ฮูหยินผู้เฒ่าโจวเป็นโรคอะไรกันแน่?
“แม่นางน้อยกู้ไม่ต้องแปลกใจไปเจ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่าเราป่วยเช่นนี้ก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว ก่อนหน้าหน้า ท่านหมอยังรักษาอาการของนางให้ทรงตัวอยู่ได้
แต่ครั้งนี้ ท่านหมอที่ตามมา กลับบอกให้พวกเราเตรียมจัดงานไว้ทุกข์”
ไม่ต้องพูดถึงว่าแม่นมฉินตื่นตระหนก กู้หว่านเยว่เองก็ตกใจเช่นกัน
แต่นางก็ประคองสติได้อย่างรวดเร็ว ดูจากอาการของฮูหยินผู้เฒ่าโจวแล้ว ดูเหมือนว่านางจะมีอาการหัวใจวาย
โรคหัวใจก็เป็นเช่นนี้ เมื่อไม่เป็นก็ไม่เป็นไร
กู้หว่านเยว่ไม่ได้ตามนางไปทันที แต่พูดว่า “ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่ไป แต่หากฮูหยินผู้เฒ่าของพวกท่านเป็นโรคร้ายแรง ต่อให้ข้าไปแล้วก็ไร้ประโยชน์”
แม่นมฉินรีบพูดว่า “แม่นางกู้ไม่ต้องกลัวไปเจ้าค่ะ ฮูหยินน้อยเองก็คิดว่าทักษะการแพทย์ของท่านเยี่ยมยอด ไม่แน่ว่าอาจจะช่วยฮูหยินผู้เฒ่าได้ แต่หากไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ถือเสียว่าไปดูนางสักหน่อย พวกเราย่อมไม่มีทางเอาเรื่องนี้มาโทษท่านแน่”
ซ่งเสวี่ยมีความคิดที่ว่า แมวตาบอดเจอหนูที่ตายแล้ว[footnoteRef:1] [1: เป็นสำนวนที่หมายถึงความบังเอิญ หรือโชคดีขั้นสุด]
“เช่นนั้นท่านก็นำทางเถอะ ระหว่างทางก็เล่าอาการของฮูหยินผู้เฒ่าให้ข้าฟังด้วย”
แม่นมฉินพูดขึ้นมาเช่นนั้นแล้ว กู้หว่านเยว่เองก็ไม่กล้าปฏิเสธ
เห็นเช่นนี้ ซูจิ่งสิงก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ตั้งแต่ฮูหยินผู้เฒ่าโจวเป็นลมล้มพับไป เขาก็รู้แล้วว่าภรรยาของเขาจะต้องไม่ยืนเฉยอยู่แน่
หลังจากเช็ดปากแล้ว เขาก็ยืนขึ้น เดินไปหยิบขนมชิ้นหนึ่งแล้วยื่นให้กู้หว่านเยว่ เพื่อเป็นของรองท้อง
แม่นมฉินกล่าวว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าของพวกเราเป็นโรคนี้ทันทีหลังจากที่นายน้อยเสียชีวิต
หมอทุกคนต่างก็บอกว่าเพราะการตายของนายน้อยทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าเศร้าระทม กลายเป็นโรคทางใจ
หลายปีที่ผ่านมา พวกเราตามหาหมอมือดีไปทุกหนทุกแห่ง มีทั้งหมอหลวง หมอชื่อก้องหล้า และแม้แต่หมอพเนจรมากประสบการณ์ แต่พวกเขาต่างก็ไม่สามารถรักษาอาการนี้ของฮูหยินผู้เฒ่าได้เลย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...