หลี่โม่หัวเราะอย่างเย็นชา และยกมือซ้ายขึ้นมาก็ตบเข้าที่ใบหน้าของหญิงชรา ตบจนทำให้หญิงชราหมุนตัวอยู่กับที่ไปหลายรอบ
“หน้าตามันต้องสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง ในเมื่อคุณจะไร้ยางอายเช่นนี้ งั้นฉันก็ไม่เกรงใจแล้ว”
หลี่โม่เขย่าฝ่ามือ สายตามองไปที่ชายทั้งสอง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกคุณอยากจะตบด้วยไหม”
“เชี่ย! กล้าตบฉันงั้นเหรอ! คนโต คนรอง พวกคุณสองคนมัวแต่ยืนมึนงงอะไรกันอยู่เหรอ เขาตบตีแม่ของพวกคุณ! พวกคุณจับตัวมันไว้เดี๋ยวนี้ และตบเขาให้ดีๆ สักครั้ง วันนี้ฉันจะเกาให้ใบหน้าของเขาเสียโฉมไปเลย!”
หญิงชราโกรธมากจนบ้าคลั่งไปเลย กระโดดและตะโกนเสียงดังว่า ปล่อยให้ลูกชายสองคนที่แกล้งเป็นคนสัญจรไปมาไปจัดการกับหลี่โม่
ลูกชายสองคนของหญิงชรานั้นเผยท่าทีดุร้าย และเริ่มอาละวาดและโจมตีหลี่โม่อย่างชั่วร้าย
กู้หยุนหลันรู้สึกประหม่าเล็กน้อย และรีบเปิดประตูรถและลงจากรถ พยายามไม่อยากจะทำให้สถานการณ์ขยายตัวต่อไป
ทันทีที่ได้ลงจากรถ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนน่ากลัวสองครั้ง ลูกชายทั้งสองของหญิงชราปิดใบหน้าด้วยมือและก้มเอวของพวกเขา และเดินถอยหลังไปสองก้าวเหมือนกุ้ง
“ถุยๆ !”
ในปากของพวกเขาสองคนคายออกเป็นน้ำลายที่เปื้อนเลือด และยังมีฟันกรามหลังสองสามซี่ก็ถูกคายออกมาเช่นกัน
“แม่งเอ๊ย ถูกต่อยจนฟันหักแล้ว อย่าแม้แต่จะคิดที่จะจากไปถ้าคุณไม่ชดใช้มาสักแปดแสนในวันนี้!”
หญิงชราตะโกนอย่างโกรธเคืองว่า “พวกคุณทั้งสองช่างไร้ประโยชน์จริงๆ สองคนยังไม่สามารถเอาชนะคนเดียวได้ รีบขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย ทุบตีเขาแรงๆ สิ ถือโอกาสที่เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ไป”
หลี่โม่ไม่ได้สนใจต่อเสียงโห่ร้องของทั้งสามแม่ลูกที่แบล็กเมล์นี้ และกำลังโทรหาหัวหน้าจางด้วยโทรศัพท์มือถือของเขา
หัวหน้าจางได้ยินตำแหน่งที่หลี่โม่รายงาน และรีบขับรถไปพร้อมกับลูกน้องของเขา
ชายทั้งสองรู้สึกหน้าแดงหูร้อนจากสิ่งที่หญิงชราพูด และเพิ่มความกล้าหาญขึ้นมาอีกครั้ง และรีบวิ่งพุ่งเข้าไปทางหลี่โม่
หลี่โม่เขย่ากำปั้น และต่อยเข้าที่ดั้งจมูกของพวกเขาคนละที เลือดกำเดาของทั้งสองก็ไหลออกมาทันที
ชายทั้งสองรู้สึกเพียงแค่เจ็บที่จมูก และหันกลับไปหาแม่ด้วยท่าทางที่ปิดใบหน้าด้วยมือ
“แม่ครับ เราถอยทัพกันเถอะ นี่เป็นคนที่แข็งแกร่ง เขายังรู้จักกับสายตรวจอีกด้วย คนแบบนี้เราไม่สามารถยั่วยุได้”
“ยั่วยุไม่ได้ก็บ้าแล้ว คนเท้าเปล่าไม่กลัวคนที่ใส่รองเท้าหรอก เรามีเวลาตั้งมากมาย ไม่ต้องกลัวว่าจะมีปัญหา! ต่อให้พวกเราจะเป็นฝ่านแบล็คเมล์ก่อน แต่ตอนนี้พวกเราสามคนก็โดนทุบตีจนเจ็บหนักขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล!
ยังมีค่าเสียงาน ค่าเสียหายทางจิตใจ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกหลายอย่าง พวกคุณลองคิดคำพูดไว้ก่อน อีกสักครู่สายตรวจมาแล้วก็เล่นตัวแบบไม่มีเหตุผลตามแม่ ไม่ต้องไปกลัวสายตรวจหรอก”
บนใบหน้าของหญิงชราเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง และดูเหมือนจะมีประสบการณ์มากมายในการต่อสู้
กู้หยุนหลันได้ยินแล้วรู้สึกเวียนหัว และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่ามีคนประเภทนี้ดำรงอยู่ด้วย มันล้มล้างความรู้ความเข้าใจของเขาแล้วจริงๆ
“หลี่โม่ นี่พวกเขา นี่ ควรทำอย่างไร”
กู้หยุนหลันตื่นตระหนก และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
หลี่โม่ลูบหัวกู้หยุนหลันเบาๆ กู้หยุนหลันเม้มริมฝีปากและมองไปที่หลี่โม่ และแกล้งทำเป็นโกรธและกล่าวว่า “คุณลูบเส้นผมของฉันทำไม? คุณก็ไม่ใช่อิคคิวซัง ลูบหัวแล้วก็จะสามารถเกิดไอเดียขึ้นมาได้เหรอ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า อิคคิวซังคือสึกิ สึกิ (ตัดน้องชาย) เป็นแบบนั้นก็คงแย่มากเลย”
กู้หยุนหลันไม่เข้าใจกับคำพูดที่หลี่โม่พูดออกมา และพูดด้วยท่าทางงงงวยว่า “สึกิ สึกิของอิคคิวซังมันเป็นอะไรเหรอ มันก็เหมือนกับในการ์ตูนไง”
“เอ่อ ไม่มีอะไร คนที่มาช่วยแก้ปัญหาให้พวกเรามาแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...