จางเต๋ออู่เบิกตาโพลง เขาจ้องคนที่ก้มหัวอย่างฉู่จงเทียนและตวาดออกมา “แกว่าอะไรนะ หลี่โม่ได้เลื่อนขั้นอัตโนมัติเหรอ หัวหน้าของพวกเราเดินทางไกลมาเพื่อดูการแข่งขันของหลี่โม่ แต่แกกลับบอกว่ามันได้เลื่อนขั้นอัตโนมัติอย่างนั้นหรอ! พวกแกไม่เป็นมืออาชีพแบบนี้ได้ยังไง!”
“ขอโทษจริงๆ ครับ มันเป็นเรื่องสุดวิสัย พวกเราไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะเป็นแบบนี้”
ฉู่จงเทียนคำนับให้ไม่หยุด
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนใหญ่คนโตซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร ฉู่จงเทียนไม่กล้าทำอะไรล่วงเกิน เขายอมทำตัวเป็นฝุ่นผงยังจะดีกว่า
เดิมทีจางเต๋ออู่อยากเห็นหลี่โม่โดนซัดจนเละ แต่เขากลับได้ยินเรื่องที่หลี่โม่ได้รับการเลื่อนขั้น นี่ทำให้เขาแค้นจนกัดฟันกรอด
“ไอ้พวกเวร คงไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับการแข่งขันใช่ไหม! ถ้าฉันรู้ว่าพวกแกทำเรื่องสกปรกเกี่ยวกับการแข่งขัน ฉันไม่ไว้ชีวิตพวกแกแน่!”
“ไม่กล้าหรอกครับ ถึงผมอยากจะเล่นสกปรก พวกประธานการแข่งขันก็ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอนครับ เมื่อวานเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นจริงๆ ครับ”
ราชินีของสำนักหลงเหมินปรายตามองฉู่จงเทียนอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ไม่เซ้าซี้อะไรแล้ว แต่ฉันขอดูวิดีโอตอนที่หลี่โม่อยู่ในสนามซ้อมได้ไหม”
ราชินีของสำนักหลงเหมินไม่สนใจว่าจะมีพิรุธหรือไม่ เธออยากรู้แค่พละกำลังของหลี่โม่
ข้อมูลที่รวบรวมเอาไว้ก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าพูดอวยนู่หลั่งจนลอย ราชินีของสำนักหลงเหมินแปลกใจว่าคนที่มีพละกำลังเหนือมนุษย์อย่างนู่หลั่ง พ่ายแพ้ให้กับหลี่โม่ได้อย่างไร
ฉู่จงเทียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาพูดเบาๆ ว่า “เรื่องนี้ผมต้องไปขออนุญาตก่อนครับ ผมอยู่ด้านจัดงาน จึงไม่มีสิทธิ์ไปขอดูกล้องวงจรปิด หากพวกคุณต้องการดูกล้องวงจรปิดในช่วงซ้อม ผมต้องได้รับการยินยอมจากประธานจัดการแข่งขันก่อนครับ”
“งั้นนายรีบไปขออนุญาตสิ มาอธิบายให้ฉันฟังโดยเร็ว”
“ได้ครับ ผมจะรีบจัดการ”
ฉู่จงเทียนโค้งคำนับและออกจากห้อง เขายืนเช็ดเหงื่อบนหน้าผากอยู่หน้าห้อง
จางเต๋ออู่ที่อยู่ในห้องพูดอย่างไม่พอใจว่า “ไอ้พวกต่างชาติหยาบช้าจริงๆ จัดการแข่งขันครั้งหนึ่งก็สร้างเรื่องวุ่นวายหลายเรื่อง”
“นายออกไปรอข้างนอก ถ้าพวกนั้นส่งวิดีโอมา นายค่อยเข้ามา”
ราชินีของสำนักหลงเหมินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จางเต๋ออู่เลิกคิ้วขึ้น เขารู้ว่าราชินีของสำนักหลงเหมินไม่พอใจที่เขาบ่น เขาจึงรีบออกจากห้อง
ท่านแปดนั่งหลังตรง เขารู้สึกว่าราชินีของสำนักหลงเหมินน่าจะคุยกับเขาสองต่อสอง
“เจ้าแปด นายแอบเกลียดฉันในใจใช่ไหม เกลียดที่ฉันแบ่งพื้นที่ในมือของนายมา”
ราชินีของสำนักหลงเหมินมองไปยังสนามมวยข้างนอก เธอพูดเหมือนกำลังคุยเล่น
“คุณพูดเกินไปแล้ว ผมจะเกลียดคุณได้ยังไง อย่างมากก็แค่ไม่พอใจนิดหน่อย ถ้าเป็นคนอื่นถูกแย่งพื้นที่ไปก็ต้องไม่พอใจอยู่แล้ว”
“หึหึ นายนี่รู้จักพูดนะ ฉันยังยืนยันคำเดิม ขอแค่นายหากุญแจลับจากหลี่โม่มาได้ ฉันจะตอบแทนให้นายอย่างงาม ให้นายนั่งในตำแหน่งราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมินก็ยังได้”
ท่านแปดอึ้งไป ซีกหน้าของเขากระตุก ไม่รู้ว่าในใจของเขารู้สึกซาบซึ้งหรือหวาดกลัวกันแน่
การที่สามารถนั่งในตำแหน่งราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมินคือสิ่งที่ท่านแปดปรารถนา แต่ท่านแปดรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถหวังถึงตำแหน่งนั้นได้
สิบกว่าปีที่สำนักหลงเหมินผ่านอะไรมามากมาย หลังจากราชาที่สี่ของสำนักหลงเหมินก็เกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหลายต่อหลายครั้ง แต่ตำแหน่งราชาทั้งสามของสำนักหลงเหมินก่อนหน้านี้ล้วนมั่นคงมาก
ก่อนหน้านี้ราชาทั้งสามของสำนักหลงเหมินควบคุมอำนาจและทรัพย์สินส่วนใหญ่ เรียกได้ว่าสามารถตั้งตัวเป็นอิสระกับเจ้าของสำนักหลงเหมินได้
หลายปีมานี้ราชาทั้งสามคนของสำนักหลงเหมินภักดีต่อสำนักหลงเหมิน พวกเขาจะถือผลประโยชน์ของสำนักหลงเหมินเป็นอันดับแรก ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่ในตำแหน่งได้อย่างมั่นคง
ทว่าตอนนี้ราชินีของสำนักหลงเหมินโยนส่วนได้ส่วนเสียมา ท่านแปดคิดว่ามันเหมือนระเบิด ถ้าขืนทำไม่ดีขึ้นมา ตัวเองจะโดนราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมินบดขยี้แน่นอน
แถมตอนนี้ยังมีข่าวว่าราชินีของสำนักหลงเหมินกับราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมินแวะเวียนไปมาหากัน ไม่มีเหตุผลที่ราชินีของสำนักหลงเหมินจะทำร้ายราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...