สรุปตอน บทที่ 6 ไม่ได้น่าตกใจอะไร – จากเรื่อง ชายาบุปผาซ่อนพิษ โดย ฝนควัน
ตอน บทที่ 6 ไม่ได้น่าตกใจอะไร ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง ชายาบุปผาซ่อนพิษ โดยนักเขียน ฝนควัน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเห็นหลิวฉู่โจ้ก้าวเข้ามา เจ้าพนักงานก็พากันหลบทางให้
“ท่านพลตระเวน ท่านแค่เอาคำพูดของข้าไปรายงานแก่ใต้เท้าจ้าว ข้าเชื่อว่าใต้เท้าจ้าวต้องเข้าใจ”
“แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าไม่ได้พูดเพ้อเจ้อ”
“เฟิงหลิงบิดาของข้าเสียชีวิตไปแล้วและทิ้งทรัพย์สมบัติเอาไว้มากมาย ข้ายินดีเอาสมบัติของตระกูลเฟิงทั้งหมดเป็นตัวประกัน รบกวนท่านพลตระเวนนำคำพูดของข้าไปรายงานด้วย หากคำพูดของข้าไม่เป็นความจริง ข้ายินดียกทรัพย์สมบัติทุกอย่างของตระกูลให้!”
หลิวฉู่โจ้ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะเอ่ยปากว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าเป็นลมไปแล้วไม่ใช่หรือ”
เฟิงฉิ้นหว่านคงไม่ได้ทำทุกอย่างนี้เพื่อที่อยากจะเข้าคุกมาพูดคำพูดพวกนี้หรอกกระมัง
ดวงตาของเฟิงฉิ้นหว่านเคลื่อนไหว “หากข้าไม่เป็นลม ข้าคงเข้ามาอยู่ในนี้ไม่ได้”
เรื่องนี้ต้องขอบคุณการฝึกฝนอย่างหนักของพี่หญิงเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เมื่อชาติก่อนตอนที่นางถูกตามตัวกลับไปจึงได้รู้ว่าพี่หญิงเอกป่วยเป็นโรคประหลาด
เพื่อทำการรักษาพี่หญิงเอก องค์ชายสามถึงกับตามหมอผีมารักษา นับแต่นั้นเป็นต้นมา นางก็เหมือนตกลงสู่นรก 18 ชั้น
หมอผีคนนั้นมีพฤติกรรมผิดปกติ เขาชอบใช้วิธีการทารุณ ทดลองยาหลากหลายประเภทและของมีพิษต่างๆ และนางถูกโยนลงไปในบ่ออสรพิษหลายต่อหลายครั้ง......
เพียงคิดเฟิงฉิ้นหว่านก็ตัวสั่น
นางอดทนมาเป็นเวลากว่าสองปี นางลอบเรียนวิชาต่างๆ มาจากหมอผี และคิดหาทางหนีไปด้วย ตอนแรกนางเกือบจะทำสำเร็จอยู่แล้ว แต่กลับไปเจอคนตระกูลเหลียงของท่านตา
วันนั้น นางถูกลุงแท้ๆ ของตนพาตัวกลับ แล้วลงโทษพันมีดหมื่นแร่......
หลิวฉู่โจ้หยุดไปพักหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป หลังจากที่เขาออกจากคุกแล้ว เขาก็รีบก้าวเท้าไปที่ห้องหนังสือ
เฟิงฉิ้นหว่านถอนใจ แล้วลุกขึ้นช้าเดินไปนั่งเอนกายพิงตัวอยู่ที่มุมกำแพง นางยกมือขึ้นมาและพยายามดึงเศษกระเบื้องที่ปักอยู่ในมือออกไป
ตอนนั้นเลือดไหลทะลักออกมามากกว่าเก่า นางค่อยๆ ยกมือขึ้นแล้วมองหยดโลหิตค่อยๆ ไหลนองออกมา ตอนนั้นสายตาของนางเริ่มเห็นภาพต่างๆ ได้อย่างแจ่มชัดมากขึ้น
เพราะมีชีวิตอยู่ถึงรู้สึกเจ็บ ดียิ่ง!
เฟิงฉิ้นหว่านฉีกผ้าชิ้นหนึ่งออกมาจากปลายกระโปรง แล้วบรรจงใช้ผ้าพันแผลที่มือของตัวเองอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงแหงนหน้ามองแสงอาทิตย์ที่สาดส่องทะลุหน้าต่างคุกเข้ามา
แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาให้ความอบอุ่น ฝุ่นที่ลอยคลุ้งได้ย้อมทุกอย่างให้กลายเป็นสีทอง
ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดอะไร ถึงขั้นไม่เคยตั้งใจเหลียวมองมันด้วยซ้ำ แต่เมื่อกลับมาเกิดใหม่กลับรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องที่มีคุณค่า
ณ ที่ว่าการอำเภอ นายอำเภอจ้าวยี่คุกเข่าลงกับพื้น “คารวะองค์ชาย”
ฟู่ลั่วเฉินสวมชุดขาวนั่งอยู่ที่ตำแหน่งประธาน พัดในมือกางอยู่ครึ่งหนึ่ง “เฟิงฉิ้นหว่านบอกว่ารู้ว่าสิ่งที่เจ้าต้องการอยู่ที่ไหนงั้นรึ”
“หลิวฉู่โจ้รายงานเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ อีกอย่างตอนนี้ผ่านไปสองชั่วยามแล้ว เฟิงฉิ้นหว่านยังคงไม่มีท่าทางทุกข์ใจแต่อย่างใด ดูท่าแล้วนางคงมั่นในมาก”
“เช่นนั้นท่านก็ลองไปพบนางดูสักหน่อย เมื่อก่อนเฟิงหลิง บิดาของเฟิงฉิ้นหว่านได้รับความไว้วางใจจากองค์ชายสามอย่างมาก สมุดบัญชีที่เขาบันทึกเอาไว้จะต้องมีประโยชน์อย่างมาก”
“พะย่ะค่ะ”
จ้าวยี่มองสำรวจดรุณีน้อยท่าทางบอบบางผู้นี้ ก่อนสายตาของเขาจะเปลี่ยนไป เห็นเครื่องมือประหารมากมายขนาดนี้สีหน้ายังคงเหมือนเดิม นางเป็นคนกล้าหาญใช้ได้เลยทีเดียว
“เฟิงฉิ้นหว่าน เจ้ารู้หรือไม่ หากเจ้าโกหกข้าจุดจบของเจ้าจะเป็นอย่างไร” สีหน้าของจ้าวยี่เคร่งขรึม เขาตั้งใขทำหน้าเข้มเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกหวาดเกรง
“ใต้เท้าเจ้าคะ ข้ามีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกท่าน แล้วท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าหลอกท่าน”
“เช่นนั้นเจ้าก็ว่ามา ว่าข้ากำลังตามหาอะไรอยู่”
เฟิงฉิ้นหว่านมองซ้ายมองขวา “ของสิ่งนี้ใต้เท้าไม่ได้เป็นคนอยากได้เองหรอกกระมัง”
จ้าวยี่หรี่ตาลง “ไม่ใช่ข้าแล้วจะเป็นผู้ใด”
หรือว่าเฟิงฉิ้นหว่านรู้ว่ามีองค์ชายอยู่ด้วย
สายตาของจ้าวยี่มองไปยังกำแพงอีกด้านหนึ่งโดยสัญชาตญาณ การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยของเขากลับถูกเฟิงฉิ้นหว่านจับสังเกตได้อย่างรวดเร็ว
เฟิงฉิ้นหว่านหันหน้าไปมองกำแพงด้วยรอยยิ้มกว้าง “องค์ชายเจ้าคะ ในเมื่อมาแล้วจะไม่ออกมาหน่อยหรือ”
จ้าวยี่ ขุนนางใหญ่ที่รับผิดชอบกรมอาญามากว่า 4 ปี
เจ้านายของเขาต่างหากที่เป็นคนบงการแผนการทั้งหมดอย่างแท้จริง
ฟู่ลั่วเฉิน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ