จวนเซ่อเจิ้งหวางยังคงเงียบวังเวงเช่นเคย พ่อบ้านยืนอยู่ตรงลานหน้าเรือนและสั่งให้ทุกคนทำความสะอาดลาน หลังจากที่เห็นเซี่ยจินอาน ก็ยิ้มทักทาย เซี่ยจินอานจึงให้เขาตรวจค้นร่างกายไปด้วย หลังจากลากับพ่อบ้านแล้ว เซี่ยจินอานก็ตรงดิ่งไปที่เรือนของหยุนฝู้เฉิน
กิ่งก้านของต้นอู๋ถงและต้นงิ้วที่อยู่ในเรือนนั้นโล่งหมดแล้ว มีเพียงดอกไม้และพืชอันล้ำค่าที่ปลูกไว้ข้างกำแพงเท่านั้นที่บานสะพรั่ง มันช่วยเพิ่มสีสันให้กับช่วงต้นของเหมันตฤดู
ทันทีที่เซี่ยจินอานเดินเข้าเรือน เทียนเฟิงก็กระโดดลงมาจากหลังคา
"คุณหนูเซี่ย"
เซี่ยจินอานหยุดฝีเท้าลง เอ่ยถามขึ้นว่า "ท่านอ๋องของพวกเจ้าล่ะ?"
"อยู่ในห้องหนังสือขอรับ"
เซี่ยจินอานกำลังจะเดินไปยังห้องหนังสือ ตี้เฟิงและหวงเฟิงก็กระโดดลงมาจากต้นไม้ ตี้เฟิงพูดอย่างตื้นตันใจว่า
"คุณหนูเซี่ย ในที่สุดท่านก็นึกถึงท่านอ๋องของเราแล้ว!"
เขาแทบอยากจะจุดประทัดเพื่อเฉลิมฉลอง!
"ในที่สุดวันนี้ก็ไม่ต้องฝึกซ้อมกับท่านอ๋องแล้ว!"หวงเฟิงกล่าว
เมื่อคิดถึงตอนที่ฝึกซ้อมกันเมื่อสองสามวันมานี้ มันช่างทุกข์ทรมานจริงๆ!
นั่นเป็นการประลองฝีมือเหรอ? นั่นมันคือการถูกต่อยตีอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า! กระดูกแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ!
"ท่านรีบเข้าไปเถิด!"ตี้เฟิงผลักเซี่ยจินอานให้เดินไปทางห้องหนังสือ
เซี่ยจินอานรู้สึกสับสนกับสถานการณ์เล็กน้อย คนเหล่านี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า?
ในห้องหนังสือ หยุนฝู้เฉินก้มหน้ามองจดหมายลับในมือ ได้ยินเสียงวุ่นวายจากผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ข้างนอก จึงพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า "ไสหัวออกไป!"
ฝีเท้าของเซี่ยจินอานที่เดินเข้าไปในห้องหนังสือหยุดชะงัก ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยท่าทางสับสน "ท่านให้ข้าไสหัวออกไปหรือ?"
หยุนฝู้เฉินเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาเขาก็ตกตะลึง จากนั้นเขาเหลือบมองเสวียนเฟิงที่ยืนก้มหน้าอยู่ข้างๆแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้านิ่งๆว่า"ข้าให้เขาไสหัวออกไป"
เสวียนเฟิงสีหน้างงงวย??
"ขอรับ ข้าน้อยจะรีบไสหัวออกไป!"เสวียนเฟิงรีบเดินออกไป
หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เซี่ยจินอานก็จ้องตรงไปที่หยุนฝู้เฉิน นางรู้สึกว่าเขาหลอกลวงตนอยู่ แต่นางไม่มีหลักฐาน!
หยุนฝู้เฉินถูกจ้องด้วยสายตาคู่นั้นจนรู้สึกอึดอัด ติ่งหูถูกย้อมจนเป็นสีแดง
เขาขยับร่างกายเล็กน้อย กระแอมไอเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งว่า "เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใด?"
เซี่ยจินอานเดินตรงไปที่หน้าโต๊ะของหยุนฝู้เฉิน หยิบตั๋วเงินที่อยู่ในอกออกมาวางไว้บนโต๊ะ "นี่ คืนเงินให้ท่าน"
หยุนฝู้เฉินเหลือบมองตั๋วเงินบนโต๊ะ พูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า "เจ้ามาหาข้า เพียงเพื่อจะคืนเงินหรือ?"
หากตั้งใจฟังดีๆจะรู้สึกถึงความน้อยใจน้อยๆ
"แน่นอนว่าไม่ใช่"เซี่ยจินอานรีบปฏิเสธ
เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของหยุนฝู้เฉินก็เริ่มอ่อนลง มุมปากเผยยิ้มขึ้นเล็กน้อย เพียงแต่ยังไม่ทันยิ้มได้วินาทีเดียว ก็ได้ยินสิ่งที่เซี่ยจินอานกล่าวต่อจากนั้น
"ที่จริงยังมีอีกเรื่องหนึ่ง"น้ำเสียงของเซี่ยจินอานนิ่งไปครู่หนึ่ง "เรื่องยุทธการจันทร์เพ็ญ ท่านอ๋องตรวจสอบไปถึงไหนแล้ว?"
มุมปากของหยุนฝู้เฉินตกลงมาทันที
เท่านี้หรือ? เหตุใดจึงมีแต่เรื่องงาน คุยเรื่องส่วนตัวกันหน่อยไม่ได้หรือ?
"มีคนใช้เรื่องนี้ทำให้เจ้าลำบากใจหรือ?"
สำหรับประชาชนเมื่อผู้กระทำผิดได้ถูกกฎหมายลงโทษไปแล้ว ไม่น่ามีใครใช้เรื่องนี้ทำให้นางลำบากใจได้อีก
"ไม่เพคะ"เซี่ยจินอานส่ายหน้า "ข้าเพียงยากคืนความยุติธรรมให้กับวีรชนผู้พลีชีพทั้งสามแสนคน"
ในหัวของนางปรากฏภาพดวงตามืดมนหลายคู่ที่ได้พบเจอในตรอก ใจนางก็กระตุกขึ้นทันใด
หยุนฝู้เฉินเม้มริมฝีปากนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า "เหตุเกิดในเวลาพลบค่ำของวันไหว้พระจันทร์ ชาวเมืองส่วนมากต่างอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้าน คนที่อยู่กลางถนนจึงมีน้อยมาก ไม่มีผู้ใดเห็นหน้าคนร้ายเลย"
"แต่ ข้าได้สั่งคนให้ไปสืบแถวเป่ยตี๋ซีจาวแล้ว คาดว่าอีกไม่นานคงจะมีข่าวคราว"
เซี่ยจินอานกล่าว"หากท่านอ๋องได้รับข่าวคราว โปรดแจ้งให้ข้าทราบด้วย"
นางส่งคนจากสำนักซื่ออิ่งไปทีหลัง บางทีอาจจะไม่เร็วเท่าข่าวจากทางหยุนฝู้เฉิน
ดังนั้นในเพลานี้นางจึงได้เพียงแต่รอข่าวจากทั้งสองทางเท่านั้น
หยุนฝู้เฉินพยักหน้ารับ จากนั้นก็ส่งจดหมายลับที่อยู่ในมือของตนให้เซี่ยจินอาน พูดเสียงเบาว่า "เจ้าลองดูนี่สิ"
เซี่ยจินอานรับมา เหลือบมองอย่างสงสัย แล้วดวงตาก็เป็นประกายขึ้น "สงครามชายแดนใกล้จะสิ้นสุดแล้วหรือ?"
"อืม เพลานี้เป่ยตี๋ซีจาวสองแคว้นต่างล่าถอย อีกไม่นานคงมีการสงบศึกกัน"หยุนฝู้เฉินพูดเสียงเบา
"สงบศึกก็ดีแล้ว"เซี่ยจินอานกล่าวอย่างปลงใจ
สงครามทำให้ชีวิตของผู้คนต้องแยกจากกันอย่างไม่มีทางหวนกลับ
หยุนฝู้เฉินมองเซี่ยจินอานเงียบๆ "สงครามครั้งนี้เจ้าเจ็ดและแม่ทัพเซี่ยทำผลงานได้ดี ฝ่าบาทคงจะให้บำเหน็จตามความชอบ"
ในตอนแรกหยุนเทียนยิ่นกังวลที่หยุนฝู้เฉินมีกองทัพอยู่ในมือจะเป็นภัยคุกคามต่อบัลลังก์ของเขา ดังนั้นจึงยึดอำนาจทางทหารของหยุนฝู้เฉินให้ไท่จื่อไปรบแทน เพราะหยุนฝู้เฉินต้องการจะปกป้องชีวิตของเซี่ยจินอานจึงตกลงยอมมอบอำนาจทางทหารให้ เพียงแต่เขามอบให้องค์ชายเจ็ดหยุนจวินมู่
หยุนเทียนยิ่นเป็นคนหวาดระแวงอยู่เสมอ กังวลว่าไท่จื่อจะยึดบังลังก์ ดังนั้นเขาจึงได้ส่งเสริมเจ้าเจ็ดเพื่อขัดขวางไท่จื่อ ตอนนี้สงครามได้รับชัยชนะแล้ว หยุนเทียนยิ่นจึงมีข้ออ้างที่จะส่งเสริมเจ้าเจ็ดมากขึ้น
เพียงแต่เจ้าเจ็ดมีอำนาจทางทหารอยู่ในมือ หยุนเทียนยิ่นจะต้องหาคนมาแบ่งอำนาจทางทหารกับเจ้าเจ็ดอย่างแน่นอน ในเวลาเช่นนี้เซี่ยฉู่เหรินจะเป็นหมากที่ดีตัวหนึ่ง
แล้วหยุนเทียนยิ่นที่อยากใช้งานเซี่ยฉู่เหริน เขาจะเลือกวิธีจัดการแบบไหนกับเรื่องของเซี่ยยิวหรานกันนะ?
หลังจากที่เซี่ยจินอานได้ยินคำพูดของหยุนฝู้เฉิน ก็คิดมาถึงขั้นนี้เช่นเดียวกัน เมื่อตระหนักถึงความตั้งใจอันลึกซึ้งของข่าวที่หยุนฝู้เฉินบอกกับนาง นางจึงกล่าวอย่างจริงใจว่า "ขอบคุณนะ!"
"เจ้ามีแผนในใจหรือไม่?"
เซี่ยจินอานยิ้ม นิ่งเงียบไม่พูดสิ่งใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...