นางมักจะรู้สึกว่าซูหรานหร่านไม่มีวันหนีไปเช่นนี้อย่างแน่นอน แต่เรื่องเป็นมาอย่างไรนั้นนางเองก็ไม่รู้
เมื่อเห็นนักการออกตามหานาง กู้หว่านเยว่จึงให้ซูจิ่นเอ๋อร์เก็บไส้กรอกนั้นไว้
“ทำไมที่นี่ถึงได้เสียงดังเช่นนี้?”
หวังปี้เดินเข้ามา และเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้
กู้หว่านเยว่คิดว่าเขาคงจะรู้จักซูหรานหร่าน จึงไม่ได้ปิดบังอะไร
“ซูหรานหร่านหายตัวไป”
“หายตัวไป? อยู่ดี ๆ ทำไมนางถึงหายตัวไปล่ะ”
ซูจิ่นเอ๋อร์กล่าว “ก็บ้านสกุลซูบอกว่านางหนีไปแล้ว”
หวังปี้แปลกใจ ดูจากท่าทีที่อ่อนโยนและเข้มแข็งของแม่นางซูแล้วไม่เหมือนกับคนที่คิดหนีเลยสักนิด หรือว่าจะมีการเข้าใจผิด?
“จริงสิ ยาแก้ปวดของท่านอ๋องหมดแล้ว แม่นางกู้พอจะมีเวลาไปดูให้หน่อยได้หรือไม่”
ยาแก้พิษยังไม่ได้รับการวิจัยออกมา ดังนั้นหลายวันมานี้ หนานหยางอ๋องจึงยังคงคอยตามพวกเขา
กู้หว่านเยว่ลุกขึ้นไปหยิบกล่องยา “มาแล้ว”
“ข้าจะไปกับท่าน”
ซูจิ่งสิงได้ยินดังนั้นก็รีบเก็บธนูแขนเสื้อที่ใช้เวลาในการวิจัยมาหนึ่งวันเต็ม เขาขยี้ตาที่แดงก่ำเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นและตามพวกนางออกไป
หนานหยางอ๋องพักอยู่โรงเตี๊ยมด้านหน้า หวังปี้ถือโคมไฟเดินนำทางอยู่ด้านหน้า
ในขณะที่เดินข้ามภูเขาจำลอง กู้หว่านเยว่ก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้อยู่เลือนราง
นางหยุดชะงักทันที
“ท่านพี่ ท่านได้ยินเสียงอะไรไหม”
“ได้ยิน”
ซูจิ่งสิงกวาดตามองไปบนภูเขาจำลองกลางลานบ้าน ซึ่งภูเขาจำลองลูกนั้นมีขนาดใหญ่มาก กินพื้นที่ภายในสวน ดูเหมือนว่าขนาดของมันจะสามารถปิดบังซ่อนเร้นคนได้
“ไปดูกันเถอะ”
กู้หว่านเยว่ไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่คล้ายกับซูหรานหร่านอยู่ไม่น้อย
ทั้งสองคนจึงลอยตัวไปยังภูเขาจำลองลูกนั้น จนกระทั่งเห็นชายฉกรรจ์ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ด้านนอกภูเขาจำลอง
กู้หว่านเยว่หรี่ตามอง คนคนนี้คือหนึ่งในนักโทษที่พวกเขาเจอเมื่อตอนกลางวัน
“อย่าเข้ามา!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...