เฉียนเปิดตาสารภาพผิดโดยตรง เพราะเขาไม่ต้องการต่อสู้กับหลี่โม่จริงๆ
หากเขาสามารถเอาชนะหลี่โม่ได้ แต่กลับกระตุ้นโดนผู้พึ่งพิงที่อยู่เบื้องหลังหลี่โม่ล่ะ แต่ถ้าหากเขาแพ้หลี่โม่ จุดจบของเขาก็มีแต่ตายหรือไม่ก็พิการ
หลังจากวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียแล้ว เฉียนเปิดตารู้สึกว่ามีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เขารอดได้นั่นก็คือยอมแพ้
หลี่โม่ส่ายหัว “ชีวิตมีทางเลือกตั้งมากมาย ในเมื่อคุณเลือกที่จะเป็นศัตรูกับฉัน งั้นคุณก็คือศัตรูตลอดชั่วทั้งชีวิตของฉัน คนเราต้องไม่ลืมความตั้งใจแรกเริ่มสิ”
ทันใดนั้นเฉียนเปิดตาก็ทำตัวไม่ถูก โธ่เอ๊ย! ฉันอุตส่าห์ยอมจำนนแล้ว และยังจะมาพูดเรื่องไม่ลืมความตั้งใจแรกเริ่มบ้าบอนั่นอีก! กูเป็นคนเห็นแก่เงินมาโดยตลอด และไม่เคยลืมความตั้งใจแรกนี้ของตัวเองอยู่แล้ว!
“ใจเย็นสิครับคุณหลี่ คุณจะให้ฉันทำยังไงคุณถึงจะยอมปล่อยฉันไป จริงๆแล้ว ฉันไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับกังฟูเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันก็เหมือนไต้ซือไท้เก๊กไต้ซือหม่าผู้ซึ่งดีแต่สร้างกระแสหลอกลวงผู้อื่นไปวันๆก็เท่านั้น
เฉียนเปิดตาไม่สนใจเรื่องศักดิ์ศรีอีกต่อไป เขายกมือทั้งสองขึ้นมาวางบนอกจากนั้นก็แสร้งทำเป็นเจ็บปวด “โอ๊ย! ฉันมีอาการหัวใจวาย ฉันไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ!”
。
ในขณะที่พูดและแสร้งทำเป็นป่วยนั้น เฉียนเปิดตาก็ก้าวถอยหลังไปด้วย เกรงว่าถ้าหลี่โม่ไม่ยอมปล่อยตัวเขาไปอีก เขาคงต้องหนีไปที่ลานบ้านซะแล้ว
“มันดูปลอมมาก การที่คุณสามารถรับหมัดนั้นจากฉันได้ แสดงว่าวิชากังฟูของคุณไม่เลวเลยทีเดียว มาต่อกันเถอะ อย่าทำตัวเป็นคนขี้ขลาดไปหน่อยเลย”
หลี่โม่ก้าวไปทางเฉียนเปิดตา ความคิดที่จะคุกเข่าขอความเมตตาปรากฏขึ้นในหัวสมองของเฉียนเปิดตาอย่างสิ้นเชิง และมีเพียงความคิดที่จะวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเท่านั้น
เขาหันหลังและวิ่งไปที่ทางเดินสู่สวนหลังบ้านอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเขาเดินผ่านลูกน้องของคุณชายสามหลิน เฉียนเปิดตายังไม่ลืมที่จะผลักพวกเขาไปด้านหน้าเพื่อขัดขวางหลี่โม่ไว้
ในใดนั้นนอกทางเดินก็วุ่นวายไปหมด และลูกน้องของคุณชายสามหลินก็รีบพุ่งเข้าหาหลี่โม่โดยไม่ทันสนใจเฉียนเปิดตา
หลี่โม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็พุ่งเข้าไปต่อสู้กับลูกน้องของคุณชายสามหลินในทันที แต่ละคนคนถูกทุบตีจนคร่ำครวญไม่หยุด แถมหลายคนก็โดนซ้อมจนขึ้นสวรรค์ไปแล้วด้วย
มีเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดั่งขึ้น และเหล่าทายาทเศรษฐีของคลับซุปเปอร์คาร์ตามมาถึงที่นี่ เมื่อเห็นรถออฟโรดของ Mercedes-Benz จอดอยู่นอกลาน ดวงตาของพี่คางก็เป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
“ใช่รถคันนี้แหละ บัดซบเอ๊ย ในที่สุดฉันก็หาเจอจนได้! กูจะดูให้ดีว่ารถของแกปรับแต่งมาอย่างไร!”
ทันทีที่พี่คางเปิดประตูก้าวลงจากรถ เขาก็ได้ยินเสียงโหยหวนอันน่าสยดสยองดั่งมาจากลานหลังบ้าน พี่คางตกใจจนตัวสั่นและรีบกลับเข้าไปนั่งในรถทันที
“เชี่ย!นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หรือว่ามีผีสิงอยู่ที่นี่?”
พี่คางถามด้วยความตื่นตระหนก
เศรษฐีหนุ่มที่นั่งตำแหน่งคนขับจ้องไปที่ท้องฟ้าในสวนหลังบ้านอย่างตะลึงงัน แล้วพูดอย่างงุนงงว่า “ดูท้องฟ้าสิ เหมือนเทพธิดากำลังโปรยดอกไม้เลยแหละ”
พี่คางเงยหน้าไปมองและเห็นชายกำยำหลายคนกรีดร้องและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แถมยังมีเลือดพ่นออกจากปากของพวกเขาด้วย ดูแล้วน่ากลัวมากจนหาคำบรรยายไม่ได้
“นายบอกว่านี่คือนางฟ้าโปรยดอกไม้เหรอ? กลุ่มชายกำยำถูกทุบตีราวกับสุนัข นายบอกฉันว่ามันคือนางฟ้าโปรยดอกไม้เนี่นนะ บ้าเอ๊ย! ผู้ชายที่ขับรถ Benz คนนี้เป็นใคร แล้วข้างในนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
พี่คางหยิบกล่องบุหรี่ออกมาอย่างสั่นเทากะจะสูบบุหรี่เพื่อคลายความเครียดทางจิตใจ
“พี่…พี่คาง ผมว่าเราไปกันเถอะ รอให้เราเรียกเพื่อนทั้งหมดมาก่อน เราค่อยมาหาผู้ชายที่ขับรถ Benz คนนี้ทีหลัง”
“กลัวห่าอะไร! กูมีอาวุธวิเศษที่ปลุกเสกโดยผู้เชี่ยวชาญอยู่ในมือ แม้ว่าจะมีผีจริงก็ไม่กลัวเว้ย! เมื่อกี้นี้ฉันรอดตายมาได้เพราะงั้นต่อไปนี้ฉันต้องได้รับพรอย่างแน่นอน สูบบุหรี่สงบสติอารมณ์ก่อน รอให้เสียงมันเงียบลงก่อนแล้วเราค่อยเข้าไปดูด้วยกัน”
พี่คางคาบบุหรี่ไว้ในปาก และจุดไฟด้วยมือไม้ที่สั่นไหวไปหมด และไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็จุดไม่ติดสักที
ทายาทเศรษฐีทั้งหลายจ้องไปที่ประตูลานบ้านด้วยความสยดสยอง และวางมือบนคันเกียร์ทำท่าเหมือนจะสตาร์ทรถวิ่งออกไปในทันทีที่ประตูถูกเปิดออก
...
ภายในสวน คนของคุณชายสามหลิน ถูกหลี่โม่ซ้อมจนหมดสติไปหมดแล้ว
หลี่โม่ก้าวข้ามทางเดินอย่างรวดเร็วและไล่ตามพวกเขาไปที่ลานหลังบ้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...