“คุณอาครับ คุณหนูทั้งสอง พวกคุณอย่ากังวลไป!” ลู่เยว่ประคองเสิ่นชิวหนานขึ้นมา
“คุณน้าเพียงแค่เลือดลมพลุ่งพล่านเกินไปหน่อยจึงสลบไปเท่านั้น ให้ท่านกลับไปนอนพักผ่อนที่ห้องก็จะหายได้เองครับ”
“นายรีบไปเถอะ รีบไปจากหยุนเฉิง” รอจนฉินหงหยวนกับลูกสาวพยุงเสิ่นชิวหนานเข้าไปในห้องแล้ว ฉินหยู่ซินก็มองไปยังหลิงห้าว
“ไม่อย่างนั้น ถ้าซุนหมิงเทาฟื้นขึ้นมาแล้วเขาจะต้องไม่ปล่อยนายไปแน่!”
“หยู่ซิน เรื่องของหรุ่ยหรุ่ยยังพูดไม่จบเลย คุณลองคิดให้ละเอียดสักหน่อย ช่วงนี้ได้มีเรื่องผิดปกติอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า?” หลิงห้าวไม่ได้ตอบคำกับเธอ
“ตระกูลซุนเป็นตระกูลใหญ่อันดับสองของหยุนเฉิง นายสู้กับพวกเขาไม่ได้หรอก นายรีบหนีไปเถอะ...” ฉินหยู่ซินสะอื้นไห้ขึ้นมา
“หยู่ซิน คุณอย่ากังวลไปเลย ผมรับรองว่าจะไม่เป็นอะไร หรุ่ยหรุ่ยเธอ...” หลิงห้าวพูดต่อ
“ตกลงนายฟังฉันพูดรู้เรื่องไหมเนี่ย! นายรีบหนีไปเถอะ ไม่อย่างนั้นนายจะตายนะ...” ฉินหยู่ซินร้องตะโกนเสียงดัง
“หยู่ซิน คุณใจเย็น ๆ ก่อน อย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องของตระกูลซุน!” หลิงห้าวเสียงดังขึ้นหลายเดซิเบล “หรุ่ยหรุ่ยไม่มีเวลาให้ยืดอยู่มากแล้วนะ!”
“คุณคิดละเอียด ๆ ช่วงนี้พวกคุณได้ไปที่ที่แปลก ๆ ที่ไหนบ้างไหม!?”
“ไม่มีนะ ไม่ได้ไปที่ไหน...” ฉินหยู่ซินหยุดร้องไห้
เธอเห็นว่าโน้มน้าวหลิงห้าวไม่ได้แล้ว จึงไม่ได้ยืนหยัดต่อไป
แต่เพิ่งจะพูดได้เพียงครึ่งประโยค ก็ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรขึ้นมา ดวงตาสว่างวาบ
“ถ้าจะต้องพูดว่าผิดปกติ ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่แปลกอยู่นิดหน่อย”
“เรื่องอะไร!?” หลิงห้าวถามขึ้นในทันที
“ไม่กี่วันก่อนหรุ่ยหรุ่ยไม่ทันละวังจึงหกล้ม ฉันพาลูกไปทำแผลที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าคุณหมอจะตรวจกลุ่มเลือดให้กับลูกด้วย”
ฉินหยู่ซินคิดอยู่เล็กน้อยแล้วจึงพูดต่อ “ถ้าพูดตามปกติ แค่ทำแผลธรรมดา ๆ ไม่น่าจะต้องตรวจกลุ่มเลือดด้วย”
“อีกอย่าง ฉันเห็นในลิ้นชักของคุณหมอยังมีรายงานผลกลุ่มเลือดของเด็กหลาย ๆ คนอยู่ด้วย!”
“หืม!?” ได้ยินเรื่องพวกนี้แล้ว หลิงห้าวกับลู่เยว่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาพร้อมกัน ในใจของทั้งสองคนเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา
“โรงพยาบาลอะไร หมอชื่ออะไร?ท” หลิงห้าวหยุดไปพักหนึ่งแล้วเอ่ยถามต่อ “คุณรีบพาผมไปเร็ว!”
“อื้ม!” หลังจากที่ฉินหยู่ซินได้คิดไตร่ตรองแล้วก็พยักหน้า
บรื้น!
สองนาทีผ่านไป ลู่เยว่ก็เหยียบคันเร่งลงไป
โรงพยาบาลที่ฉินหยู่ซินพูดถึงคือโรงพยาบาลที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางเขตธุรกิจที่สองของหยุนเฉิง
ระยะทางที่ห่างจากบ้านของฉินหยู่ซินครึ่งชั่วโมง ลู่เยว่ใช่เวลาเพียงไม่ถึงสิบห้านาทีก็จอดรถอยู่ที่ประตูของโรงพยาบาลแล้ว
หลังจากที่ทั้งสามลงจากรถก็พุ่งเข้าไปที่บันได
“ห้องของเขาหมายเลข 406!” ฉินหยู่ซินเดินไปด้วยพูดไปด้วย สีหน้าซีดเผือดในทันที ทั้งร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด
เธอในตอนนี้ดูเหมือนจะคาดเดาความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมาได้อย่างราง ๆ เป็นไปได้มากว่าหรุ่ยหรุ่ยจะถูกคนจับตัวไปเปลี่ยนถ่ายอวัยวะแล้ว!
ปัง!
ทั้งสามคนมาถึงที่ประตูห้องหมายเลข 406 ลู่เยว่ยกฝ่ามือขึ้นซัดออกไป ประตูห้องทำงานก็แตกกระจายดังสะเทือนเลื่อนลั่น
“สารเลว พวกแกเป็นใครวะ!?”
คุณหมอคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของตัวเองตกใจ ยกมือขึ้นชี้พวกของหลิงห้าวสามคนแล้วตะโกนเสียงดัง
“ใช่เขาไหม?” หลิงห้าวหันไปมองทางฉินหยู่ซิน
“อื้ม!” ฉินหยู่ซินพยักหน้า
“พวกแกเป็นใครกันแน่ จะทำอะไร? ถ้ายังไม่พูดอีกผมจะเรียกรปภ.!” คุณหมอตะโกนเสียงดังขึ้นอีกครั้ง
กร๊อบ ๆ!
เพิ่งจะสิ้นเสียง ลู่เยว่ก็มาอยู่ตรงหน้าของเขาแล้วคว้าข้อมือของเขาเอาไว้แล้วออกแรงบิด ข้อมือของฝ่ายตรงข้ามปรากฏให้เห็นเป็นรูปเกลียวทันที ดึงต่ำลงมา
“อ๊าก...” คุณหมอร้องขึ้นอย่างน่าเวทนา
“ฉันจะถามแค่ครั้งเดียว ถ้าไม่พูดความจริงฉันจะส่งแกไปลงนรก!” หลิงห้าวมาอยู่ข้างหน้าแล้วเอ่ยเสียงต่ำ
บนร่างกายปล่อยกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวออกมาในเวลาเดียวกัน ในชั่วพริบตาก็ปกคลุมไปทั้งตัวคุณหมอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด
ไม่ลงตอนต่อไปแล้วหรอค่ะ...
รอๆๆๆ...