ทางฝั่งนี้ ซูจิ่งสิงยังใคร่ครวญประโยคไม่มีหัวไม่มีหางนั้นของเว่ยเฉิง
กู้หว่านเยว่เองก็แปลกใจมาก “เว่ยเฉิงให้ท่านไปพบโจวเหล่าทำอันใด?”
ยิ่งไปกว่านั้นโจวเหล่านี้คือใครกันเล่า?
ซูจิ่งสิงส่ายหน้า “ข้าเองก็แปลกใจมาก แต่เขาก็พูดหนึ่งประโยคนี้ ไม่มีหัวไม่มีหาง ข้าเองก็ไม่รู้หมายความว่ากระไรกันแน่”
“ส่วนโจวหล่าคนนี้ เขาเป็นผู้อาวุโสของสำนักศึกษาอิ้งเทียน ทั้งยังเป็นราชครูของอดีตองค์รัชทายาท บัดนี้น่าจะเกษียณกลับบ้านเกิดแล้ว”
ผู้อาวุโสก็คืออาจารย์ใหญ่ สำนักศึกษาอิ้งเทียนเป็นสำนักศึกษามีชื่อเสียงมากที่สุดในต้าฉี ลูกศิษย์มาจากทั่วทั้งเหนือจรดใต้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นชนชั้นสูง
สองสามีภรรยาครุ่นคิดอยู่นาน ก็ไม่สามารถหยั่งเดาความนัยของเว่ยเฉิงออก
เพียงอย่างเดียวที่สามารถมั่นใจได้ ก็คือเว่ยเฉิงมิได้คิดร้ายต่อพวกเขา
“ไม่รู้เพราะเหตุใด ข้าและเว่ยเฉิงมีความรู้สึกราวกับเพียงได้พบหน้าก็คล้ายพบสหายเก่า”
ซูจิ่งสิงสับสนมากว่าตกลงความรู้สึกนี้มาจากที่ใด
กู้หว่านเยว่นึกตำหนิภายในใจ พวกท่านทั้งสองคนหนึ่งบุ๋นคนหนึ่งบู๊ ล้วนมีความแค้นถูกคนลืมบุญคุณรื้อสะพานหลังข้ามแม่น้ำแล้ว ไฉนจะไม่รู้สึกเพียงได้พบหน้าก็คล้ายพบสหายเก่ากันเล่า?
ในเมื่อคิดไม่ตก เช่นนั้นก็ไม่คิดแล้ว อย่างไรเสียบัดนี้พวกเขาก็กำลังถูกเนรเทศ ต้องการพบโจวเหล่าท่านนั้น ก็ไม่สามารถไปพบตามใจคิดได้
กู้หว่านเยว่ครุ่นคิดภายในสมอง ขบวนคนเดินต่อไปบนถนน ออกจากฉูโจวมุ่งหน้าไปทางเหนือ
คิมหันตฤดูผ่านไปแล้ว กำลังก้าวเข้าสู่วัสสานฤดู
สองวันต่อมา ทุกคนเหนื่อยจนพูดไม่ออก ฝนบนท้องฟ้าโปรยปรายไม่หยุด
กู้หว่านเยว่เตรียมเสื้อฟางกันฝนไว้ให้ทุกคนล่วงหน้าแล้ว แต่ละคนสวมเสื้อฟางกันฝน เสื้อผ้าจึงไม่เปียกชื้น แต่ก็มิอาจป้องกันน้ำขังบนพื้นได้
รองเท้าผ้าเดินบนดินโคลน ทั้งสองข้างมีทั้งดินโคลนทั้งเปียกชื้น กอปรกับอากาศร้อนอบอ้าว เท้าของทุกคนใกล้เปื่อยเต็มที
ส่วนคนอื่นกลับเลวร้ายยิ่งกว่า แม้แต่เสื้อฟางกันฝนก็ไม่มี แต่ละคนเดินคล้ายศพเดินฝ่าฝนก็มิปาน โยกเยกไปมา บางครั้งบางคราวก็ล้มลงไป
แม้แต่นักการแห่งศาลาว่าการร่างกายกำยำล่ำสัน ล้วนคิดว่าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
“หัวหน้า ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว มิสู้พวกเราหาที่พักผ่อนแห่งหนึ่งเถอะ”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...