สรุปเนื้อหา บทที่ 544 มืออาชีพที่สุด – จักรพรรดิมังกร โดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋
บท บทที่ 544 มืออาชีพที่สุด ของ จักรพรรดิมังกร ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ยอดเขาภูเขาเซียนถาย มีรถบัสคันใหญ่สองคันจอดอยู่ กับรถยนต์อีกห้าคัน รถพวกนี้เป็นรถของคนที่ฉู่จงเทียนพามา
ลูกน้องนับร้อยของฉู่จงเทียนคนที่รบเก่งที่สุด ยังมีสิบกว่าคนที่พกอาวุธ และนี่ก็เป็นพลังที่เข้มแข็งที่สุดที่ฉู่จงเทียนมี
แต่ว่าฉู่จงเทียนเข้าใจดี ลำพังแค่กำลังของลูกน้องพวกนี้ไม่พอหรอก
ช่วงเวลาที่อยู่กับทอมป์สันและแคลตี้ ทำให้ฉู่จงเทียนเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างลูกน้องตนเองกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างลึกซึ้ง
ไม่พูดถึงฝึมืออะไร แค่ฝีมือยิงปืนฝ่ายตรงข้าม ก็มากพอที่จะทำให้ฉู่จงเทียนปวดเศียรเวียนเกล้าได้แล้ว
เห็นรถเบนซ์ค่อยๆจอดลง ฉู่จงเทียนจึงรีบรุดหน้า เปิดประตูรถ
“คุณหลี่”
ฉู่จงเทียนพูดอย่างเคารพนบนอบ
“อืม ไอ้ฉู่ เมื่อกี้เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย แผนการคืนนี้ต้องเปลี่ยนหน่อยนะ”
หลี่โม่ลงรถพลางพูด
ในใจฉู่จงเทียนเกร็งไปหมด ใจร้อนลน พูดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น”
“ศัตรูของผมมันตามมา เดี๋ยวน่าจะมีการปะทะกันขึ้น คิดว่าน่าจะยืมมือคนของทอมป์สันได้ ฆ่าพวกตัวปัญหาทิ้งให้หมด”
ฉู่จงเทียนปรับใจให้นิ่ง ยิ้มแล้วพูด“ฟังคำสั่งของคุณหลี่”
“คนๆนั้นล่าถอยไปแล้ว เหลือไว้เฉพาะคนที่มีอาวุธก็พอ รอเดี๋ยว ผมอยู่บนรถ คุณรับผิดชอบแลกเปลี่ยนกับฝ่ายนั้นแล้วกัน ผมว่าหลังจากพวกคุณแลกเปลี่ยนเรียบร้อยแล้วคงมีการปะทะต่อสู้ ถึงเวลานั้นก็แค่ขึ้นรถแล้วล่าถอยก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องยุ่ง”
หลังจากที่หลี่โม่กำชับเรียบร้อย ฉู่จงเทียนก็ไม่ได้สงสัยอะไรอีก และรีบกำชับลูกน้องต่อ และทำตามคำสั่งของหลี่โม่
รถบัสสองคันขับพุ่งทะยานออกไป ทิ้งไว้แต่มือปืนไม่กี่สิบคนนั้น
หลี่โม่พาเฉินเสี่ยวถงกับคางเหวินซิงขึ้นรถเก๋ง แล้วทิ้งรถเบนซ์ไว้ให้ลูกน้องฉู่จงเทียน
ฉู่จงเทียนนำลูกน้องสิบกว่าคนยืนอยู่ข้างรถ รอการมาเยือนของพวกทอมป์สันอย่างเงียบๆ
……
ศิษย์พี่ใหญ่พาลูกศิษย์มาอยู่ที่ด้านหลังภูเขาเซียนถาย
“ตามรายงานสถานการณ์ พวกเขาทำการแลกเปลี่ยนกันที่ยอดเขา เพื่อที่จะไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น พวกเราต้องปีนขึ้นจากทางหลังเขา”
“ภูเขานี้ก็ไม่เตี้ยนะ ปีนลำบากมากเลย”
ลูกศิษย์คนหนึ่งบ่นขึ้น
ผัวะ!
ศิษย์พี่ใหญ่ตบบ้องหูลูกศิษย์คนที่บ่นเข้าอย่างจัง พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า“อย่ามาพูดอะไรขัดหูตรงนี้ แค่ปีนเขา สำหรับคนที่ฝึกวิทยายุทธ์อย่างพวกเรา นับประสาอะไร”
บรรดาศิษย์น้องต่างไม่พูดไม่จา ต่างก็หวาดเกรงกับบารมีศิษย์พี่ใหญ่
ศิษย์พี่ใหญ่กวาดตามองไปรอบๆศิษย์น้อง พูดอย่างเย็นชา“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับแผนการแก้แค้นให้อาจารย์ ฉันไม่อยากให้แผนการผิดพลาด คนที่ไม่อยากร่วม ตอนนี้ไสหัวไปได้”
ผ่านไปกว่าครึ่งนาที เห็นว่าไม่มีใครแสดงออกว่าจะถอย ศิษย์พี่ใหญ่จึงอบรมต่อ
“เรื่องที่เกิดขึ้นกับอาจารย์ พูดได้ว่าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของทุกคน แล้วทำไมเราจะกู้หน้าให้อาจารย์ไม่ได้เล่า ต่อไปพวกแกส่วนมาก แม้แต่ข้าวก็จะไม่มีกิน ฉันเลยคาดหวังว่าให้พวกแกเต็มที่!”
“พวกเราจะร่วมใจเต็มที่!”
ศิษย์น้องขานรับพร้อมเพรียงกัน
“หึ!ไอ้เซ่อเอ๊ย อย่าหนีหน้าไปไหนนะ นับแต่ตอนนี้ ทุกคนต้องฟังฉัน!”
“ต้องฟังศิษย์พี่ใหญ่!”ศิษย์น้องต่างพร้อมเพรียง
“ตอนนี้เริ่มขึ้นเขา ทุกคนต่างระวังการซ่อนเร้น ไม่สามารถส่งเสียงอะไรได้ อย่าให้ฝ่ายตรงข้ามจับได้ ต้องรอให้พวกเขาแลกเปลี่ยนเสร็จก่อน ต้องรอให้ผ่อนคลายก่อนถึงดำเนินการได้ เดี๋ยวถึงเวลาฉันจะใช้สัญญาณของสำนักในการออกคำสั่ง!”
“รับทราบ!”
รถค่อยๆเคลื่อนออก ไม่นานก็ออกจากสนามบิน มุ่งตรงไปยังภูเขาเซียนถาย
ครึ่งชั่วโมงหลัง รถของลอดรูว์ก็มาถึงยอดเขาภูเขาเซียนถาย
เห็นรถเก๋งห้าคันจอดอยู่ รวมถึงเห็นฉู่จงเทียนกับลูกน้องที่อยู่ข้างรถ ลอดรูว์ก็เผยยิ้มออกมา
“พ่อ!”
ฉู่ฟางเฉิงอุทานออกมาเบาๆ จากนั้นจึงมองฉู่จงเทียนอย่างตื่นเต้น
มือใหญ่ของลอดรูว์กดบ่าฉู่ฟางเฉิง“เจ้าหนูอย่าตื่นเต้นไป ยังไม่ถึงเวลาของเรา”
“นัดไว้กี่โมงครับ ผมจะกลับไปกับพ่อได้เมื่อไหร่”
“ใกล้แล้วล่ะ อีกสิบกว่านาที”
พูดจบลอดรูว์จึงเปิดระบบ“ฮัลโหล หัวหน้าวอลเลซ คุณสามารถนำทีมคุณดำเนินการได้แล้ว ผมอยากให้คุณรับประกันความปลอดภัยของการแลกตัวคนของกลุ่มเรา”
“ไม่มีปัญหา ทุกอย่างมอบหมายให้ผมเถอะ พวกเรามืออาชีพที่สุดแล้ว”
วอลเลซส่งสัญญาณมือให้ฝ่ายตรงข้าม หน่วยรบที่สิบเอ็ดต่างทยอยลงรถ อยู่ล้อมรอบภูมิทัศน์ ทำให้เกิดเป็นปะทุไฟ
ในหน่วยรบที่สิบเอ็ด ถึงขนาดมีนักรบสองนายขึ้นไปจู่โจมบนยอดเขาสูงสุด แล้ววางหมากล้อมหน้าเขาหลังเขาไว้
เมื่อเห็นหน่วยรบสิบเอ็ดผู้เฉียบคม ฉู่จงเทียนกับพวกถึงถอนหายใจออกมา
“แครก เด็กดีของฉัน พวกหน่วยรบต่างประเทศนี่ก็เชี่ยวชาญเกินไปแล้วมั้ง ฉันว่าน่าจะเป็นแค่ทหารรับใช้มากกว่า”
“ไม่แน่ว่าอาจจะดุดันกว่าทหารรับใช้ก็ได้ ฉันเห็นว่าพวกนี้มีความเฉียบคมในความเฉียบคม”
“สวรรค์ ทำไมรู้สึกใจสั่นแบบนี้ พวกนี้ทำให้คนรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย”
ฉู่จงเทียนขมุ่นคิ้ว หันไปมองรถเก๋งของหลี่โม่ ในใจจึงสงบขึ้นมาหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...