บทที่ 1 ลูกเขยแต่งเข้า
“เอาเงินทำไม ให้ไอ้สวะนี้ไปยอมรับความผิดและเข้าคุกแทนหานเจี้ยนเย่”
“ใช่ๆ ตระกูลของพวกเราขาดไอ้สวะคนนี้ไป และยังประหยัดเงินได้หนึ่งล้าน ได้ผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย”
” ดูคุณพูดแบบนี้สิ ไอ้สวะไม่ใช่คนหรือไง พวกคุณให้เขาไปรับผิด หานหยู่เยนเห็นด้วยหรือยัง สวะในสายตาของพวกเรา ในสายตาของคนอื่นกลับเป็นตั้งสามีที่ดีเลยนะ”
เมืองเจียง บ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน
ในห้องโถงใหญ่ทุกคนต่างก็แดกดันถากถาง แล้วกำลังวิพากษ์วิจารณ์ชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่ง
“เลี้ยงหมาสามปี ก็มีเวลาที่ใช้ประโยชน์มันแล้ว”
“คุณกำลังพูดภาษาคนหรอ? หมาไปทำผิดอะไรกับคุณ คุณถึงต้องเหยียดหยามหมาแบบนี้”
“ฮ่าๆๆ ”
ทุกคนหัวเราะเสียงดัง
โล่เฉินที่ต้องเผชิญกับการดูหมิ่นของทุกคน เขากำหมัดแน่นจนมือขาวซีด
สามปีก่อน เขาเร่ร่อนไปถึงเมืองเจียง วาสนาทำให้เขาบังเอิญได้แต่งเข้าไปในตระกูลหาน เคยทำให้ครึกโครมไปชั่วขณะ
แต่ว่าคนที่ถูกผู้อื่นวิพากษ์วิจารณ์กลับไม่ใช่เขา กลับเป็นสาวสวยที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียง หานหยู่เยน และได้แต่งงานกับสวะที่ไม่รู้นาม
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องตลกขบขันที่แวดวงคนชั้นสูงต้องพูดคุยเล่นกันหลังทานมื้ออาหารเสร็จ และเขาก็ถูกมองว่าเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านที่ไร้ประโยชน์
สามปีมานี้ เขาทนกับการดูหมิ่นทั้งหมด แล้วตกอับเหมือนหมา
แน่นอน คนที่ต้องอดทนมากกว่าเขาก็คือหานหยู่เยน
และได้สามีสวะคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าคนมากน้อยแค่ไหนที่เหยียดหยามถากถางเธอ แม้กระทั่งญาติตระกูลหานยังไม่เว้น
ทว่าต่อให้เป็นโลกภายนอกหรือว่าการดูหมิ่นหลากหลายรูปแบบของตระกูล หานหยู่เยนก็ไม่เคยระบายอารมณ์กับโล่เฉิน สองสามีภรรยาไม่ได้มีมีความสัมพันธ์ที่ไม่เข้ากันเหมือนน้ำและไฟ ทว่าก็ไม่ถือว่าดีมาก เป็นสถานะที่ไม่เย็นและไม่หนาว
สำหรับตอนนี้ คือพ่อตาหานเจี้ยนเย่ที่เป็นคนขับรถชนคนตาย และต้องการเงินหนึ่งล้าน ภายในสามวันหากเงินไม่ถึงญาติผู้ตายก็จะให้พ่อตาเข้าคุก วันนี้เป็นวันสุดท้าย
"คุณย่า พ่อเป็นลูกของท่าน ท่านไม่สามารถเห็นคนกำลังจะตายแล้วไม่ช่วยสิ" โล่เฉินขอร้องอีกครั้ง
"ไอ้สวะ แกมีสิทธิ์พูดอะไร อีกอย่าง เมื่อกี้ฉันไม่ใช่ให้คำแนะนำแล้วหรือไม่ ยังไงแกก็ไม่มีประโยชน์ ไปรับผิดแทนพ่อตาของแก เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก"
คนที่พูดคือชายหนุ่มที่มีบุคลิกลักษณะองอาจห้าวหาญ ชื่อว่าหานหยุนเทา เป็นหลานชายเอกคนโตของตระกูลหาน"
"หานหยุนเทา นายทำเกินไปแล้ว"
โล่เฉินเป็นสามีของตนเอง และถูกข่มเหงมาหลายครั้ง หานหยู่เยนจึงอดทนไม่ไหว
"ฉันทำเกินไป ตลกล่ะ! "
หานหยุนมีคิ้วเฉียบคม แล้วแค่นเสียงดัง "ปัญหาหานเจี้ยเย่หามา มีสิทธิ์อะไรมาให้ตระกูลรับผิดชอบ พวกเราตระกูลหานแค่ตระกูลเล็กๆ เงินหนึ่งล้านสำหรับตระกูลแล้วไม่ใช่จำนวนเล็กๆ! "
"หานเจี้ยนเย่หาเหาใส่หัวเอง โทษคนอื่นไม่ได้ ไปชนคนอื่นตาย ไปติดคุกก็เป็นเรื่องที่สมเหตุอยู่แล้ว" มีคนพูดขึ้นอย่างคล้อยตาม
หานหยู่เยนอธิบายอย่างเร่งรีบ "ไม่ใช่แบบนี้นะ ผู้เฒ่าคนนั้นเป็นมะเร็ง มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว เพื่อที่จะโกงเงินจึงตั้งใจรนหาที่ตาย นี่โทษพ่อฉันไม่ได้ แค่บอกได้ว่าเฮงซวย! "
"โธ่ เรื่องเฮงซวยกลับเป็นเขาที่ได้เจอ คนอื่นทำไมถึงไม่ได้เจอ! "
"เกือบจะโง่กันทั้งครอบครัวแล้ว ลูกเขยก็เป็นไอ้สวะ พ่อตายังเป็นคนโง่อีก"
"เงินนี้ ตระกูลออกให้ไม่ได้! "
ได้ยินญาติทุกคนดูหมิ่นอย่างไร้เยื่อใย หานหยู่เยนรู้สึกโมโหและสิ้นหวัง
วันนี้เป็นงานวันเกิดครบเจ็ดสิบปีของคุณย่า ทุกคนในตระกูลหานก็มาถึง ทั้งครอบครัวของเธอทีแรกอยากถือโอกาสขอเงินหนึ่งล้านกับคุณย่า และนึกว่าพวกญาติๆ จะช่วยเขาพูด
นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะกลายเป็นสภาพแบบนี้
เลือดเย็นขนาดนี้
"พวกเธอทั้งครอบครัวไม่ได้สร้างผลงานอะไรให้กับตระกูลเลย กลับยังจะให้ทางตระกูลเสียเงินให้เธอ มีเหตุผลแบบนี้ได้ยังไง อีกอย่าง วันนี้เป็นวันเกิดของแม่ เธอทำให้งานวันเกิดต้องพัง มีความผิดใหญ่หลวง อีกทั้งยังบีบบังคับขอเงิน! "
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้น
เขาคือลูกชายคนโตของคุณย่า พ่อของหานหยุนเทาหานเจี้ยนกั๋ว แค่เห็นเขาชี้ไปตรงประตูใหญ่ แล้วพูดอย่างไร้เยื่อใย "ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ อย่ามาทำตัวอับอายขายหน้าแบบนี้"
"ลุง พ่อคือพี่น้องแท้ๆ ของลุง ทำไมถึงทำแบบนี้ได้"
"เหอะ ทำผิดก็ควรถูกลงโทษ ไม่มีอะไรน่าพูดถึงอีก ตระกูลมีกฎที่เข้มงวด ใครก็ไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้" หานเจี้ยนกั๋วพูดความสีหน้าที่นิ่งเฉย
เหล่าญาติไร้ความรู้สึก ลูกสาวสิ้นหวัง
หลิวเซียงหลันที่ไม่พูดไม่จาตลอดมา จึงได้คุกเข่าลงทันที แล้วโขกหัวกับพื้น
แล้วมองคุณย่าที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งหลักและกำลังทำสีหน้าที่นิ่งเฉย จึงได้ร้องไห้และพูดไปด้วย "พ่อ ขอร้องเถอะ ช่วยเจี้ยนเย่ด้วย หนึ่งล้านถือว่ายืมให้พวกเรา พวกเราจะค่อยๆ คืน"
"ใช่ค่ะคุณย่า วันข้างหน้าเงินเดือนของหนู หนูไม่เอส และทำงานฟรีๆ ให้บริษัท"
หานหยู่เยนก็ร้องไห้คร่ำครวญ
"ตลก เงินเดือนเธอแค่ไม่กี่พัน ปีไหนถึงจะคืนครบหนึ่งล้าน หนึ่งล้านนี้หากตระกูลนำไปลงทุน ก็ไม่ดีกว่าหรอ"
หานหยุนเทาทำสีหน้าที่ดูหมิ่ย เขาเป็นหลานเอกคนโตของตระกูลหาน เขาไม่ชอบหานหยู่เยนมาตลอด
ตอนนี้มีโอกาส แน่นอนว่าต้องถือโอกาสล้างผลาญอยู่แล้ว
"พวกเธอทั้งครอบครัวช่างเป็นเนื้อร้ายจริงๆ "
"สามปีก่อน เธอกับไอ้สวะแต่งงาน ทำให้พวกเราตระกูลหานกลายเป็นที่ตลกของเมืองเจียง ตอนนี้ พ่อของเธอสร้างปัญหาใหญ่ และยังจะมาสูบเงินตระกูลอีก ฝันไปเถอะ! "
"อีกอย่าง ฉันมองว่าท่าทางของพวกเธอก็ไม่เหมือนมาขอร้องคน"
หานหยุนเทาทำนัยน์ตาที่เหลือบไปมา แล้วหยุดอยู่ที่โล่เฉิน พร้อมพูดอย่างแปลกพิลึก "ดูลูกเขยคนโตของตระกูลหานของพวกเราสิ ไม่ได้พูดอะไรตลอดมา สูงสง่าขนาดไหน ใบหน้านั้น ไม่มีอารมณ์ใดๆ นัยน์ตานั้น เลือดเย็นขนาดไหน กำลังดูถูกพวกเราอยู่หรอ"
คำพูดนี้ออกมา สายตาของทุกคนจึงมองไป
"คุณพูดพอหรือยัง" โล่เฉินทำน้ำเสียงที่เย็นชา
"พูดไม่พอ ไหนๆ แกก็ไม่ยอมไปรับผิด ก็ได้ เห็นแก่ที่เราเป็นตระกูลเดียวกัน จะให้โอกาสแก"
หานหยุนเทาทำนัยน์ตาเปล่งประกายความเจ้าเล่ห์ แล้วหรี่ตาลงพลางพูด "แค่คุกเข่าเรียกฉันว่าพ่อสามครั้ง ฉันจะพิจารณายืมเงินให้พวกแกทั้งบ้านหนึ่งล้าน เป็นยังไง? "
บูม!
บรรยากาศถูกชนวน
ชายหนุ่มรุ่นผู้น้อยของตระกูลหานแอบนับถือ คุณย่าอยู่ในเหตุการณ์ หานหยุนเทากลับบังอาจขนาดนี้
ทว่าพอนึกถึงคุณย่าที่รักและเอ็นดูหลานชายเอกคนโต จึงได้มองข้ามไป
"คนบ้านเดียวกัน ฉันก็ไม่อยากจะใจร้ายเกินไป แต่ว่าก็ไม่สามารถให้เงินแกไปฟรีๆ แบบนี้ สุภาษิตกล่าวได้ดี พี่น้องแท้ๆ ยังต้องคิดบัญชีกันให้ชัดเจน โอกาสนี้หายาก ต้องดูว่าแกจะทำยังไง! "
โล่เฉินรู้สึกโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ขอบตาแดงก่ำแล้วกำลังจับจ้องหานหยุนเทาอยู่
"แหม นี่สีหน้าอะไรกันเนี่ย กำลังจะกลืนกินฉันหรอ
หานหยุนเทาแกล้งทำเป็นกลัว แล้วตบหน้าอก พลางเอียงตาและพูดขึ้น "คุณป้าหลิว อย่าโทษฉันไม่ให้โอกาสพวกแก แกที่เป็นลูกเขยไม่ยินยอมเอง นี่ฉันก็ไม่มีวิธี ขอโทษด้วยนะ! "
ไม่ง่ายที่จะมีความหวังเล็กๆ ขึ้นมา ทำไมถึงบินหายแบบนี้
หลิวเซียงหลันทั้งใจร้อนและโกรธ จึงตวาดด้วยเสียงเข้ม "โล่เฉิน คุกเข่าลง! "
"แม่ ผม....."
"แกอะไรแก แกที่เป็นแค่ไอ้สวะยังมีเกียรติอะไรอีก รีบคุกเข่าแล้วทำตามที่หยุนเทาพูด"
พอเห็นโล่เฉินยังไม่ขยับ หลิวเซียงหลันจึงเครียดขึ้นมาทันที แล้วตบหน้าเขาแรงๆ
เพี๊ยะ
เสียงดังฟังชัด
ลูกหลานของตระกูลหานต่างก็มองด้วยความน่าสนใจ และได้ซุบซิบตลอดเวลา แล้วเผยยิ้มอย่างเย้ยหยันออกมา
ทั้งใบหน้าของโล่เฉินถูกตบจนแดงไปทันที
หานหยู่เยนกำลังจะพูดอะไรออกมา ทว่าก็กัดริมฝีปากจนขาวซีด
"สามปีมานี้แกกินของฉัน ใส่ของฉัน อยู่ของฉัน ตอนนี้แกต้องอุทิศตัวเพื่อที่บ้านแล้วแหละ แกยังนิ่งอยู่อีกทำไม รีบคุกเข่าเดี๋ยวนี้"
หลิวเซียงหลันกดไหล่ของโล่เฉินไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี