ซูหรานหร่านก้มหน้าลง “ท่านย่าไม่ยอมดูแลท่านแม่ก่อน
ตอนที่นางป่วย ท่านแม่คอยดูแลนางตลอด ตอนนี้ท่านแม่ป่วยแล้ว นางไม่สนใจเลยสักนิด โดนตีก็สมควรแล้วมิใช่หรือ?”
“ซูหรานหร่าน เจ้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร ปกติพ่อสอนให้เจ้าเคารพผู้ใหญ่และรักเด็กไปไหนหมด?”
ซูหัวหยางแสดงสีหน้าเย็นชา
ซูหรานหร่านกลับเหมือนถูกกระตุ้น เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา
“ข้าพูดผิดตรงไหน พวกเราบ้านใหญ่รับใช้ท่านย่ามาตลอดทางเหมือนวัวเหมือนม้า แต่ท่านย่าเคยเห็นความดีของพวกเราบ้างหรือไม่
ในใจของท่านพ่อมีแต่ท่านย่า ไม่สนใจเลยหรือว่าท่านแม่ข้าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร?”
ซูหัวหยางหน้าแดงก่ำ
แน่นอนว่าเขาเป็นห่วงนางจิน แต่ความกตัญญูเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เขาควรจะห่วงใยท่านแม่ของเขามากกว่า เพราะฮูหยินผู้เฒ่าซูคือแม่ของเขานี่นา?
“หรานหร่าน เจ้าจะก้าวร้าวเกินไปแล้ว กล้าพูดกับพ่อแบบนี้ได้อย่างไร!”
ซูหัวหยางกล่าวพลางยกมือจะตบหน้าซูหรานหร่าน แต่โชคดีที่ซูเช่อเข้ามาขวางไว้ทัน
“ท่านพ่อ อย่าทำร้ายน้องสาวเลย น้องสาวก็แค่เป็นห่วงท่านแม่”
ซูหรานหร่านฉวยโอกาสหนีไป มองซูหัวหยางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แล้ววิ่งหนีไปไกล
ทางด้านนี้ เพื่อที่จะรักษาอาการป่วยของคนทั้งสี่ให้หายโดยเร็ว และเพื่อให้แน่ใจว่าคนอื่นจะไม่ติดโรค กู้หว่านเยว่จึงนำยาพิเศษออกมาจากมิติเพื่อทำการรักษาพวกเขา
และยังต้มยาจีนหม้อใหญ่ จากนั้นแบ่งใส่ชามสี่ใบให้พวกเขาดื่ม
แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าซูจะยืนกรานว่าตนเองไม่ได้ป่วย แต่นางรักตัวกลัวตาย จึงดื่มยาจนหมดเกลี้ยง
และภายใต้การบังคับขู่เข็ญของกู้หว่านเยว่ นางก็ป้อนยาให้กับอีกสามคนที่เหลือ
“กู้หว่านเยว่ เจ้ามันคนใจร้าย เจ้าต้องไม่ตายดีแน่!”
“แทนที่จะเอาเวลามาด่าข้า สู้ไปลองคิดดูดีกว่าว่าตัวเองติดเชื้อมาลาเรียได้อย่างไร”
จากการสังเกตของกู้หว่านเยว่ อาการของฮูหยินผู้เฒ่าซูแม้จะเบาที่สุด แต่กลับเป็นคนที่ติดเชื้อมาลาเรียเป็นคนแรก
ส่วนอีกสามคนติดเชื้อมาจากนาง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...