บทที่10 ไม่ขาดเงิน
ในห้องรับรอง ต่างเงียบลงไป
คนทุกคนต่างมองไปทางพนักงานสาวสวยกับโล่เฉิน โล่เฉินเองก็ตื่นตกใจ พลางถาม: “เอ่อ คุณรู้จักฉันเหรอ?”
“ไม่ ไม่รู้จัก” พนักงานสาวสวยส่ายหัว
ท่าทีแบบนี้ ทำให้โจวไท่ หานหยุนเทาและคนอื่นๆ เข้าใจผิดไป
เมื่อได้ยินหานหยุนซีพูดจาแดกดัน “สาวน้อย ถึงแม้ว่าคนคนนี้จะแต่งตัวดูไม่ได้ ไม่เหมาะกับการมากินข้าวกับพวกเรา แต่คุณเองก็ไม่น่าจะดูถูกเขาแบบนั้นน่ะ”
“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” พนักงานสาวสวยรีบโบกมือ ก่อนจะมองโล่เฉินไม่หยุด ด้วยความลังเลใจ
ก่อนหน้านี้ที่ตึกซิงหยุน คนที่ร่ำรวยที่สุดในเจียงโจวเองก็เป็นนายใหญ่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของตึกซิงหยุนอย่างฟ่านหงชาง ตอนนั้นเธอมีเกียรติในการยกน้ำชามาให้ที่ห้องทำงาน ตอนที่ประตูปิดไป ก็เห็นฟ่านหงชางคุกเข่าต่อหน้าหนุ่มคนนี้
ตอนนั้นเธอเห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของหนุ่มผู้นั้น และรู้สึกว่ามันเหมือนกับคนตรงหน้านี้เลย
เมื่อเห็นสาวสวยทำอะไรไม่ถูก โจวไท่จึงพลางโบกมือแล้วพูดขึ้น: “โอเคๆ คุณลงไปเถอะ ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ พวกเราไม่อะไรกับคุณแล้ว โล่เฉิน คุณไม่โกรธอะไรใช่ไหม!”
พนักงานสาวสวยมองโล่เฉินอย่างตั้งใจอีกครั้ง เหมือนกับเพื่อยืนยัน ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องรับรองไป
“เห้อ ตอนนี้พนักงานเองก็ตาไม่ถึง โล่เฉินคุณอย่าไปสนใจเลย!” โจวไท่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดพูดอย่างตำหนิเพิ่มเติม “เหอะๆ แต่งตัวเหมือนกับขอทาน ก็ไม่แปลกเลยที่พนักงานจะคิดแบบนั้น หานหยู่เยน คุณเอาเวลาไปดูแลสามาที่ดีของคุณบ้างเถอะ แต่งหน้าแต่งตาให้ตัวเองน้อยๆ หน่อย หรือว่าอยากจะตกผู้ชายข้างนอกล่ะ?”
หานหยู่เยนโกรธจนหน้าแดง
ในตอนนั้นเอง ประตูของห้องรับรองก็เปิดออกอีกครั้ง
มีผู้ชายที่ใส่สูทสวยสาวเท้าก้าวเดินเข้ามา ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าโล่เฉิน แล้วโค้งคำนับให้: “คุณผู้ชาย ฉันเป็นประธานของตึกซิงหยุน เมื่อครู่ต้องขอโทษด้วย คุณอย่าใส่ใจเลย เหล้าสองขวดนี้ ฉันให้คุณเป็นคำขอโทษ!”
“ห๊ะ?”
โล่เฉินเป็นคนฉลาด เขารู้ว่าประธานรู้ตัวตนของเขาแล้ว
“วางลงเถอะ”
“ขอให้คุณดื่มมันอย่างเอร็ดอร่อย”
ประธานพูดจบ ก็เดินออกไป
หานหยุนซีมีสีหน้าสงสัย ก่อนจะหยิบเหล้าไปขวดหนึ่งแล้วพูดแดกดัน: “เหล้าขวดนี้ดูแพงทีเดียว ถูกพนักงานดูถูก เลยได้เหล้าดีๆ มาสองขวด ไม้นี้ใช้ได้คุ้มจงเลยนะ”
“ก็ใช่สิ!”
ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดเองก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสในการพูดแดกดันไป จึงพึมพำเสียงเย็นชา “หลังจากนี้พวกเรามากินข้าวที่ตึกซิงหยุน ก็แต่งตัวแย่ๆ หน่อย อาจจะได้กินฟรีเลยนะ”
“ฮ่าๆ !”
คนกลุ่มหนึ่งหัวเราะขึ้น ด้วยคำพูดดูถูกแดกดันไม่หยุด
หานหยู่เยนโกรธเป็นอย่างมาก แต่อย่างแรกเลยคือตัวตนของโจวไท่นั้นทำให้เธอต้องรักษาภาพลักษณ์ อย่างที่สอง ถ้าระเบิดอารมณ์ออกมาไม่แน่ว่าโล่เฉินอาจจะยิ่งโดนดูถูกเข้าไปใหญ่
ดังนั้น เธอเลยอดทนเอาไว้
มันไม่ง่ายเลยที่จะกินข้าวจนเสร็จไป ในตอนแรกที่คิดว่าจะได้ปลีกตัวออกมาก่อน
โจวไท่ลุกขึ้นมา ก่อนจะหัวเราะออกมา: “ทุกๆ คน ฉันได้จองห้องรับรองหรูหราเอาไว้ที่KTVเรอัลมาดริดแล้ว ทางนั้นมีเพื่อนอีกหลายคนเลย ทุกคนมาร่วมสนุกไปด้วยกันดีไหม?”
“น่าสนใจๆ !”
“ฮ่าๆ เชิญพี่ไท่ มีเหตุผลอะไรที่ต้องไม่ไปด้วยล่ะ” หานหยุนเทายิ้มพลางพูด
“ฉันไม่ไปล่ะ พวกคุณ……”
พูดไปได้เพียงครึ่งเดียว ก็ถูกหานหยุนซีตัดบท “รีบกลับบ้านไปพลิกรักกับสามีเหรอ!พี่ไท่เชิญมาก็เป็นเกียรติของคุณ คุณยังจะมาลีลาอีก ไม่ไว้หน้าพี่ไท่เหรอ?”
“หานหยุนซี คุณหาเรื่องคนให้มันน้อยๆ หน่อย!”
“โอ้ว โกรธง่ายจริงๆ ฉันไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย” หานหยุนซีกลอกตามองบน “เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็ไปด้วยกันเถอะ!”
หานหยู่เยนขบปาก ก่อนจะหันกลับมามองโล่เฉิน คนด้านหลังนั้นยิ้มและพยักหน้า
คนเริ่มทยอยออกไปจากห้องรับรอง ก่อนจะเดินไปที่ด้านหน้าเคาน์เตอร์
“เช็กบิล!”
โจวไท่เรียกเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน” ประธานของตึกซิงหยุนเดินเข้ามา จากนั้นจึงพูดอย่างสุภาพ: “คุณผู้ชาย เพราะเราบริการไม่ดี ต้องขอโทษด้วยจริงๆ วันนี้ถือว่ากินฟรีไปเลย”
“กินฟรีงั้นเหรอ?”
คุณหนูคุณชายต่างตกใจอึ้งไป
ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดขมวดคิ้ว ก่อนจะเรียกออกมา: “ทำไมประธานถึงได้มีตาแต่ไม่มีแววขนาดนี้นะ คุณกำลังพูดกับใคร่นะ คุณชายโจวเป็นคนเชิญ เกี่ยวอะไรกับไอคนไร้ประโยชน์นั่น!”
ประธานมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันใด
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเบื้องหลังของโล่เฉินนั้นเป็นอย่างไร แต่ว่าสามารถให้เถ้าแก่ใหญ่ คนที่รวยที่สุดในเจียงโจวอย่างฟ่านหงชางมาเคารพได้นั้น ก็ต้องมีอำนาจเป็นอย่างมากแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี