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรที่ไม่คาดคิดได้
“ฉันจะให้คนส่งข้อความกลับไปหาหลงเทา รอฟังข่าวจากฉันก็พอ”
คุณชายสามหลิน สั่งให้ลูกน้องส่งข้อความกลับไปหาหลงเทา จากนั้นหันศีรษะมองลุงเป้าและพูดว่า “ลุงก็รีบเร่งรัดเฉียนเปิดตาหน่อยสิ ฉันเสียอะไรไปตั้งมากมายขนาดนี้แล้ว เขารีบเร่งอีกหน่อยไม่ได้เชียวเหรอ”
“ตอนนี้เขาเป็นรีบมาทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้หยุดพักเลย คุณชายสามคุณก็อดทนรออีกสักหน่อย ผมจะรีบเร่งรัดเขา”
ลุงเป้า รีบหยิบโทรศัพท์เพื่อติดต่อไปอีกครั้ง เร่งรัดให้เฉียนเปิดตามาในทันที
......
หลงเทา มองดูข้อความที่ส่งเข้ามาใหม่บนโทรศัพท์ แสดงสีหน้าขึงขังพูดว่า “ พี่ใหญ่ ทางคุณชายสามหลิน ไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่ชัด เพียงตอบกลับมาว่าให้รอฟังคำตอบเขาคืนวันนี้ จะนัดหมายเวลาที่จะให้พบ”
มองดูข้อความบนมือถือ ใบหน้าหลงเทาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เหมือนราวกับว่า มีมีดแหลมคมอันหนึ่งห้อยอยู่บนหัว สามารถตกลงมาใส่หัวได้ตลอดเวลา
หลี่โม่ มองดูโทรศัพท์ของหลงเทา หลับตาและพูดว่า “คน ๆนี้นับว่ายังมีความรอบคอบระมัดระวัง งั้นก็รอไปก่อนเถอะ”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราเปิดห้องพักกันก่อนดีไหม คุณจะได้พักผ่อน นอนพักบนรถไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นัก”
หลงเทาพูดด้วยท่าทีเอาอกเอาใจ
หลี่โม่ เปลี่ยนมานั่งตำแหน่งคนขับ สตาร์ทรถเบนซ์รุ่นครอสคันทรี่ของหลงเทา
พูดถึงศักยภาพของรถครอสคันทรี่ รถเบนซ์คันนี้นับว่าไม่เลว แต่หากพูดถึงความเร็วดั่งพายุแล้ว รถเบนซ์ครอสคันทรี่ที่มีน้ำหนักมากคันนี้คงใช้ไม่ได้แน่
หากในเวลานี้ มีรถสปอร์ตสักหนึ่งคัน หลงเทาเองคงไม่ต้องลำบากใจถึงเพียงนี้ กดคันเร่งลงไปความเร็วเกินสองร้อยไมล์แล้ว
แต่ว่ารถเบนซ์ครอสคันทรี่นี้ แม้จะเหยียบคันเร่งจมมิดพื้นรถ ก็ไม่มีทางที่จะทำความเร็วได้ถึงสองร้อยไมล์ตลอดระยะทาง
หลงเทา นั่งลงฝั่งด้านข้างคนขับได้ครู่หนึ่ง ยังไม่ทันได้คาดเข็มขัดนิรภัย ก็มีแรงผลักมหาศาลจนหลังของเขาติดกับเบาะนั่ง
หลี่โม่ ได้กดคันเร่งจนรถพุ่งทะยานออกไปแล้ว เครื่องยนต์รถเบนซ์ครอสคันทรี่ ส่งเสียงคำรามดุดันอย่างกับสัตว์ป่า
หลงเทาคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างลนลาน สายตามองไปที่คันเกียร์
เห็นเพียงมือของหลี่โม่ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว คันเกียร์ถูกสลับเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว ความเร็วของรถยนต์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เสียงเครื่องยนต์ดังดุดันครั้งสุดท้าย เปลี่ยนมาเป็นเสียงต่ำหนักแน่นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่รถเบนซ์วิ่งอยู่บนทางหลวง ความเร็วของรถเบนซ์ครอสคันทรี่ยิ่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ไฟท้ายรถยนต์คันสีแดงกะพริบขึ้นอยู่ไม่ไกลนัก ครู่เดียวรถเบนซ์ครอสคันทรี่ค่อย ๆไล่ตามรถสปอร์ตเฟอร์รารีมาติด ๆ เมื่อมาถึงช่วงทางโค้งรูปตัว S รถคันนั้นได้ขวางเส้นทางการวิ่งของรถเบนซ์ครอสคันทรี่
เศรษฐีหนุ่ม ที่นั่งอยู่ในรถสปอร์ตเฟอร์รารี มองดูกระจกหลัง พูดดูถูกว่า “แม่งเอ้ย ขับรถออฟโรดกล้าดียังไงจะมาแซงกู แม้ว่ากูจะมีฝีมือเพียงหางแถวในคลับซูเปอร์คาร์ แต่ไม่ใช่รถออฟโรดอย่างพวกแกจะแซงไปได้ง่าย ๆ!”
ขณะที่เศรษฐีหนุ่มกำลังบ่นพึมพำอยู่นั้น รถเบนซ์ครอสคันทรี่เลี้ยวโค้งอย่างนุ่มนวล จากนั้นเพิ่มความเร็วรถยนต์พุ่งตัวไปข้างหน้า ในพริบตาเดียวก็เข้ามาขนาบข้างรถสปอร์ตเฟอร์รารีแล้ว
หลี่โม่ กวาดสายตามองดูเศรษฐีหนุ่มที่ขับรถ ยิ้มมุมปากด้วยท่าทีเหยียดหยาม หลังจากนั้นเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว บีบแตรที่พวงมาลัยเพื่อทักทายรถสปอร์ตเฟอร์รารี เพื่อเป็นการสั่งสอน เศรษฐีหนุ่มที่ขับรถยนต์คนนั้น
ทางโค้งรูปตัวS ที่ถูกรถสปอร์ตเฟอร์รารีขวางทางอยู่นั้น หลี่โม่เกือบจะขับไปชนท้ายรถสปอร์ตเฟอร์รารี หากไม่ใช่เป็นหลี่โม่ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองว่องไว รถสปอร์ตเฟอร์รารี คันนี้คงจะถูกชนลอยกระเด็นไปไกลแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...