“ใช่ๆ คนที่เป็นเทวดาแห่งรถได้ มีเพียงอาจารย์คนเดียวเท่านั้น คนอื่นก็แค่แอบอ้างเป็นเทวดาแห่งรถเท่านั้น”
คางเหวินซิงฉีกยิ้มและเอ่ยขึ้น
“ฉันก็ไม่ใช่เทวดาแห่งรถสักหน่อย การได้เป็นเทวดาหรือพระเจ้าที่พิสูจน์ได้อย่างรวดเร็วก็ไม่ใช่เรื่องดี ใครที่สามารถแข่งและตระหนักรู้เรื่องวิทยายุทธ ฉันก็จะยอมรับว่าคนนั้นเป็นเทวดาแห่งรถ”
คางเหวินซิงจ้องหลี่โม่ คิดไม่ถึงว่าหลี่โม่จะพูดสิ่งที่เปลี่ยนความคิดของเขาในหลายด้าน
“เทวดาแห่งรถ จะต้องตระหนักรู้ได้อย่างรวดเร็วด้วยเหรอ นี่มันยุคแห่งเทคโนโลยี ใครมันมารู้เรื่องวิทยายุทธล่ะครับ ถึงจะเป็นสมัยโบราณ เป็นร้อยเป็นพันปีที่แล้วก็คงไม่มีใครมีวิทยายุทธแล้วมั้งครับ บุคคลในประวัติศาสตร์อย่างจางซันเฟิงก็คงไม่สามารถทำได้”
“ก็ใช่ไง ตอนนี้ไม่มีเทวดาแห่งรถแล้ว อย่างมากก็แค่ราชาแห่งรถ”
หลี่โม่พูดจบก็หาวออกมา เขาเอนหัวพิงกับเบาะและหลับไป
คางเหวินซิงเห็นว่าหลี่โม่นอน เขาจึงไม่พูดอะไรต่อ และขับรถพลางครุ่นคิดคำพูดของหลี่โม่
วิทยายุทธอะไรนั่น คางเหวินซิงคิดว่าหลี่โม่จงใจพูดแบบนั้น หรือว่าหลี่โม่ไม่ได้ต้องการจะสื่อแบบนั้น
ถ้างั้นอาจารย์ต้องการจะสื่ออะไรกับเขา คางเหวินซิงย้อนกลับไปคิดถึงคำพูดของหลี่โม่ทีละคำ
“การตระหนักรู้อย่างนั้นเหรอ คงมีเพียงการตระหนักรู้ ที่จะสามารถทำให้สกิลการขับรถสูงขึ้น มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นราชาแห่งรถ วิทยายุทธอะไรนั่น ฉันคงไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว”
คางเหวินซิงคิดนั่นคิดนี่ เขาขับรถตาม GPS จนมาถึงตีนเขาของวัดหลิงซาน
เขาหลิงซานเดิมทีชื่อว่าภูเขาหลิงจิ้วซาน ว่ากันว่าตั๊กม้อนำคฤธรหลิงจิ้วจากชมพูทวีปมาเผยแผ่คำสอน เมื่อผ่านหลิงจิ้วซาน คฤธรหลิงจิ้วก็ตาย
ตั๊กม้อฝังคฤธรหลิงจิ้วไว้ที่หลิงจิ้วซานด้วยความโศกเศร้าเสียใจ เดิมภูเขาที่ไม่มีชื่อ จึงถูกเรียกว่าภูเขาหลิงจิ้วซาน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ภูเขาหลิงจิ้วซานถูกเรียกย่อเป็นเขาหลิงซาน และมีลูกศิษย์วัดตามมาเพราะตำนาน และสร้างวัดขึ้นบนภูเขา
วัดหลิงซานอยู่บนเขาหลิงซานประมาณสามสี่ร้อยปี และเป็นวัดที่เฟื่องฟูที่สุดในเมืองฮ่าน
ถึงขนาดที่ช่วงเทศกาล คนในเมืองเอกยังมากราบไหว้พระที่วัดหลิงซาน
รถเบนซ์จอดลงข้างทาง ไม่นานก็มีรถยนต์มาเซราติมาจอดข้างหลัง
คางหย่งเฉียนลงจากรถ ในมือหิ้วถุงขนาดใหญ่
คางหย่งเฉียนเดินมาที่เบาะหลังรถเบนซ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขาเปิดประตูและเข้ามานั่ง จากนั้นจึงนำถุงขนาดใหญ่วางไว้ตรงเบาะหลัง
“นี่คือของเล็กๆ น้อยๆ จากผม ถือว่าเป็นการไถ่โทษนะครับคุณหลี่”
คางหย่งเฉียนพูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ
หลี่โม่มองคางหย่งเฉียน เขายิ้มและพูดว่า “เกรงใจเกินไปแล้ว เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า”
“ครับๆ เข้าเรื่องกันเลย ถึงตัวผมจะอยู่อีกฝ่าย แต่ใจผมอยู่ฝั่งคุณนะครับ ถึงจะอยู่กับโจรเฒ่าโอหยาง แต่จิตใจของผมยังอยู่ทางสว่าง ผมอยากญาติดีกับคุณหลี่นะครับ”
หลี่โม่ได้ยินแล้วขนหัวลุก เขารู้สึกว่าคางหย่งเฉียนใช้คำแปลกๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...