จนกระทั่งได้ยินเสียงของกู้หว่านเยว่ดังขึ้นอีกครั้ง เขาจึงรู้สึกโล่งใจ รีบปลดผ้าที่ปิดตาออก แล้วหันหลังวิ่งไปหานาง
“นายท่านของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่เป็นไรแล้ว เจ้าไปดูเองเถอะ”
ไม่ต้องให้กู้หว่านเยว่บอก มู่ชิงก็ก้มลงไปตรวจสอบอาการของชายคนนั้นแล้ว
เมื่อเห็นไม้ที่ปักอกชายคนนั้นถูกดึงออกมา และลมหายใจก็เริ่มคงที่ เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“แม่นางน้อย บุญคุณที่ช่วยชีวิตครั้งนี้ ข้าจะไม่มีวันลืม หากมีโอกาส ข้าจะตอบแทนแม่นางน้อยอย่างดีแน่นอน”
พูดจบ เขาก็สังเกตเห็นว่ากู้หว่านเยว่มีเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก และใบหน้าของนางดูเหนื่อยล้าอย่างมากจากการช่วยชีวิตนายท่านของเขา
ในใจก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณ จากนั้นรีบหยิบจี้หยกออกมา
“นี่คือสิ่งยืนยันตัวตนของสกุลอวิ๋น ข้าน้อยเป็นคนรับใช้ของสกุลอวิ๋น วันนี้แม่นางน้อยช่วยชีวิตคุณชายของสกุลอวิ๋นเอาไว้ หากแม่นางน้อยต้องการความช่วยเหลือ สามารถไปหาพวกเราได้ที่เมืองตงโจว”
“เมืองตงโจว?”
นั่นไม่ใช่จุดหมายต่อไปของพวกเขาหรอกหรือ?
แต่สกุลอวิ๋นนี้ กลับไม่เคยได้ยินมาก่อน
กู้หว่านเยว่เก็บจี้หยกเอาไว้ในอกอย่างเงียบๆ จากนั้นพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน”
นางออกมาข้างนอกนานเกินไป คาดว่าซูจิ่งสิงพวกเขาคงกังวลกันหมดแล้ว
นางไม่คิดจะบอกสถานที่พักของนางให้กับนายบ่าวคู่นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา หลังจากบอกลากับมู่ชิงแล้ว นางก็เดินกลับไปตามทางเดิม
หลังจากที่กู้หว่านเยว่เดินออกไปได้ระยะหนึ่ง ยาสลบที่ให้อวิ๋นมู่ก็เริ่มจางหายไป เขาจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
ในภาพเลือนราง เขามองเห็นเงาร่างอรชรของใครบางคนเดินจากไป
“มู่ชิง นั่นคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าใช่หรือไม่?”
น้ำเสียงของอวิ๋นมู่ไพเราะอย่างยิ่ง ราวกับน้ำพุที่ใสสะอาดและนุ่มนวล
“นายท่าน ท่านฟื้นแล้ว แม่นางน้อยคนนั้นเป็นคนช่วยชีวิตท่านไว้ขอรับ”
“นางชื่ออะไร?”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...