"เจ้าว่ามาสิ ข้าจะลองฟัง" หมอจวนบอก
"ข้ามิได้จะให้หมอเซวียออกจากจวนอ๋อง และมิให้หมอเซวียโดนท่านอ๋องตัดสองมือ ยังไงซะหมอเซวียก็อายุมากแล้ว หากมิให้ท่านรักษาคน ก็ต้องเปลี่ยนอาชีพ หากอายุท่านปูนนี้แล้วคงมิสมควรเท่าใด"
"ดังนั้นข้าเลยคิดง่ายๆ หากข้าสามารถรักษาเชื้อราที่เล็บของซูหยาวได้ในเจ็ดวัน หมอเซวียต้องวิ่งรอบจวนอ๋องหนึ่งวัน และตะโกนไปด้วยว่า ‘วิชาการแพทย์ของเซวียฉางกุ้ยสู้เซี่ยจินอานไม่ได้’"
"เป็นอย่างไร? บทลงโทษนี้มิเกินไปกระมัง"
หมอจวนพอได้ยินอย่างนั้นสีหน้าโกรธจนแดงก่ำ! วิชาการแพทย์เขาจะสู้เซี่ยจินอานไม่ได้เยี่ยงไรกัน!
"ได้!" เขากัดฟันตอบ
เซี่ยจินอานเห็นว่าบรรลุเป้าหมายตนแล้ว ดังนั้นเลยหันไปมองหยุนฝู้เฉินพลางว่า "ขอท่านอ๋องเป็นพยานด้วย!"
"อืม" ตอบสั้นๆหนึ่งคำด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ดูเย้ายวนสุดๆ
หลังจากแก้ปัญหาเรียบร้อย คนในห้องโถงข้างๆก็เริ่มกระจายแยกย้ายกัน
เซี่ยจินอานมองดูหยุนฝู้เฉินที่นั่งตำแหน่งประธาน สีหน้าดูสับสน
ผู้ชายคนนี้มองดูเรื่องนี้อย่างมุมมองของคนดู ไม่สนใจเลยสักนิดว่าผลมันจะเป็นยังไง
"อีกห้าวัน ข้าจะฝังเข็มให้ท่านอ๋องอีก"
พูดจบหมุนตัวจากไป ลืมเทียนเฟิงที่นอนอยู่ที่พื้นไปเสียสนิท
ตี้เฟิงบ่นพึมพำ "วันนี้นี่ละครฉากใหญ่จริงๆ แต่ข้าค่อนข้างใจจดใจจ่อกับละครอีกเจ็ดวันให้หลังมากกว่า"
หยุนฝู้เฉินลุกขึ้น ดึงเข็มเงินที่ตัวเทียนเฟิงออก และเดินจากไป
เทียนเฟิงค่อยๆฟื้นขึ้นมาในขณะที่นอนอยู่บนพื้น แวบแรกที่เขาเห็นเมื่อลืมตาตื่นขึ้นคือใบหน้ายิ้มทะเล้นของตี้เฟิง
"เจ้าสู้สตรีอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงผู้หนึ่งไม่ได้"
แววดูถูกในน้ำเสียงเด่นชัดอย่างปิดมิมิด
เทียนเฟิงโกรธจนปวดหัว
พอคิดถึงตอนประมือกับเซี่ยจินอานเมื่อครู่ สตรีนางนั้นช่างแปลกยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน