จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด นิยาย บท 10

ปัง ๆ ๆ!

โต๊ะ เก้าอี้และม้านั่งรอบ ๆ ระเบิดแตกกระจายกันไปทั้งหมด หน้าต่างกระจกที่อยู่บนกำแพงก็ถูกสั่นสะเทือนจนแตกเป็นชิ้น ๆ ในเวลาเดียวกัน เคาน์เตอร์บาร์พังลงมาสะเทือนเลื่อนลั่น

ส่วนต้วนซื่อไห่ก็ปลิวออกไปเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ ชนเข้ากับกำแพงที่อยู่ด้านหลังไม่ไกลทะลุจนเป็นรูแล้วก็ตกลงไปบนพื้นปูนด้านนอกห้อง

“ขะ... แข็งแกร่ง...” อ้าปากพูดได้ไม่กี่คำ เลือดสดจำนวนมากก็ทะลักออกมา ร่างกายชักกระตุกอยู่ไม่กี่ทีแล้วก็หมดลมหายใจไป

เขาคิดไม่ถึงเลยสักนิดว่าตนที่เป็นจักรพรรดิใต้ดินแห่งหยุนเฉิงอย่างสง่าผ่าเผย บุคคลน่าหวาดกลัวที่คนเป็นหมื่นยกย่องชื่นชม วันหนึ่งจะต้องมาเสียชีวิตเพราะเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหายไป!

ถ้าหากให้โอกาสเขาอีกครั้ง เกรงว่าต่อให้เขาตายก็จะไม่ยอมรับคำสั่งชีวิตนี้แล้ว!

เพียงแต่ว่าชีวิตคนเราไม่มีคำว่าถ้าหาก ดีชั่วมีการตอบแทน ทุกสิ่งล้วนแต่มีกรรม!

ฟู่!

หลิงห้าวที่เลือดลมเข้ามาโจมตีหัวใจ อาการบาดเจ็บจึงซ้ำเข้ามาอีกครั้ง อ้าปากถ่มเลือดสดออกมาคำใหญ่ พลังที่อยู่บนร่างก็หายไปในเวลาเดียวกัน

“อ้าก...” เข่าทั้งคู่ลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้น น้ำตานองหน้า เงยหน้ามองท้องฟ้าส่งเสียงร้องอย่างเศร้าโศกดังลั่นท้องฟ้า

ในที่สุดแล้ว... ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าวเหรอ!?

ทำไมสวรรค์จะต้องลงโทษตนเองเช่นนี้ด้วย!

ทำไมจะต้องโหดร้ายขนาดนี้!

หรุ่ยหรุ่ยเธอเป็นเพียงแค่เด็กสี่ห้าขวบคนหนึ่งเท่านั้นเองนะ!

ตึง ๆ ๆ!

ไม่นาน ฝีเท้าที่เร่งด่วนก็ส่งเข้ามาจากทางประตูอย่างกะทันหัน

ก็คือจางหมิ่นห้าวที่รีบมาจนแทบลุกเป็นไฟ ด้านหลังยังพาพนักงานในชุดตำรวจเต็มยศนับร้อยนายมาด้วย แต่ละคนราวกับเจอศึกหนักมา

ซี๊ด!

คนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในห้องโถงแล้วก็มองไปยังภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ทุกคนล้วนแต่สูดไอเย็นเข้าไปเฮือกใหญ่

ห้องโถงใหญ่ของภัตตาคารที่คึกคักไม่ธรรมดาในวันวานได้กลายเป็นนรกบนดินไปเสียแล้ว พวกเขาตกตะลึงกับภาพที่ได้เห็น

คนแถวหนึ่งที่เดินอยู่ด้านหน้าสุดทอดสายตามองไปยังต้วนซื่อไห่ที่นอนไม่ขยับอยู่บนพื้น บนใบหน้าก็ยิ่งตกตะลึงอย่างไม่มีอะไรเทียบได้

บุคคลที่แค่กระทืบเท้าก็สามารถสั่นสะเทือนทั้งหยุนเฉิงได้ได้ตายไปแล้ว!?

ตกลงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!

ใครกันที่กล้าขนาดนี้ กล้ามาเอาชีวิตของบุคคลที่น่าหวาดกลัวคนนี้ในอาณาเขตของหยุนเฉิง!?

“พวกนายรอรับคำสั่งอยู่ที่เดิม!” สายตาของจางหมิ่นห้าวเก็บกลับมาจากศพของต้วนซื่อไห่ หันกลับไปมองไปยังลูกน้องของตัวเองทุกคนแล้วเอ่ยเสียงต่ำ

นใจของเขาก็สะพรึงไม่น้อยไปกว่าใครเลย!

ก่อนหน้านี้ตอนที่โทรศัพท์ หลิงห้าวให้เขามาเก็บกวาด เขาก็เดาได้ว่าจะต้องเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นราง ๆ แล้ว!

ดังนั้น หลังจากที่วางสายโทรศัพท์แล้วเขาก็รีบมาในทันที

เขาสู้กับต้วนซื่อไห่มาหลายปีดีดัก รู้ถึงสถานการณ์ของอีกฝ่ายดี

ใจคอโหดเหี้ยม วางแผนได้อย่างลึกซึ้ง ยังมีลูกน้องเป็นพันอยู่ภายใต้การปกครองอีก แต่ละคนล้วนแต่ไม่ใช่คนดีทั้งนั้น

แม้เขาจะรู้ว่าฝีมือของคนของหน่วยรบเซวี่ยอิ๋งแข็งแกร่งมาก แต่ต่อให้แข็งแกร่งกว่านี้ก็คงไม่สามารถสู้หนึ่งต่อร้อยหรอกมั้ง!

ถ้าหากว่าจอมพลหลิงเกิดเรื่องขึ้นในเขตที่เขาปกครอง ถ้าอย่างนั้นเขาก็จบเห่จริง ๆ แล้ว!

และตอนนี้ หลังจากที่เห็นสภาพของเหตุการณ์แล้ว ก็นับว่าเขาได้เปิดหูเปิดตาเห็นศักยภาพของจอมพลหลิงแล้ว!

“รับทราบครับ!” ทุกคนหยุดฝีเท้าลงกันทั้งหมด

“หลิง... ท่านเจ้าหน้าที่อาวุโส ท่าน... ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”

หลังจากนั้นจางหมิ่นห้าวก็มาหยุดอยู่ตำแหน่งด้านหลังของหลิงห้าวประมาณสิบเมตรอย่างประหวั่นพรั่นพรึง

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเข้าใกล้ แต่รอบตัวของหลิงห้าวตลบอบอวลไปด้วยรังสีสังหาร ทำให้เขายากที่จะเข้าใกล้แม้เพียงครึ่งก้าว

แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังคงรู้สึกได้ถึงรังสีสังหารเข้มข้นที่ปกคลุมทั่วตัวเขา ทั้งร่างสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมได้

“นายนาจะรู้จักสถานการณ์ของตระกูลเหลยใช่ไหม?”

หลิงห้าวถอนลมหายใจขุ่น ๆ ออกมาเฮือกใหญ่แล้วลุกขึ้นยืน หันกลับมองไปยังจางหมิ่นห้าว

“ตะ... ตระกูลเหลย?” จางหมิ่นห้าวมองตากับหลิงห้าว เกือบจะไร้เรี่ยวแรงล้มลงไปแล้ว

บทที่ 10 รังสีสังหารท่วมฟ้า 1

บทที่ 10 รังสีสังหารท่วมฟ้า 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด