ผู้หญิงสามคนที่หยุนฝู้เฉินหาให้เซี่ยจินอาน นางก็โยนพวกเขาให้กับเจียงซือกับเจียงยี่ทั้งสองคน ให้ทั้งสองสอนทฤษฎีการรักษาโรคขั้นพื้นฐานและข้อควรระวังในการต้มยา
ตอนนี้หลักๆนางก็แค่ต้องการดูว่าทั้งสามคนนี้ฝึกไปถึงขั้นไหนแล้ว และมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องการให้สองพี่น้องนี้ไปทำ
แต่ยังไม่ได้เจอเจียงยี่พี่น้องสองคนนี้ แต่กลับเจอกับเจ้าตัวแสบสองคนนี้ก่อน
ก็เห็นร่างเล็กๆของหลินหยู่กับหลิ่วสือซานทั้งสองเดินออกจากเรือนหนาน ทั้งสองเห็นคนแปลกหน้าปรากฏขึ้นในลานก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่หลินหยู่ยังคงสงบมาก เพราะทั้งสองก็เคยพบกันมาหลายครั้งและรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนเลว
แต่หลิ่วสือซานกลับเคยเห็นเซี่ยจินอานเป็นครั้งแรก และซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหลินหยู่ด้วยความกลัว
เซี่ยจินอานยิ้มให้ทั้งสองคนและพูดว่า:"ดึกเช่นนี้แล้ว ทำไมพวกเจ้าทั้งสองยังไม่ไปนอน?"
เจ้าตัวน้อยทั้งสองอึ้งกับรอยยิ้มของเซี่ยจินอาน พี่สาวคนนี้ยิ้มแล้วสวยงามจริงๆเลย!
"ข้าอยากอยู่ในโรงเรียนไปสักพักเอง" หลิ่วสือซานก้มหน้าและพูดอย่างแผ่วเบา
หลินหยู่ช่วยหลิ่วสือซานอธิบายว่า:"เสี่ยวอวิ๋นก็เพื่ออยากฝึกฝนลูกคิดให้มาก จึงอยู่ตรงนี้นานไปหน่อย"
หลิ่วอวิ๋นเป็นชื่อที่อาจารย์หานตั้งให้หลิ่วสือซาน
เพราะตอนนี้ที่โรงเรียนพาณิชย์นี่ยังไม่พบอาจารย์สอนหนังสือที่ดี ดังนั้นจึงหาเซียนเซิงผู้หนึ่งมาสอนการคิดคำนวณและการใช้ลูกคิดให้เด็กเหล่านี้
หลังจากการเตือนความจำเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเรื่องที่จะโกงใครบางคนมานั้นก็ต้องรีบดำเนินการสักแล้ว!
"พวกเจ้ายังเด็ก ทำอะไรอย่าได้ใจร้อนต้องการเห็นความสำเร็จในทันที ต่อไปอย่านอนดึกเช่นนี้อีกละ"เซี่ยจินอานบอก
"เสี่ยวอวิ๋นทำเช่นนี้ก็เพื่อพี่น้องของพวกเขานั้น! เสี่ยวอวิ๋นบอกว่าเขาจะต้องเรียนรู้ที่จะหาเงิน และหาเงินให้ได้เยอะๆ! จากนั้นก็พวกคนที่อยู่ในบ้านฉืออานนั้นมีชีวิตที่ดีขึ้น! "
เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ในใจของเซี่ยจินอานก็เจ็บจี๊ด เรื่องบ้านฉืออานนี่ก็เป็นดั่งหินก้อนใหญ่ที่ทับลงมาในหัวใจของนางอีกครั้ง
จนกระทั่งตอนนางไปหาเจียงซือกับเจียงยี่ใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพียงแค่นำเรื่องที่จะซื้อเครื่องยาในโรงหมอนั้นบอกให้พวกนางทั้งสองคนเสร็จแล้วก็จากไป
จนกระทั่งกลับไปถึงที่จวนแม่ทัพนางก็ยังคืนสติมาไม่ได้
เรื่องเด็กกำพร้านี้นางไม่สามารถควบคุมได้ แต่สำหรับเรื่องต้านทานการทำทารุณกรรมเด็กกำพร้านั้น นางก็ยังมีวิธีต่อต้านได้อยู่
ฮ่องเต้ไม่เห็นด้วย งั้นนางก็คิดหาวิธีทำให้เขาเห็นด้วย!
ขณะที่ใจเหม่อลอย จู่ๆก็ได้ยินเสียงตะโกนดังมา
"คุณหนู!"
พอเซี่ยจินอานคืนสติมาก็หันไปมองคนที่มาและรู้สึกไม่คาดฝันเล็กน้อย
ไม่คิดเลยว่าดึกป่านนี้แล้วจะพบซูหลานนอกจวนแม่ทัพได้ และเมื่อมองดูดวงตาที่แดงของนางเหมือนเพิ่งร้องไห้มา
พอนางเดินเข้ามาใกล้ เซี่ยจินอานก็เหมือนได้กลิ่นควันไฟ ราวกับว่าเพิ่งออกมาจากกองไฟ
"นี่เจ้าไปไหนมาเนี่ย?ใครรังแกเจ้า? "เซี่ยจินอานถาม
เมื่อถูกถามเช่นนี้ ดวงตาของซูหลานก็ยิ่งแดงขึ้น และน้ำตาคลออีกครั้ง แต่ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา ส่ายหัวและบอกว่า: "ไม่เป็นไร แล้วก็ไม่มีใครรังแกข้าด้วย"
เซี่ยจินอานไม่เชื่อ แต่เมื่อซูหลานไม่อยากพูดนางก็ไม่อยากบังคับหล่อน เพราะในใจของแต่ละคนนั้นต่างก็มีความลับซ่อนอยู่
เช่นเดียวกับนาง ซ่อนความลับที่จะทำให้ทุกคนตกใจได้
หากเรื่องที่ "วิญญาณจากโลกใบอื่นนั้น" ถูกใครรู้เข้า คงจะถูกชาวบ้านที่นี่เผาทิ้งดั่งสัตว์ประหลาดแน่เลย
ซูหลานเดินตามหลังเซี่ยจินอาน และรู้สึกเศร้าอย่างร้องไห้ยิ่งนัก
วันนี้เป็นวันตายครบหนึ่งร้อยวันของพี่ชายนาง และนางออกจากจวนในเวลากลางดึกก็เพราะไปเผากระดาษเงินกระดาษทองให้พี่ชาย
ตอนเผากระดาษเงินกระดาษทองนั้น นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงความทรงจำตอนที่พี่ชายนางยังมีชีวิตอยู่นั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...