“เรื่องนี้ยังไงก็ไม่มีทางแก้ หรือบางทีเขาอาจจะรู้วิธีต่อสู้จริงๆ ดูเหมือนบรูซ ลีที่ส่งเสียงฮู้ฮ้าออกมา”
แคลตี้ไม่สามารถอธิบายการตายของนู่หลั่งได้ จึงพูดปัดไปว่าหลี่โม่มีความสามารถด้านการต่อสู้
“ดังนั้นต้องตรวจสอบสิ่งที่ฉู่จงเทียนพูด ถ้ามีอยู่จริง นายคิดดูสิ ถ้ามีคนเก่งกว่าหลี่โม่แปดพันคนมารวมตัวกัน พละกำลังของพวกเขาจะมหาศาลแค่ไหน แม้แต่บอสของเราก็ไม่กล้าแตะต้อง!”
ทอมป์สันพูดด้วยความหงุดหงิดจนจบ เหงื่อไหลออกจากหน้าผากของแคลตี้เป็นจำนวนมาก เขารู้สึกว่าเมื่อครู่ตัวเองประมาทไป
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะจัดคนไปตรวจสอบ น่าจะได้อะไรที่ทำให้ชัดเจนขึ้น”
แคลตี้พูดจบก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรสั่งให้คนไปตรวจสอบตามที่ฉู่จงเทียนพูด
ทอมป์สันหลุบตาลงแล้วถามว่า “เฉินฟู่ล่ะ น่าจะส่งตัวไปถึงห้องปฏิบัติการแล้วใช่ไหม”
“ถึงแล้วครับ แต่ฉันยังไม่รู้สถานการณ์โดยรวม”
“แค่นั้นก็พอแล้ว ภารกิจของเราคือเอาตัวอย่างเลือดของหลี่โม่ ฉันว่าเราไม่น่าจะหวังอะไรได้จากการแข่งมวยดำ นายลองคิดดูสิว่ามีวิธีอื่นไหม”
ทอมป์สันไม่รู้ว่าจะจัดการกับหลี่โม่อย่างไรดี หลี่โม่ฝีมือเก่งกาจ คนมหาศาลแหลกคามือหลี่โม่ ทอมป์สันไม่อยากเสี่ยงอันตรายต่อไป ถ้าขืนรู้ว่าเขาเป็นคนบงการ เขากลัวว่าหลี่โม่จะบุกเข้ามาฆ่าเขา
“วิธีอื่นมันก็มี กลยุทธ์สาวงามเป็นไง พวกเราสามารถหาสายลับสาวสวยที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเพื่อทำสิ่งนี้”
แคลตี้คิดว่าการใช้สาวงามมาล่อหลี่โม่ เป็นเรื่องที่เข้าท่า โดยเฉพาะสาวผิวขาว ผมบลอนด์ที่เป็นชาวต่างชาติ จะต้องยั่วยวนความต้องการของหลี่โม่ได้แน่ เมื่อเลือดมันร้อนขึ้นหัว เขาต้องโดนสายลับสาวสวยจัดการได้อย่างแน่นอน
“อืม เป็นวิธีที่ดี ฉันว่าสาวงามที่กอดหลี่โม่เมื่อกี้ไม่ใช่ภรรยาของมัน มันน่าจะเป็นคุณชายเพลย์บอย” ทอมป์สันพยักหน้าพูดวิเคราะห์ออกมา
ยิ่งวิเคราะห์ทอมป์สันก็ยิ่งว่ามันเหมาะสม ใช้สาวงามจัดการผู้ชาย คงจะมีผู้ชายแค่ไม่กี่คนที่สามารถหลบเลี่ยงได้
“ทางที่ดีหาสาวงามที่ตรงกับรสนิยมของหลี่โม่ อย่าเลือกเอาแต่คนที่นายชอบ รสนิยมของแต่ละคนแตกต่างกันมาก”
“เข้าใจแล้ว ฉันจะใช้รสนิยมแบบตะวันออกมาเลือกและจะถูกตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ”
“รีบไปจัดการซะ”
ทอมป์สันโบกมือไปมา เขารู้สึกเหนื่อยใจมาก เดิมทีคิดว่าจะทำภารกิจสำเร็จอย่างง่ายดาย แต่ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่รับมือยาก
คางเหวินซิงขับรถเบนซ์ไปบนถนนอย่างมั่นคง เขาไม่กล้าหันไปมองด้านข้าง เพราะสายตาของหลี่โม่เย็นชาเป็นอย่างมาก
เฉินเสี่ยวถงที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลัง มองหลี่โม่ด้วยแววตาน้อยใจและน่าสงสาร “นายอย่าโกรธสิ ที่ฉันให้คางเหวินซิงเรียกว่าอาจารย์หญิงแค่ล้อเล่นเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ต่อไปฉันจะไม่ให้เขาเรียกแบบนั้นอีก”
“เธอบอกมาสิว่าเธอคิดยังไง ฉันรู้สึกว่าเธอคิดไม่ดีกับฉันมาตลอด บอกมาสิว่าเธอชอบฉันตรงไหน ฉันจะเปลี่ยนมันตอนนี้เลย”
หลี่โม่พูดออกมาอย่างเย็นชา
“ฉัน ฉันรู้สึกว่าตอนอยู่กับนายมันอบอุ่นมาก รู้สึกเหมือนอยู่กับพ่ออะไรทำนองนั้น ความรู้สึกตอนที่พ่อกอดฉันตอนเด็กๆ เหมือนตอนอยู่กับนาย”
คางเหวินซิงหน้าแดงก่ำ เขาเกือบจะหลุดขำออกมา “ผมขอพูดแบบกล้าๆ กลัวๆ เลยนะ อาจารย์ของผมไม่ใช่คุณลุงวัยกลางคน เป้าหมายรักคนรุ่นพ่อของคุณ คงจะมาหาผิดคนแล้ว”
“นายมายุ่งอะไร ตอนฉันเด็กๆ พ่ออายุเท่าพี่หลี่โม่เลย ฉันไม่ได้รู้สึกไปเอง ฉันยังไม่ทันได้เข้าเรียนชั้นประถม พ่อของฉันก็...... ฮือๆๆๆ”
เฉินเสี่ยวถงเอามือปิดหน้าและร้องไห้ออกมา นิ้วโป้งที่แอบอยู่หลังฝ่ามือขยี้ไปที่ดวงตาอย่างแรงจนน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
คางเหวินซิงได้ฟังก็อดเห็นใจไม่ได้ เขาช่วยพูดขอร้อง “อาจารย์ให้โอกาสเธอได้กลับตัวเถอะครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อาจารย์หญิงใหญ่ เอ่อ อาจารย์หญิงไม่ได้ยินซะหน่อย ไม่น่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรนะครับ”
“ในเมื่อคางเหวินซิงพูดแทนเธอ งั้นฉันจะไม่เซ้าซี้อะไรอีก ต่อไปอย่าพูดเล่นแบบนี้อีก ได้ยินหรือยัง”
หลี่โม่พูดอย่างจริงจัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...