นี่มันความโชคดีชัด ๆ เบื้องหน้าของพวกเขาคือถ้ำหลบฝนที่ตั้งเด่นอยู่ตรงเชิงเขา
ซูอู่สั่งให้ทุกคนพักผ่อนนอนอยู่ที่เดิม
ส่วนเหล่านักการในศาลาว่าต่างหามุมที่สบายที่สุดในถ้ำ พวกเขารองพื้นด้วยหญ้าแห้ง ส่วนนักโทษพวกเขาปล่อยตามมีตามเกิด นอนบนพื้นที่เย็นเยือกอย่างนั้น
กู้หว่านเยว่มองกลุ่มนักโทษที่นอนกระจายตามจุดต่าง ๆ คล้ายกับศพที่นอนเกลื่อนกลาด แล้วก็ได้แค่ส่ายหัว
หนทางของการโดนเนรเทศที่แสนลำบากนั้นเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ถึงแม้ว่าหลายวันมานี้ทุกคนจะเหนื่อยล้ามาก แต่กลับไม่มีคนตาย
ต่อไปก็อาจจะไม่แน่
“ท่านแม่ ท่านเปลี่ยนยาให้สามีข้าได้แล้ว ข้าจะออกไปเดินดูแถวนี้หน่อยว่ามีอาหารอะไรให้พวกเรากินได้บ้าง
กู้หว่านเยว่ตั้งใจจะไปดูว่าในป่าแถวนี้มีผลไม้ป่าหรือสัตว์ป่าอาทิเช่นไก่และกระต่ายบ้างหรือไม่
นางหยางรู้ว่าขวดยาถูกเก็บไว้ที่ไหน นางจึงพยักหน้า
“รู้แล้ว หว่านเยว่ เจ้าต้องระวังตัวนะ....”
ซูจิ่งสิงมองนางด้วยสีหน้าเป็นห่วงมาก “ป่าแถวนี้รกและทึบ เจ้าอย่าเดินไปไกลล่ะ จะได้หลีกเลี่ยงสัตว์ป่า”
“วางใจเถอะ”
กู้หว่ายเยว่คลี่ยิ้มกระหายเลือด ต่อให้เจอกับสัตว์ป่า พวกมันก็ต้องล้มลงต่อหน้านาง!
หลี่ซือซือจ้องเขม็งไปยังกู้หว่านเยว่ เมื่อเห็นนางเดินออกจากถ้ำไป ก็รีบวิ่งตามออกไปทันที
ทั้งสองคนต่างก็เป็นผู้หญิงบอบบาง ประกอบกับต้องมาอาศัยอยู่กลางทุ่งกว้างที่ทุรกันดารเช่นนี้ นักการในศาลาว่าการจึงไม่กลัวว่าพวกนางจะคิดหนี พวกเขาเลยไม่ได้ขัดขวาง
กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วด้วยความไม่สบายใจ หลี่ซือซือเดินตามนางมาตลอดทาง นางจึงไม่ได้หยิบของออกมาจากห้วงมิติ
เวลานี้นางตั้งใจเดินเร็วขึ้น จนทะลุป่ามาแล้วถึงสองครั้ง
โชคดีที่หลี่ซือซือเป็นคุณหนูที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอม ทำให้การเดินของนางช้า จึงไล่ตามกู้หว่านเยว่ไม่ทัน สุดท้ายก็ถูกทิ้งไว้ด้านหลัง
เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ในละแวกนี้แล้ว กู้หว่านเยว่จึงหยิบเอาไก่ป่าสองตัวออกมาจากห้วงมิติ ตั้งใจจะใช้หินทุบพวกมันให้มึนงง
แต่แล้วนางก็ต้องประหลาดใจเมื่อเจอต้นลูกท้อป่าที่เติบโตอยู่ในป่าแห่งนี้ นางจึงเก็บลูกท้อกลับไปด้วย
หลังจากกลับมาถึงถ้ำ ทุกคนก็เห็นกู้หว่านเยว่ถือไก่ป่าตัวหนึ่งด้วยมือเดียวเดินเข้ามา ทุกสายตาจ้องมองจนแทบจะถลนออกมา
“พี่ใหญ่ซูน ข้ายกไก่ป่าตัวนี้ให้พวกเจ้า”
กู้หว่านเยว่เดินยิ้มมาถึงตรงหน้าของซุนอู่ แล้วยื่นไก่ป่าหนึ่งในนั้นให้เขา
เดินทางได้เพียงสองวัน วัตถุดิบประเภทเนื้อในมือของนักการในศาลาว่าการก็หมดเกลี้ยง เหลือเพียงหมั่นโถวและอาหารแห้งเท่านั้น
เมื่อเห็นไก่ป่าตัวอ้วนท้วม ซุนอู่ก็ไม่ลังเล รับมาอย่างไม่เกรงใจ
“ขอบใจเจ้ามาก ที่เหลืออีกตัวพวกเจ้าเก็บไว้กินเถอะ ห้ามคนอื่นแย่ง”
เขากล่าวพลางมองนักโทษคนอื่น ๆ ในถ้ำด้วยสายตาตักเตือน
เดิมทีเหล่านักโทษกินอาหารแห้งสำหรับหนึ่งวันไปแล้ว แต่เมื่อเห็นไก่ป่าในมือกู้หว่านเยว่ก็ถึงกลับนั่งไม่ติด อยากจะพุ่งเข้าไปแย่งมาเป็นของตน
เพียงประโยคเดียวของซุนอู่ ทำให้ทุกคนต้องยกเลิกความคิดนั้นทันที
“ขอบคุณพี่ใหญ่ซุนมากเจ้าค่ะ”
กู้หว่านเยว่คลี่ยิ้ม สาเหตุที่นางยกไก่ป่าหนึ่งตัวให้ซุนอู่นั้นเพราะต้องการซื้อใจ
แทนที่จะรับมือกับนักโทษที่หิวโหยเหล่านี้ด้วยตัวเอง ไม่สู้ใช้ประโยชน์จากนักการ โยนเรื่องนี้ให้พวกเขาจัดการ
“พี่สะใภ้ใหญ่ มัน...มันเป็นไก่ป่าที่อ้วนท้วมมาก!” ซูจื่อชิงกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ ตอนบ่ายเขาได้ยินพี่สะใภ้ใหญ่บ่นว่าอยากทำไก่ต้มหน่อไม้ ไม่คิดว่าตกดึกจะได้กินไก่ต้มหน่อไม้จริง ๆ
“ข้าจะไปต้มน้ำเดี๋ยวนี้!”
นัยน์ตาของซูจิ่นเอ๋อเปล่งประกาย “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าช่วยพี่ดึงขนไก่เอง!”
คุณหนูที่มักจะมีสาวใช้คอยติดตาม หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนมาหลายวัน เวลานี้นางรู้จักพึ่งพาตัวเองมากขึ้น
กู้หว่านเยว่มองทั้งสองคนด้วยสายตาชื่นชม แต่ทันทีที่นางเงยหน้าขึ้นนางก็ต้องพบกับสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของบ้านใหญ่สกุลซู แล้วนางก็พบว่ามีคนหายไปหนึ่งคน
“หลี่ซือซือยังไม่กลับมาอีกหรือ?”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...