สรุปตอน บทที่ 71ปากหวานก้นเปรี้ยว – จากเรื่อง จักรพรรดิมังกร โดย เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋
ตอน บทที่ 71ปากหวานก้นเปรี้ยว ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิมังกร โดยนักเขียน เฟยเหนี่ยวปู้เจ๋ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 71ปากหวานก้นเปรี้ยว
หลี่โม่เห็นกู้หยุนหลันมองตัวเขาด้วยใบหน้าที่สงสัย กำลังที่จะเอ่ยปากถาม โทรศัพท์ของเธอได้ดังขึ้น
กู้หยุนหลันเห็นชื่อที่แสดงบนจอโทรศัพท์ ก็ขมวดคิ้วและพูดว่า:“ รำคานเจ้าคนนี้จริงเลย”
และได้รับโทรศัพท์ พูดด้วยความสุภาพ:“ ฮาโหล ซู๋ไห่เทียน นายมีเรื่องอะไรหรือ?”
เสียงในสาย ซู๋ไห่เทียนพูดด้วยความตื่นเต้นว่า:“ หยุนหลัน เธอได้รับการ์ดเชิญหรือยัง?”
การ์ดเชิญหรือ?
กู้หนุนหลันมองไปที่การ์ดเชิญvienna สีทองที่อยู่ในมือ เธอถึงรู้ว่าการ์ดเชิญนี้เป็นของซู๋ไห่เทียน
ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นของหลี่โม่ซะอีก
คิดไปคิดว่าก็สมเหตุสมผล เพราะคนอย่างหลี่โม่จะให้ของขวัญเธอเป็นบัตรเข้าชมvienna concertได้ไง
เพราะบัตรแพงมาก
“ฉันได้รับแล้ว ขอบคุณนะ” กู้หยุนหลันยิ้มตอบ:“ แต่บัตรเข้าชมนี้ฉันรับไว้ไม่.....” กู้หยุนหลันที่กำลังจะพูดว่ารับไว้ไม่ได้ ซู๋ไห่เทียนเหมือนจะรู้ว่าเธอจะพูดแบบนี้เลยพูดแทรกมาว่า:“ อุ๊ย เธอรับไว้เถอะ บัตรราคาไม่เท่าไหร่เอง ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆ ของฉันก็แล้วกันนะ เพราะถ้าเธอไม่รับไว้ฉันจะเสียเงินฟรีๆเลยนะ”
“คือ แบบนี้ไม่ค่อยดีไหมค่ะ......” กู้หยุนหลันกำลังพัวพันอยู่เหมือนดั่งสุภาษิตที่เคยกล่าวไว้ว่าถ้ารับของคนอื่นมาโดยฟรีๆ จะรู้สึกไม่ค่อยดี ที่สำคัญซู๋ไห่เทียนมีใจให้เธอ ถ้าเธอรับของขวัญนี้ไว้ จะดูเหมือนว่าเธอก็มีใจให้กับเขา และตอนนี้เธอก็มีหลี่โม่เป็นสามีแล้ว
” ก็ไม่ได้ผิดอะไร รับไว้เถอะ ฉันวางสายแล้วนะ มีธุระที่บริษัทนิดหน่อย”
พูดจบ ซู๋ไห่เทียนก็ได้ตัดสายไป
กู้หยุนหลันรู้สึกจนปัญญา การ์ดเชิญสีทองในมือของเธอ ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำอย่างไร
“ใครโทรมาหรือ?” หลี่โม่ถามไป
“ซู๋เทียนไห่โทรมา เขาบอกบัตรนี้เขาเป็นคนซื้อให้ นายว่าฉันควรจะไปร่วมงานไหม?” กู้หยุนหลันถามหลี่โม่
หลี่โม่อึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน การ์ดเชิญนี้ซู๋เทียนไห่เป็นคนให้หรือ?
มันฝันไปหรือ!
จะให้คนหน้าไม่อายแบบนี้มาทำลายผลงานของตนเอง......
“หยุนหลัน ความจริงแล้วการ์ดเชิญนี้.....” หลี่โม่กำลังจะพูด ขณะเดียวกันหวังฟางและกู้เจี้ยนหมินได้กลับมาถึง และเข้ามาในบ้าน หวังฟางได้กลิ่นอะไรแปลกๆ และตะโกนถามไปว่า:“ หลี่โม่ นายกำลังทำอะไรอยู่? กระทะจะไหม้หมดแล้ว!”
“อ้า อ่อๆ มาแล้วๆ!” หลี่โม่ตกใจตีที่ได้ขาของตัวเอง ยังไม่ทันจะพูดต่อ หลี่โม่รีบตรงไปที่ห้องครัว
กู้หยุนหลันมองไปที่ห้องครัวในตอนนี้ที่ยุ่งวุ่นวายเธอสงสัยว่าเมื่อกี้หลี่โม่จะพูดอะไร?
แต่กู้หยุนหลันก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เธอถือการ์ดเชิญและลังเลอยู่เกือบครึ่งวัน และโทรไปหาจินซ่านน่า:“ น่าน่า คืนพรุ่งนี้ไปงานvienna concertเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ”
“Vienna concertหรือ? หยุนหลัน เธอซื้อบัตรทันหรือ?” ในสาย จินซ่านน่าดูตื่นเต้นมาก
ซู๋เทียนไห่ซื้อเป็นให้ฉัน สามารถพรเพื่อนไปได้หนึ่งคน” กู้หนุนหลันพูดไปยิ้มไป
“ซู๋เทียนไห่?นายคนนี้ไม่เลวนี่น่าเก่งกว่าหลี่โม่ของเธออีก” จินซ่านน่าตอบ ทั้งสองคนนี้ก็คุยกันไปเรื่อย
จนมาถึงตอนกินข้าวเย็น หวังฟางได้รู้เรื่องนี้ เธอเอาการ์ดเชิญสีทองนี้และพูดอย่างอารมณ์ดีว่า:“ โอ๊ย เจี้ยนหมิน นายดูสิ เทียนไห่เขารู้ใจคนอื่นมากเลยนะ vienna concert นี่เป็นงานที่ผู้หญิงอย่างเราชอบมากไม่ใช่หรือ เจ้าคนนี้ ชั่งรู้ใจคนอื่นจัง
กู้เจี้ยนหมินมองไปที่การ์ดเชิญสีทอง ได้ตอบอย่างรำคาญไปว่า อือ กู้เจี้ยนหมินมองไปที่หลี่โม่ และเตะไปที่ขาของเขา ถามไปว่า:“หลี่โม่ นายไม่มีความคิดเห็นอะไรเลยหรือ?
หลี่โม่ยิ้มและตอบว่า:“ คุณพ่อ ผมจะมีข้อคิดเห็นอะไรละครับ ถ้าผมจะบอกว่าการ์ดนี้ผมเป็นคนซื้อให้จะมีใครเชื่อผมไหม? ถ้าหยุนหลันชอบ ผมก็ไม่มีอะไรหรอก”
ได้ยินที่หลี่โม่พูดแบบนี้ กู้เจี้ยนหมินส่ายหัวและคิดในใจว่าตัวเองไม่น่าพูดออกมาเลย ฉันก็หวังว่าลูกจะได้ดิบได้ดี
อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นลูกเขยจะให้คนอื่นมาให้ของขวัญลูกสาวเพื่อสร้างความสัมพันธ์ กู้เจี้ยนหมินก็รู้สึกไม่ค่อยดี
และตามวัฒนธรรม ดั่งสุภาษิตที่ว่าแต่งกับไก่ก็ตามไก่ แต่งกับสุนัขก็ตามสุนัข
กู้หยุนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินแบบนี้ เธอคิดในใจว่าคนปากหวานก้นเปรี้ยวในที่ทำงานชั่งเยอะจริงๆ
ปากหวานก้นเปรี้ยว
สิ่งที่น่าตลกก็คือ กู้ซิงเว๋ยทำอะไรเธอไม่ได้ ก็เลยให้แฟนของเขามาจัดการเธอนี้หรือ?
เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรและตอบไปว่า:“เอาละ ไม่มีอะไรหรอก ฉันกับผู้จัดการกู้เป็นญาติห่างๆกัน เขาคงไม่ทำอะไรฉันหรอก
และฉันก็ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย หุ้นส่วนคนนั้นจะพุ่งเป้าหมายมาที่ฉันได้หรือ?”
เลขาของเธอพยักหน้าและพูดด้วยความเป็นห่วงว่า:“แต่ว่าคุณหยุน คุณก็ควรระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะ เธอเป็นคนที่อันธพาลและไม่ยอมใคร คุณปู่ยังเอาเธอไม่อยู่เลย”
สีหน้ากู้หยุนหลันในตอนนี้ดูไม่ดีเลย เธอได้พยักหน้าว่าเข้าใจ กู้หยุนหลันได้เอาแผนร่างโครงการใหม่และใบเสนอราคาเข้าไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
เพราะห้องทำงานของรองผู้อำนวยการยังเก็บกวาดไม่เสร็จ เธอเลยยังอยู่ในห้องของตัวเอง
สิบกว่านาทีต่อมา กู้หยุนหลันออกมาจากห้องทำงานตัวเอง
และมีผู้หญิงที่ดูสูงส่งแต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็นเดินมา เธอใส่ชุดเสื้อเกาะอกเปิดไหล่และกระโปรงเดรสสีดำ
“สรีระที่สวยงาม” เอวที่เรียว ขาที่เรียวยาว ผมที่มัดเป็นกระจุก อยู่ด้านหลังศีรษะ ต่างหูเพชรที่ส่องแสงระยิบระยับ
ให้ความรู้สึกเหมือน ราชินีได้เสด็จมา
ใบหน้าที่เย็นเยียบ แววตาที่ดูสูงส่ง
ดูไม่น่าเข้าหาเลย
กู้หยุนหลันยิ้มและหันข้างหลบให้เธอ
แต่หญิงคนนี้กลับตรงมาที่กู้หยุนหลัน และตบไปที่ใบหน้าของกู้หยุนหลันอย่างแรง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...