ความมืดปกคลุมท้องฟ้า
รถหรูทะเบียนต่างถิ่นจำนวนไม่น้อย ต่างพากันขับมายังสนามมวย
เหล่าเศรษฐีจำนวนมาก พากันมางานแข่งมวยดำสากล โดยเฉพาะเหล่าเศรษฐีที่ชอบการพนัน พวกเขามีนิสัยเย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก
หลินเจิ้งหนานลงมาจากรถเบนท์ลีย์ พวกเขาเดินฝ่าพวกเศรษฐี โดยมีความช่วยเหลือจากพ่อบ้านที่ประคองเขาและบอดี้การ์ดที่ล้อมรอบเขา
เหล่าเศรษฐีต่างพากันคิดว่าเขาเป็นอันธพาล และอยากสั่งสอนหลินเจิ้งหนานให้รู้ฤทธิ์
แต่ทว่าบอดี้การ์ดข้างกายของหลินเจิ้งหนานโชว์ปืนพกและปืนยาวออกมา ทำให้เหล่าเศรษฐีไม่กล้าพูดอะไรออกมา
เหล่าเศรษฐีต่างก็พาบอดี้การ์ดมาด้วย ซึ่งบอดี้การ์ดของพวกเขาก็พกปืนเช่นกัน แต่บอดี้การ์ดของพวกเขาอย่างมากก็พกปืนแค่กระบอกเดียวเท่านั้น
ทว่าบอดี้การ์ดของหลินเจิ้งหนานมีปืนกลเบาอยู่ในมือ แถมที่เอวยังมีปืนพกอีกสองกระบอก อาวุธเช่นนี้บ่งบอกได้เลยว่าหลินเจิ้งหนานไม่ใช่คนธรรมดา
เหล่าเศรษฐีที่ยืนขวางทางต่างพากันกลัวจนตัวสั่น หลินเจิ้งหนานส่งเสียงหึออกมา เขาเชิดหน้าขึ้นและเดินต่อไป
“โอ้ คิดว่าใครมาอวดดี เจ้าหลินนี่แสร้งทำอวดดีได้เก่งจริงๆ”
ท่านแปดเดินวางมาดเข้ามาพร้อมกับบอดี้การ์ดร่างกายกำยำข้างหลัง
หลินเจิ้งหนานได้ยินเสียงของท่านแปด ซีกหน้าด้านข้างของเขากระตุก แต่ไม่นานรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“ที่แท้ก็ท่านแปดนี่เอง คิดไม่ถึงว่าท่านแปดจะชอบการแข่งมวยด้วย ถ้ารู้ว่าท่านแปดมาด้วย เจ้าหลินจะยืนต้อนรับท่านหน้าประตูอย่างแน่นอน”
คนอายุครึ่งร้อยอย่างหลินเจิ้งหนาน เรียกตัวเองว่าเจ้าหลิน ดูยังไงก็รู้สึกประหลาด
ท่านแปดเดินวางมาดมายืนตรงหน้าหลินเจิ้งหนาน เขาหรี่ตาแล้วพูดว่า “นายมาดูใครแข่งเหรอ ได้ยินมาว่าเร็วๆ นี้นายเพิ่งเสียลูกชายไป ทำไมไม่นั่งไว้อาลัยให้กับลูกชายตัวเองที่บ้านล่ะ จะออกมาสร้างปัญหาทำไม”
สีหน้าของหลินเจิ้งหนานฉายแววขุ่นเคือง รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มชะงักไป
“ท่านแปด อย่าแกล้งคนให้ลำบากใจสิ ตอนนี้นายมีแค่บารมีของราชาของสำนักหลงเหมินเท่านั้น ไม่มีถิ่นเป็นของตัวเองแล้ว อย่าอวดดีเกินไปหน่อยเลย ฉันได้ยินมาว่าราชินีของสำนักหลงเหมินก็มาที่เมืองฮ่านด้วย”
“ข่าวเร็วจริงๆ ทำไม นายคิดอยากเจอราชินีของสำนักหลงเหมินเหรอ นายมีสิทธิ์ขนาดนั้นเลยเหรอ”
ท่านแปดมองหลินเจิ้งหนานอย่างเคียดแค้น ราวกับจะกินเขาเข้าไปทั้งตัว
“ฉันไม่มีสิทธิ์เจอราชินีสำนักหลงเหมิน แต่นายท่านของฉันทำได้ ฉันแค่กลับไปร้องไห้ นายท่านของฉันคงจะเห็นแก่หยาดเหงื่อแรงกายของฉันตลอดหลายปีและช่วยฉัน เมื่อถึงตอนนั้นกลัวว่าเมื่อมีคนตกต่ำผู้คนก็รุมกันกระทืบซ้ำน่ะสิ”
หลินเจิ้งหนานคือลูกน้องของราชาที่เจ็ดของสำนักหลงเหมิน เขาติดตามราชาที่เจ็ดของสำนักหลงเหมินมายี่สิบกว่าปีแล้ว เขาทำเพื่อราชาที่เจ็ดของสำนักหลงเหมินมาหลายต่อหลายเรื่อง เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงไม่ค่อยกลัวท่านแปด
อีกอย่างตอนนี้ท่านแปดเหมือนราชาของสำนักหลงเหมินที่ไร้เขี้ยวเล็บ เขามีเพียงชื่อเสียงเท่านั้น
ท่านแปดมองหลินเจิ้งหนานอย่างหงุดหงิด เขาพูดอย่างเกลียดชังว่า “นายกล้าดีนี่ ราชินีของสำนักหลงเหมินใกล้ถึงแล้ว นายรอราชินีของสำนักหลงเหมินกับฉันสิ”
“ราชินีของสำนักหลงเหมินก็มาด้วยเหรอ”
สีหน้าของหลินเจิ้งหนานฉายแววตื่นตระหนก
หลินเจิ้งหนานหวาดกลัวราชินีของสำนักหลงเหมินเป็นอย่างมาก เพราะราชินีของสำนักหลงเหมินเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่มาก
และความลับของราชินีของสำนักหลงเหมิน นอกจากแปดราชาของสำนักหลงเหมิน เหล่าลูกน้องของสำนักหลงเหมินที่อยู่ภายนอก มีเพียงไม่กี่คนที่เคยเห็นราชินีของสำนักหลงเหมิน
หลินเจิ้งหนานไม่เคยเห็นราชินีของสำนักหลงเหมินมาก่อน เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับราชินีของสำนักหลงเหมิน เขาได้ยินคนอื่นเล่าต่อกันมา
ท่านแปดไม่พูดอะไร เขาเอามือประสานกันไว้ตรงท้องน้อยและหลับตาพักผ่อน เพื่อรอการมาถึงของราชินีของสำนักหลงเหมิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...