จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด นิยาย บท 7

สรุปบท บทที่ 7 ละอายใจไม่มีที่สิ้นสุด: จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด

ตอน บทที่ 7 ละอายใจไม่มีที่สิ้นสุด จาก จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 7 ละอายใจไม่มีที่สิ้นสุด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด ที่เขียนโดย สุ้ยเยว่หย่งเหิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“พวกแกสองคนอยู่กันที่นี่จริง ๆ ด้วย!” ชายเจ้าชู้ชี้ไปที่พวกของหลิงห้าวสองคนพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“กูบอกไปแล้วนะว่าจะต้องให้พวกมึงได้รู้ถึงจุดจบของการแตะต้องกู!”

“วันนี้ถ้าไม่ได้ถลกหนังมึงออกมา ก็อย่ามาเรียกกูว่าซุนหมิงเทาเลย!”

“รู้จักกันเหรอ?” หลิงห้าวกวาดตามองอีกฝ่ายทีหนึ่ง แล้วหันไปมองลู่เยว่

หน้าของชายเจ้าชู้แทบจะเปลี่ยนรูป แค่ไม่นานเขาก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นใคร

“คุณชายใหญ่ตระกูลซุน!” ลู่เยว่ยักไหล่

“นายควรลงมือให้มันหนัก ๆ หน่อย” มุมปากของหลิงห้าวกระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปพูดใส่ซุนหมิงเทาเสียงต่ำ

“ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาเล่นกับแก ถ้าไม่อยากตายก็รีบไสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้นก็รอรับผลเอาเอง!”

“คุณ... คุณคือคุณชายเทา!?” หลังจากคนไม่กี่คนสนทนากันแล้ว ฉินหยู่เฟยก็ร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวของหยุนเฉิง นึกไม่ถึงว่าจะยังมีคนกล้าต่อยตีจนคุณชายใหญ่ตระกูลซุนจนกลายเป็นแบบนี้ นี่คืออยากตายเหรอ!?”

ตระกูลซุนเป็นถึงตระกูลอันดับสองของหยุนเฉิงเชียวนะ!

ซุนหมิงเทาเป็นถึงคุณชายใหญ่ของตระกูลซุน ปกติเวลาไปไหนก็มีแต่คนเงยหน้ามอง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้

หลังจากได้ยินคำพูดของฉินหยู่เฟยแล้ว ฉินหงหยวนและภรรยาก็จำซุนหมิงเทาได้ สีหน้าตกตะลึงอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบเช่นเดียวกัน

“คุณชายเทา คะ...ใครทำให้คุณเป็นแบบนี้คะ?” เสิ่นชิวหนานลากประตูเหล็กออกแล้วก็เดินก้าวเร็ว ๆ ออกมา

“ถามลูกสาวของตัวเองสิ!” ซุนหมิงเทาตอบด้วยความเดือดดาล

“มะ... หมายความว่ายังไง!?” เสิ่นชิวหนานตะลึงไปเล็กน้อยแล้วหันไปมองฉินหยู่ซิน “หยู่ซิน ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“คุณน้า ไม่ต้องถามแล้วครับ ผมทำเอง!” หลิงห้าวเอ่ยเรียบ ๆ

“หา!?” ฉินหงหยวนกับภรรยาร้องตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน ฉินหยู่เฟยที่อยู่ข้าง ๆ ร้องออกมาอย่างตกตะลึง

แน่นอนว่าทั้งสามคนคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นผลงานชิ้นโบแดงของหลิงห้าว หมดคำพูดเลยจริง ๆ!

“ฉันขอเตือนพวกแก ไม่ว่าไอ้หมอนี่จะมีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัวของพวกแก!” ซุนหมิงเทามองปยังเสิ่นชิวหนานแล้วตะคอกเสียงดังต่อ

“เรื่องของวันนี้ ถ้าไม่อธิบายให้ฉันพึงพอใจ ฉันจะจัดการกับครอบครัวของพวกแกไปด้วยกันเลย!”

“คะ... คุณชายเทา คะ... คุณอย่าเพิ่งโกรธ ฉะ... ฉันจะรีบให้เขาโขกหัวขอโทษคุณเอง” เสิ่นชิวหนานสั่นสะท้านไปทั้งตัว

หลังจากนั้นก็รีบหันไปยังหลิงห้าว “ยังอึ้งอะไรอยู่อีก ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษคุณชายเทาอีกเหรอ?”

“ตัวแกอยากรนหาที่ตายก็อย่ามาทำให้พวกเราต้องซวยไปด้วย!”

“แม่คะ พวกเรามาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนว่าที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นแล้วค่ะว่ากันไหมคะ?” ฉินหยู่เฟยพูดอยู่ข้าง ๆ

“แกกลับห้องไป ที่นี่ไม่มีเรื่องที่แกต้องยุ่ง” เสิ่นชิวหนานจ้องเธออย่างดุดัน

“พี่คะ เขาเป็นคนทำคุณชายเทาจริง ๆ เหรอคะ?” ฉินหยู่เฟยไม่ได้สนใจมารดาของตัวเอง

“อื้ม!” ฉินหยู่ซินมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาซับซ้อน

ชี๊ด!

ฉินหยู่เฟยสูดไอเย็นเข้าไป “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

“ฉินหยู่เฟย ให้แกกลับห้องแกไม่ได้ยินเหรอ?” เสิ่นชิวหนานตะโกนเสียงดังออกมา

จากนั้นก็หันไปตะคอกใส่หลิงห้าวอีกครั้ง

“แกจะทำร้ายพวกฉันไปจนถึงเมื่อไหร่? ครอบครัวพวกเราถูกแกทำร้ายจนน่าสมเพชพอแล้ว แกจะเอายังไงถึงจะปล่อยพวกเราไปได้?”

“ต่อให้ชาติที่แล้วครอบครัวของพวกเราติดค้างแกเอาไว้ ห้าปีมานี้ก็น่าจะชดใช้จนหมดแล้วมั้ง!”

พูดมาจนถึงจุดที่ฮึกเหิมก็คุกเข่าให้กับหลิงห้าวไปตรง ๆ แล้วก็ร้องไห้ออกมาในเวลาเดียวกัน

“ขอร้องล่ะ ถือซะว่าฉันขอร้อง แกรีบไปโขกหัวขอขมาคุณชายเทาเสีย อ้อนวอนให้เขายกโทษให้แก!”

“ครอบครัวของพวกเรารับความทรมานมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว หรือว่าแกอยากจะเห็นพวกฉันตายไปจริง ๆ เหรอ?”

พอเห็นภาพเหตุการณ์นี้แล้ว ทั้งครอบครัวของฉินหยู่ซินก็อ้าปากค้างอยู่กับที่ แต่ละคนตะลึงตาค้าง

เวลาเพียงชั่วพริบตา นึกไม่ถึงว่าคนมากมายขนาดนั้นจะถูกหักแขนหนึ่งข้างกันจนหมด?

นี่ถ่ายหนังกันอยู่เหรอ!?

คนที่มีท่าทางโอเวอร์ที่สุดอย่างฉินหยู่เฟย ในดวงตามีประกายกระตือรือร้นสุด ๆ วาบึ้นมาเหมือนได้ดูหนังฟอร์มยักษ์เรื่องหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น

“มึง... มึงจะทำอะไร กู... กูขอเตือนมึง ถะ... ถ้ามึงยังกล้าทำอะไรกูอีก ตะ... ตระกูลซุนไม่ปล่อยพวกมึงไว้แน่...”

มองลู่เยว่ที่เดินมาทางตัวเองแล้ว ซุนหมิงเทากันสั่นสะท้านไปทั้งตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาภายหลังนิด ๆ ถ้ารู้ว่าไอ้หมอนี่สู้เก่งขนาดนี้เขาน่าจะพาคนมาที่นี่เยอะ ๆ หน่อย

กร๊อบ! กร๊อบ!

เขายังพูดไม่ทัน และก็ไม่เห็นว่าลู่เยว่ลงมืออย่างไร หลังจากที่เสียงกังวานผ่านไป ซุนหมิงเทาก็นอนอยู่บนพื้นแล้ว แขนและขาข้างหนึ่งถูกทำลายโดยสิ้นเชิงแล้ว

“อ๊าก...” เสียงร้องอย่างน่าเวทนาเหมือนเป็นโรคประสาทผ่านพ้นไปแล้ว ดวงตาทั้งคู่ของซุนหมิงเทาก็เหลือกขึ้น เขาสลบไปในทันที

“นะ... นึกไม่ถึงเลยว่าแกจะทำลายแขนและขาข้างหนึ่งของเขาไปตรง ๆ อย่างนี้จริง ๆ?” เสิ่นชิวหนานสั่นสะท้านไปทั้งตัว จ้องมองไปทางด้านหน้าพลางพูดพึมพำด้วยอาการตะลึงตาค้าง

“จบสิ้นแล้ว นี่... นี่มันจบสิ้นแล้วจริง ๆ... ตระกูลซุนจะต้องไม่ปล่อยพวกเราเอาไว้แน่...”

“พวกเราตายแน่ ๆ... พวกเราคงต้องตายกันจริง ๆ แล้ว...”

ตึง!

ยังไม่ทันสิ้นเสียง ดวงตาทั้งคู่ก็เหลือกขึ้นแล้วเป็นลมล้มพับลงไปบนพื้นเหมือนกับซุนหมิงเทา

“ชิวหนาน!”

“แม่!”

ฉินหงหยวนกับฉินหยู่ซินและน้องสาวร้องด้วยความตกตะลึงออกมาพร้อมกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติสิงห์ร้ายดินแดนมืด