ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 133

ทั้งภายในและภายนอกวัดอานหลิงเงียบสงบ เฟิงฉิ้นหว่านเดินตามอานผิงอ๋อง ลงเขาไป โดยไม่มีใครออกมาถามไถ่เลยแม้แต่คนเดียว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้จัดการไปเรียบร้อยก่อนหน้านี้หรือไม่

เสิ่นเยว่เดินตามเฟิงฉิ้นหว่านไปติดๆ และคอยดูแลนางอย่างระมัดระวัง

อานผิงอ๋อง เอ่ยอย่างละอายใจ “ฮูหยิน แม่นางเฟิง เส้นทางลงเขาอันตรายจึงไม่สามารถนำรถม้าขึ้นมาได้ จึงจำเป็นต้องเดินเท้าลงไปยังตีนเขา เป็นเพราะข้าที่ไม่รอบคอบเอง”

ตอนกลางวันยังพอใช้เกี้ยวได้ แต่ตอนกลางดึกเช่นนี้แม้แต่เกี้ยวก็ยังไม่กล้านั่ง เพราะกลัวว่าจะต้องกลิ้งตกลงไปถึงตีนเขา

ความโกรธในใจของเฟิงฉิ้นหว่านยังคงอยู่ นางจึงขี้เกียจตอบคำถามอานผิงอ๋อง

เสิ่นเยว่เอ่ยปากว่า “ท่านอ๋องไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้หรอก พวกเราเป็นแค่คนธรรมดา ผ่านวันเวลายากลำบากมามากแล้ว หนทางบนภูเขาแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ข้าสอนเฟิงฉิ้นหว่านให้ทำทุกอย่างโดยใช้ความสามารถของตัวเอง หากเฟิงฉิ้นหว่านลงเขาไม่ไหวคงไม่รับปากท่านว่าจะลงมา”

น้ำเสียงของเสิ่นเยว่ราบเรียบ แต่อานผิงอ๋อง กลับรู้สึกถึงการเสียดสี เขาจึงยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ เรื่องราวครั้งนี้ไม่เพียงทำผิดต่อแม่นางเฟิงเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าฮูหยินเสิ่นก็จะไม่พอใจไปด้วย แย่จริงๆ……

ตระกูลหยุน! ทั้งหมดเป็นความผิดของตระกูลหยุน!

บังอาจวางแผนให้เขาติดกับดัก เขาจะต้องทำให้พวกนั้นได้ชดใช้เป็นร้อยเท่า!

เมื่อลงมาถึงตีนเขา อานผิงอ๋อง ก็ได้จัดเตรียมรถม้าสำหรับเฟิงฉิ้นหว่านและเสิ่นเยว่เอาไว้แล้ว จากนั้นจึงค่อยๆ อุ้มเห้อเหลียนฉางเซิงขึ้นรถม้าอย่างระมัดระวัง ส่วนตนเองขี่ม้าคอยระวังอยู่ด้านนอก

ตอนนี้ดึกมากแล้วจึงไม่สามารถเข้าเมืองได้ตอนนี้ รถม้าจึงมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง

หมู่บ้านแห่งนั้นมีกำแพงสีขาวสูงล้อมรอบ มองดูจากด้านนอกให้ความรู้สึกเรียบง่าย แต่เมื่อเข้าไปในหมู่บ้านถึงรู้ว่าด้านในนั้นมีบางอย่างซ่อนอยู่

แม้ว่าท่ามกลางความมืดจะมองไม่ถนัดนัก แต่ก็พอมองออกถึงความสวยงาม สิ่งก่อสร้างที่ก่อสร้างขึ้นอย่างตั้งใจ เมื่อเข้าไปด้านในห้องแล้วจึงพบว่าภายในห้องโปร่งโล่งและหรูหรา

“แม่นางเฟิง ตามหลักแล้วไม่ควรจัดห้องของแม่นางกับฉางเซิงไว้ใกล้กันมากนัก แต่ตอนนี้อาการของฉางเซิงควรอยู่ใกล้ๆ แม่นางเฟิงเอาไว้ ดังนั้นแม่นางได้โปรดอภัยด้วย” อานผิงอ๋อง กล่าวขอโทษด้วยความละอาย

“สำหรับท่านชายน้อยข้าเป็นแพทย์ ไม่ต้องมากเรื่องขนาดนั้นก็ได้เจ้าค่ะ”

“ขอบคุณแม่นางเฟิง”

เฟิงฉิ้นหว่านตรวจชีพจรของเห้อเหลียนฉางเซิงอีกครั้ง ตอนนี้ชีพจรของเขาค่อนข้างสงบแล้ว จึงหันไปตรวจสอบสิ่งแวดล้อมภายในห้อง “ผ้าม่านและพรมในห้องนี้อบกลิ่นหอมเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะไม่ส่งผลเสียอะไรมาก แต่ดีที่สุดอย่าเอาไว้เลยจะดีกว่า”

อานผิงอ๋อง รีบพยักหน้า “ตกลง ข้าจะให้คนมาเอาออกไป”

“อีกอย่าง สั่งให้คนเข้ามาทำความสะอาดในห้องของฉางเซิงบ่อยๆ อากาศเริ่มร้อนขึ้นแล้ว สองวันที่ผ่านมาฝนยังไม่ตกอีกด้วย จะต้องรักษาความสะอาดให้ดี อย่าให้มีฝุ่น ส่วนคนที่จะเข้ามาให้ห้องของฉางเซิงจะต้องเป็นคนที่กำหนดเอาไว้แล้วเท่านั้น และควรเป็นคนที่ฉลาดคล่องแคล่ว เพราะข้าจะสั่งให้เขาคอยจัดยาไว้ให้ฉางเซิง……”

อานผิงอ๋อง พยักหน้าทันที แล้วรีบจดคำพูดที่แม่นางเฟิงพูดไปเมื่อครู่นี้จดลงใส่สมุดเอาไว้ “แม่นางเฟิงคาดว่าฉางเซิงจะต้องพักรักษาตัวอีกนานเท่าไหร่หรือ”

“เมื่อครู่นี้ที่วัดอานหลิง ข้าเพียงช่วยเขาบรรเทาอาการป่วยเท่านั้น หากต้องการให้อาการดีขึ้นจริงๆ อาจต้องใช้เวลาอีกสองวัน ภายในสองวันนี้ไม่สามารถเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ได้”

หัวใจของอานผิงอ๋อง กระตุกวูบ ความละอายใจและความตื้นตันเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน “ขอบคุณแม่นางเฟิงที่ยื่นมือช่วยเหลือ”

หากคืนนี้เฟิงฉิ้นหว่านไม่ให้ความช่วยเหลือหรือไม่ยอมติดตามลงมารักษาด้วย เขาเองก็คงหาข้อผิดพลาดไม่เจอ ต่อให้ไปตามหาสาเหตุภายหลังก็คงยากที่จะเอาชีวิตของฉางเซิงกลับมาได้

และนอกจากนางจะช่วยชีวิตคนแล้ว นางยังยอมลงเขามากลางดึกโดยไม่ถือสาเรื่องที่ตนล่วงเกินและเคยหลอกลวงนางเอาไว้ ลำพังเพียงจิตใจของนางก็ทำให้เขารู้สึกนับถือได้แล้ว

“หากท่านอ๋องรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของข้า เช่นนั้นวันใดที่เปิดเส้นทางการค้าสำเร็จ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ข้าก็เพียงพอแล้ว ของอื่นๆ ล้วนเป็นของปลอม ส่วนเงินทองเป็นของที่ปลอมไม่ได้”

“วางใจเถิดแม่นาง ไม่ว่าแม่นางต้องการเงินเท่าไหร่ จวนอานผิงอ๋อง ของข้าต่อให้ต้องทุบหม้อข้าวตัวเองก็จะหาเงินมองกองตรงหน้าแม่นางให้ได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ