นี่ไม่ใช่ตำราแพทย์อะไรเลย แต่เป็นสมุดภาพที่กู้หว่านเยว่ขีดเขียนเล่น ๆ
สิ่งที่วาดไว้ข้างใน ไม่ใช่เต่าก็เป็นตะพาบ แถมยังมีคำด่าทอที่เป็นที่นิยมในสมัยใหม่ด้วย
หมอโจวยอมทิ้งศักดิ์ศรีไปทำตัวเป็นโจร ศึกษาตำราทั้งคืน สุดท้ายก็ได้แค่ของแบบนี้มา
เขาสติแตกแล้ว
โมโหจนขว้างตำราแพทย์ลงพื้น จากนั้นเดินออกไปด้วยความโกรธ
“กู้หว่านเยว่ นางเด็กสารเลว เจ้ากล้าหลอกข้า เจ้าไม่ตายดีแน่...เอ๊ะ สมุนไพรของข้าล่ะ?”
เมื่อเห็นร้านขายยาที่ว่างเปล่า เขายังคิดว่าตัวเองตาฝาด จึงรีบขยี้ตา
จนกระทั่งขยี้ตาไปหลายสิบรอบแล้วก็ยังเห็นภาพเดิม สุดท้ายก็ตกใจจนทรุดลงไปกองกับพื้น
“ร้านของข้า สมุนไพรของข้า สมุนไพรล่ะ!”
เสียงร้องไห้ของหมอโจว ทำให้หมอและเด็กในร้านขายยาคนอื่น ๆ ตกใจกันหมด
ทุกคนต่างตกใจจนหน้าถอดสี รีบไปแจ้งทางการ เนื่องจากสมุนไพรสูญหายไปมากขนาดนี้ ทางการย่อมให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อไปตรวจสอบที่ร้านขายยา ก็ไม่พบว่ามีใครบุกรุกเข้าไปในร้าน แต่กลับพบชุดดำภายในห้องของหมอโจว
ทางการสงสัยว่าหมอโจวจงใจสร้างเรื่องขึ้นมา หมอโจวที่น่าสงสารไม่เพียงแต่ไม่ได้รับการชดใช้ความเสียหาย แต่ยังถูกจับเข้าคุกและถูกสั่งสอนอย่างหนัก ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออกมา
ช่างเป็นการทำตัวเองแท้ ๆ
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลัง
ทางด้านกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงกลับมาถึงศาลาว่าการ หลังจากกลับมาแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ไม่ได้ล้มตัวลงนอนทันที แต่กลับคิดหาวิธีจัดการกับยาสมุนไพรจำนวนมากที่อยู่ในมิติ
“ตอนนี้ในเมืองตงโจวมีผู้ป่วยเยอะมาก และมีผู้อพยพนอกเมืองจำนวนไม่น้อยที่ติดโรคระบาด ข้าตั้งใจจะบริจาคสมุนไพรเหล่านี้ให้กับผู้อพยพ”
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน กู้หว่านเยว่ก็ตัดสินใจ
ซูจิ่งสิงแสดงสีหน้าชื่นชมออกมาทันที สายตาของเขาก็มองกู้หว่านเยว่ด้วยความรักใคร่มากยิ่งขึ้น


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...