เมื่อโดนเฉินเสี่ยวถงเข้ามาวุ่นวาย กู้หยุนหลันจึงเกรงใจ ไม่กล้าถามต่อ เธอลุกขึ้นและกล่าวลาอย่างจนปัญญา
หลังจากที่ออกจากห้อง กู้หยุนหลันพูดแกมดุ “เสี่ยวถง ทำไมพูดแบบนั้นต่อหน้าเจ้าอาวาสล่ะ นี่เป็นสถานที่ทางพุทธศาสนาที่ใสสะอาดนะ”
เฉินเสี่ยวถงย่นปากยู่ “พี่หยุนหลัน พี่เชื่อคำที่พระนั่นพูดเหรอ ฉันว่าเขาอยากหลอกเงินคนมากกว่า ไม่ต่างจากพวกดูดวง ดูฮวงจุ้ยหรอก”
“พี่หลี่โม่เก่งขนาดนั้น ไม่มีอุปสรรคใดขัดขวางเขาได้หรอก อย่าฟังคำที่พระนั่นเป่าหูเลย เรื่องร้ายแรงอะไรกัน หึ! ถ้าไม่พูดให้ร้ายแรง เขาจะหลอกเงินเราไม่ได้น่ะสิ”
เฉินเสี่ยวถงคิดว่าเจ้าอาวาสฝ่าจื้อเป็นพวกต้มตุ๋น อีกอย่างหลายปีมานี้ พวกพระต้มตุ๋นก็เยอะ พวกพระในวัดก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมจริงๆ สักหน่อย
กู้หยุนหลันมองเฉินเสี่ยวถงอย่างเหนื่อยใจ เธออยากจะอุดปากเฉินเสี่ยวถงจริงๆ
“เฮ้อ ไม่คุยกับเธอแล้ว เรากลับกันเถอะ”
กู้หยุนหลันส่ายหน้า เธอคิดในใจว่าทำตามที่เจ้าอาวาสฝ่าจื้อพูดดีกว่า ถ้ามีเรื่องอะไรค่อยมาหาเขาอีก รอให้เกิดเรื่องอะไรก่อน แล้วค่อยมาวัดหลิงซานอีกครั้ง
เฉินเสี่ยวถงเกาะแขนกู้หยุนหลัน เธอยิ้มตาหยีแล้วพูดว่า “แหม พี่หยุนหลันไม่ต้องกังวลหรอก พี่เชื่อคำพูดไร้สาระของพระนั่น แต่ไม่เชื่อความสามารถของพี่หลี่โม่เหรอ”
“ฉันเชื่อใจเขา แต่เรื่องร้ายแรงหลังจากเรื่องดีเป็นเรื่องจริง เรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้ มันกะทันหันไปหมด รู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริง และทำให้ฉันกังวลใจตลอดเวลา”
เฉินเสี่ยวถงมองกู้หยุนหลันอย่างสงสัย เธอรู้สึกว่าความคิดของกู้หยุนหลันดูกดดันมาก
ถ้าหลี่โม่ซื้อบ้าน ให้บริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านกับเธอ เธอคงจะดีใจจนตัวลอย ไม่มีทางมากังวลแบบนี้หรอก
หญิงสาวทั้งสองคน ต่างพากันคิดเรื่องในใจ และเดินออกจากวัดหลิงซาน
ในขณะเดียวกัน ราชินีของสำนักหลงเหมินเดินออกมาจากหลังฉากกั้น
เจ้าอาวาสฝ่าจื้อยิ้มประจบ จากนั้นจึงโค้งตัวแล้วพูดว่า “เมื่อกี้อาตมาทำได้ดีไหม”
“ก็ดี ตาเฒ่าอย่างคุณมีความสามารถในการหลอกคน ต่อไปต้องทำตามคำสั่ง แน่นอนว่าคุณจะได้ค่าตอบแทนที่ดีอย่างแน่นอน” ราชินีของสำนักหลงเหมินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อาตมาเข้าใจแล้ว จะทำตามคำสั่งของโยมอย่างแน่นอน แค่หลอกเด็กผู้หญิง เป็นเรื่องที่ง่ายมาก”
รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจ้าอาวาสฝ่าจื้อ
เจ้าอาวาสฝ่าจื้อเคยหลอกพวกผู้หญิงตระกูลร่ำรวย ให้ขึ้นเตียงและแก้ผ้ามาก็ไม่น้อย เจ้าอาวาสฝ่าจื้อมีความคิดไม่ดีกับกู้หยุนหลัน
ตอนที่ได้เห็นกู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถง เลือดในตัวของเจ้าอาวาสฝ่าจื้อพลุ่งพล่าน
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เจ้าอาวาสฝ่าจื้อคงใช้สกิลการพูดของตัวเอง หลอกให้กู้หยุนหลันอยู่อธิษฐานให้ผ่านเรื่องร้ายๆ กันแบบสองต่อสองไปแล้ว
ราชินีของสำนักหลงเหมินมองเจ้าอาวาสฝ่าจื้อ เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของเขา เธอจึงอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“หึหึ พระอย่างคุณก็ไม่อยู่ในศีลในธรรมสินะ แค่คุณจัดการเรื่องของฉันให้เรียบร้อย ผู้หญิงสองคนนั้นเป็นของคุณได้นะ”
เจ้าอาวาสฝ่าจื้อดีใจมาก เขารีบพูดว่า “ขอบคุณโยมมาก อาตมาจะทำเพื่อโยมอย่างเต็มที่!”
ราชินีของสำนักหลงเหมินเม้มปากสวย จากนั้นจึงโบกมือให้จางเต๋ออู่ “เต๋ออู่ นายออกไปก่อน ฉันจะคุยกับเจ้าอาวาส”
จางเต๋ออู่เลิกคิ้วขึ้น และจ้องเจ้าอาวาสฝ่าจื้อ ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นศัตรู
ราชินีของสำนักหลงเหมินจะทำอะไรกับเจ้าอาวาสฝ่าจื้อหรือเปล่า จางเต๋ออู่ไม่แน่ใจ แต่ราชินีของสำนักหลงเหมินจะคุยกับเจ้าอาวาสฝ่าจื้อ ทำให้จางเต๋ออู่รู้สึกกลัวขึ้นมา
จางเต๋ออู่รู้ว่าตัวเองไม่ได้สำคัญอะไร แค่ราชินีของสำนักหลงเหมินพอใจ จะเปลี่ยนคนดูแลในสองสามวัน ก็แค่เอ่ยปากพูดเท่านั้น
พูดก็พูดเถอะ เขาได้เลื่อนขั้นก็เพราะใช้ความปากหวาน เป็นเครื่องมือประจบราชินีของสำนักหลงเหมินเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...