ซูหยาวเม้มปากและพูดเบาๆว่า:"คุณหนูทำเช่นนี้ต้องมีเหตุผลของนางอยู่แล้ว"
"คนข้างนอกบอกว่า เรื่องที่คุณหนูเปิดโรงหมอนั้นมันเป็นเรื่องตลกชัดๆ ยิ่งพูดยิ่งเกินไป"
ซูหลานพูดอย่างโกรธ
ข่าวที่เซี่ยจินอานไปเป็นเด็กดูแลยาในอนุเคราะห์พิภพนั้นก็ได้แพร่ออกไปทั่วแล้ว มีคนหลายคนกำลังหัวเราะเยาะเซี่ยจินอานและรอดูนางขายหน้า!
นอกจากนี้ด่าว่านางไม่เข้าใจทักษะทางการแพทย์ และยังบอกว่านางแอบไปฝึกการทักษะทางการแพทย์
ไม่มีคำดีๆแม้แต่คำหนึ่งเลย
คำเหล่านี้เซี่ยจินอานเองก็ได้ยินมาแล้วบ้าง แต่นางไม่ได้ใส่ใจ
ในเวลานี้นางยังคงสุขุมรอบคอบและมีความระมัดระวังทำหน้าที่เด็กดูแลยาเช่นเคย
แต่หลังจากมาจับยาได้ไม่กี่วัน ก็ทำให้นางรู้ว่าระดับการแพทย์ที่นี่นั้นล้าหลังไปเพียงใด!
สูตรยาทุกใบล้วนมีบกพร่อง ตรงกับคำที่ว่ายาย่อมมีพิษสามส่วนจริงๆ
สิ่งนี้ทำให้นางคิดที่จะปรับปรุงใบสั่งยา แต่เรื่องนี้ยังคงต้องพิจารณาดีๆก่อน
ตอนนี้เซี่ยจินอานก็ยังคงจับยาให้ผู้คนในอนุเคราะห์พิภพอย่างตั้งใจ
เพียงแต่ว่านางเห็นรายการหนึ่งที่เป็นรายการการรักษาโรคขา และอดไม่ได้ที่จะยกคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นสูตรยาสำหรับการรักษาการบาดเจ็บขาเก่า แต่หญิงชราผู้นี้ดูเหมือนไม่มีบาดแผลเก่า ใดๆเลย ดังนั้นเซี่ยจินอานจึงใช้ระบบสแกนหญิงชราอย่างละเอียดรอบหนึ่ง
หลังจากตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่าที่ขาของหญิงชรานี้ไม่ได้มีแผลเก่าใดๆ มีเพียงแต่โรคข้อเข่าเสื่อมที่พบได้โดยทั่วไปในวัยผู้สูงอายุ
"คุณยาย นี่คือสูตรยาที่ดูโรคของเจ้ารึ?" เซี่ยจินอานถาม
"ไม่ใช่ นี่คือสูตรยาสำหรับลูกชายของข้า"
"ลูกชายเจ้าไม่ได้มาด้วยตัวเองรึ?"
"ไม่ ลูกชายของข้าไปสู้รบเมื่อก่อน ได้รับบาดเจ็บมา และนอนอยู่บนเตียงตลอดทั้งปี ดังนั้นข้าจึงมาเอายาให้เขา"
หลังจากเซี่ยจินอานฟังจบ ก็ยังคงขมวดคิ้วไว้แน่นเหมือนเดิม และต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างอีก แต่กลับถูกเสียงที่กังวลนั้นขัดจังหวะ!
"หลีกทางหน่อย! หลีกทางหน่อย! "
ด้านนอกมีชายหนุ่มที่แข็งแกร่งสองคน ยกชายหนุ่มที่มีหน้าขาวซีดเหมือนกระดาษและเป็นลมไปเข้ามา
"หมอ! หมอ! ช่วยด้วย! "
ชายร่างใหญ่คนหนึ่งตะโกนอย่างกังวล
ฝูงชนก็ให้ทางทั้งสามคน ฉีเซียวเซียวและหมอคนอื่นที่ช่วยรักษาโรคนั้นต่างก็เดินออกมาจากห้อง
ฉีเซียวเซียวกล่าวอย่างไม่พอใจว่า:"ห้ามส่งเสียงดัง!"
เมื่อชายร่างใหญ่เห็นว่ามีคนออกมา ก็กล่าวอย่างกระวนกระวายใจว่า:"เพื่อนของข้าเป็นลมขณะทำงาน หมอท่านรีบช่วยดูหน่อย!"
ฉีเซียวเซียวมองดูการแต่งกายของทั้งสาม เสื้อผ้ากระสอบตัวก็สกปรกเหลือเกิน แค่มองก็รู้ว่าเป็นคนงานชั้นต่ำ และมีบางความรังเกียจบนใบหน้าเล็กน้อย
"เป็นลมได้ยังไง?"
"พวกข้าทั้งสามคนกำลังแบกสินค้าอยู่ที่ท่าเรือ จู่ๆสู้นจื่อก็บอกว่าตนปวดท้อง จากนั้นก็อาเจียนและท้องเสีย และจู่ๆก็เป็นลมไปเลย"
หลังจากฉีเซียวเซียวฟังจบก็บอกว่า:"เขากินของผิดจึงทำให้ท้องเสียเองแหละ เดียวข้าจะเบิกยาแก้ท้องร่วงให้พวกเจ้าสักหน่อย"
จากนั้นก็จะเข้าไปข้างในห้องและเขียนใบสั่งยาโดยตรง
เมื่อเซี่ยจินอานได้ยินวิธีจัดการของฉีเซียวเซียว ก็รู้สึกโมโหยิ่งนัก!
พูดด้วยใบหน้าที่เย็นชาว่า:"ดูโรคต้องดูสีหน้า ฟังเสียงหายใจ ถามอาการโรคและทำการแมะ แม้แต่ชีพจรเจ้าก็ไม่จับดู ก็ตัดสินไปเช่นนี้ ไม่รู้สึกว่าตัดสินเร็วเกินไปรึ?"
ฉีเซียวเซียวหยุดและหันมองเซี่ยจินอานและกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า:"ข้าเป็นหมอ ข้าบอกอันไหนก็คืออันนั้น!"
เซี่ยจินอานหรี่ตาลง และใบหน้านั้นเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย: "เจ้ากำลังเอาชีวิตคนมาทำเป็นเล่นชัดๆ!"
จากนั้นก็กวาดสายตาไปยังหมอคนอื่นๆ "พวกเจ้าล่ะ?ก็คิดว่าท้องเสียเหมือนกันรึ?"
ส่วนหมอคนอื่นที่เหลือ ต่างก็มองหน้ากัน จากนั้นก็มีคนเดินออกมาให้และทำการแมะให้สู้นจื่อ และสังเกตไปสักพัก ยิ่งดูสีหน้าก็ยิ่งดูไม่ดีมากยิ่งขึ้น
"เป็นไส้บวม"
เมื่อเซี่ยจินอานได้ยินประโยคนี้ สีหน้าถึงจะผ่อนคลายลงหน่อย "ก็ยังมีคนหนึ่งที่ไม่สับสนอยู่!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...