บุรุษผู้แข็งแกร่งทั้งหลายที่อยู่ข้างหลังเฉียนเปิดตาพับแขนเสื้อขึ้น พวกเขาจ้องมองไปที่หลี่โม่ซึ่งเพิ่งจะชกหม่างจือจนบินออกไปไกลด้วยสายตาอาฆาต
ในสายตาของพวกเขาหลี่โม่เป็นศัตรูที่ต้องถูกกำจัดอย่างรวดเร็ว
เฉียนเปิดตาชำเลืองมองหลี่โม่เป็นครั้งคราว และพูดอย่างเย็นชาว่า “แกเล่นละครตบตาคนอื่นเก่งดีนี่ แกกล้าใช้ไม้หมาป่าสวมหนังแกะกับฉันเหรอ!”
“ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้แกล้งทำเป็นแกะ และนายก็ไม่ใช่เสือด้วย อย่ามาพูดเหลวไหลหน่อยเลย พาคนของนายเข้ามาได้เลย แล้วฉันจะสอนให้นายรู้ว่าการถ่อมตัวนั้นมันเป็นอย่างไร”
หลี่โม่เหยียดนิ้วเรียกเฉียนเปิดตาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
เฉียนเปิดตาหงุดหงิดกับสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของหลี่โม่อย่างมาก และสะบัดมือขวาอย่างแผ่วเบา “กำจัดแก แค่ลูกน้องของฉันก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ฉันลงมือเองหรอก คนหนุ่มสาวควรรู้จากเคารพผู้อื่น พวกเราไปอัดมันให้เละเลย!”
ชายกำยำในชุดกังฟูสีดำพุ่งเข้าไปพร้อมกันราวกับเสือโคร่งที่ลงมายังภูเขา พุ่งเข้าหาหลี่โม่พร้อมเสียงคำราม
ลุงเป้าจับเอวและลุกขึ้นจากพื้นอย่างเชื่องช้า จากนั้นก็วิ่งไปหลบข้างๆคุณชายสามหลินด้วยความตื่นตระหนก “คูณชายสาม คุณอย่ามัวแต่ยืนบื้ออยู่ตรงนี้สิ จะดูก็ต้องหาที่ที่มันปลอดภัยกว่านี้สิ ตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงมาก ฉันกลัวแทบตายอยู่แล้ว”
“นายหมายความว่ายังไง นายจะบอกว่าเฉียนเปิดตาคนนี้ไม่ได้เรื่องอย่างนั้นเหรอ?”
คูณชายสามกล่าวอย่างขมขื่น
“ฉันไม่รู้ว่าศิษย์น้องเฉียนจะทำได้หรือไม่ แต่เราก็ควรที่จะเตรียมแผนสองไว้ล่วงหน้าไม่ใช่เหรอ เรารีบไปซ่อนตัวที่สวนหลังบ้านกันเถอะ หากมีอะไรเกิดขึ้น คุณสามารถออกจากสวนหลังบ้านแล้วขับรถออกไปได้เลย!”
คุณชายสามหลินลังเลเล็กน้อยและเหลือบมองลูกน้องบุบสลายที่เหลือเพียงสี่รายข้างเขา “พวกแกรีบพกปืนและตามฉันไปที่สวนหลังบ้านส่วนพวกแกก็ปิดกั้นทางผ่านให้ดี หากหลี่โม่ชนะ พวกแกก็ปิดกั้นเขาไว้อย่างสุดความพยายามอย่าปล่อยให้เขาตามเราไปเด็ดขาด!”
ลูกน้องพยักหน้าทีละคน สะบัดแขนที่เข้าเฝือกไปมา และทำท่าทางสกัดกั้นอย่างเต็มกำลัง
ลุงเป้าเดินตามคุณชายสามหลินไปที่สวนหลังบ้านอย่างกะโผลกกะเผลก และเฝ้าดูการต่อสู้ที่ลานด้านหน้าผ่านทางเดินยาว
ชายกำยำสิบกว่ารายล้อมตัวหลี่โม่ และหลงเทาได้วิ่งไปหลบที่มุมสวนด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัวแล้ว เขายังคงเฝ้าดูการต่อสู้ด้วยท่าทางเอามือวางบนศีรษะและนั่งยองเพื่อปกป้องตัวเองดั่งเช่นเคย
การเคลื่อนไหวของหลี่โม่ว่องไวราวกับวิญญาณ และเงาสายฟ้าเคลื่อนไหวไปมาในกลุ่มชายกำยำทั้งหลาย และทุกครั้งที่หมัดของชายกำยำชกไปที่หลี่โม่ สุดท้ายหมัดของพวกเขาก็ชกโดนเพียงเงาของหลี่โม่เท่านั้น
“ระวัง! ไอ้หมอนี้มีฝีเท้าที่ไม่เหมือนใคร และความเร็วของเขาก็ไม่มีขีดจำกัดเลย!”
“ฉันจับมุมเสื้อของเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ พวกเราอย่ารีบร้อน บังคับเขาไปที่มุมห้องก่อนแล้วค่อยลงมือพร้อมกัน!”
เหล่าชายกำยำตะโกนเสียงดัง ต้องการที่จะลดพื้นที่สำหรับการเคลื่อนไหวของหลี่โม่ก่อน หากปล่อยให้หลี่โม่รักษาความเร็วที่รวดเร็วเช่นนี้ต่อไป มันคงเป็นปัญหาใหญ่แน่
“คิดจะผลักฉันให้เข้ามุมเหรอ ไอ้กระจอกอย่างพวกแกทำไม่ได้หรอก”
ทันทีที่เสียงของหลี่โม่หายไป เงาหมัดก็ปรากฏขึ้นในอากาศ ชายกำยำสิบกว่าคนตื่นตระหนกมาก มันสายเกินไปแล้วที่พวกเขาต้องการจะหนี ระดับความเร็วของพวกเขาสู้ความเร็วของหมัดหลี่โม่ไม่ได้เลย
ปัง ปัง ปัง
เสียงของหมัดกระทบกับหน้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับว่าดังขึ้นในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่ชายกำยำคนแรกที่ถูกชกจนบินกลับหัว ไปจนถึงชายกำยำคนสุดท้ายที่ถูกชกจนบินหงายหลัง ใช้เวลาเพียงไม่เกินสามวินาทีเท่านั้น
ภายในสามวินาทีหลี่โม่ชกมากกว่าสิบครั้ง และชายกำยำทั้งสิบคนก็เกือบจะบินออกไปพร้อมๆกัน
ชายกำยำสิบคนหงายหลังบินออกไปจากมุมต่างๆ ด้วยท่าเดียวกัน ราวกับเทพธิดาโปรยช่อดอกไม้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...