เข้าสู่ระบบผ่าน

ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม นิยาย บท 7

กู้ชูหยุน ลูกสาวที่สองของเขานั้นรอบรู้ศิลปะแขนงต่างๆ ทั้งฉิน หมากล้อม ตำรา วาดภาพ จึงถูกบังคับให้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวง จวบจนตอนนี้ขุนนางเล็กใหญ่ในราชสำนักยังคงอิจฉาเขา อัครเสนาบดีกู้เองภาคภูมิใจเไปได้อีกนาน

แต่ว่า...

ลูกสาวคนที่สามของเขา ไม่รู้หนังสือแม้สักแต่ หากเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวงท่ามกลางเหล่าปัญญาชนมากมาย คงเสียหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งไปกว่านั้นนางยังหน้าตาขี้อัปลักษณ์ชวนอาเจียน

เมื่อมีราชโองการ นางจึงเป็นหานเฟยโดยสมบูรณ์ ดังนั้นหากนางเสียหน้า ก็เท่ากับหานอ๋องเสียหน้าไปด้วย

หากอัครเสนาบดีกราบทูลฝ่าบาท ฝ่าบาทจะต้องพอพระทัยและสรรเสริญเขาอย่างมาก

แต่เขาก็เท่ากับตั้งตัวเป็นศัตรูกับหานอ๋องโดยสิ้นเชิง

อัครเสนาบดีกู้ถอนหายใจเบาๆ หวังว่าการเลือกข้างฝ่าบาทจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

“หากหลันเอ๋อร์ฉลาดได้เจ้าสักครึ่งหนึ่ง ก็คงไม่ต้องเสียความบริสุทธิ์”

อี๋เหนียงห้าซบใบหน้าเข้าหาอ้อมกอดของอัครเสนาบดีกู้ เอ่ยเสียงอ่อนหวาน “หลันเอ๋อร์ยังเด็ก คิดอะไรไม่รอบคอบ จึงถูกใส่ร้าย โชคดีที่รู้เรื่องนี้ไม่กี่คน หากปกปิดได้ดี เรื่องที่หลันเอ๋อร์เสียบริสุทธิ์ก็จะไม่มีผู้ใดรู้ ต่อจากนี้ไปข้าจะอบรมหลันเอ๋อร์ให้ดี ขอนายท่านโปรดอย่าได้หมดหวังในตัวนางเลย”

อัครเสนาบดีกู้กอดอี๋เหนียงห้าไว้แน่น ใจเต็มไปด้วยความกังวล

ไม่นานนัก จวนอัครเสนาบดีก็ได้รับราชโองการอีกหนึ่งฉบับ ใจความของราชโองการมีอยู่ว่า คุณหนูสามจะได้อภิเษกสมรสเป็นหานอ๋องเฟย จึงอนุญาตให้เข้าเรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงเพื่อร่ำเรียน หมายมั่นว่าวันหน้าจะเป็นหานอ๋องเฟยที่รู้หนังสือมารยาทงาม และให้กู้ชูหลันคุณหนูห้าเข้าเรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงด้วย

เมื่อได้รับราชโองการ จวนอัครเสนาบดีก็อลหม่านอีกครั้ง

ฮูหยินใหญ่หน้าเสีย ลูกสาวของนางกู้ชูหยุนได้เข้าศึกษาในสำนักบัณฑิตหลวงเป็นความภาคภูมิใจของนางมาตลอด แต่บัดนี้จวนอัครเสนาบดีกลับส่งคุณหนูไปอีกสองคน คุณค่าของลูกสาวนางจะไม่ลงหรือ

อี๋เหนียงห้าและกู้ชูหลันดีใจสุดขีด อี๋เหนียงห้ายิ่งมั่นใจว่าการเลือกข้างฝ่าบาทนั้นถูกต้อง

ณ เรือนอี๋เหนียงสาม คุณหนูเจ็ดกู้ชูฉิงโยนข้าวของจนแตกกระจาย ปากสบถด่าไม่หยุด

“กู้ชูอวิ๋นความสามารถโดดเด่น จึงได้รับอนุญาตให้เข้าศึกษาในสำนักบัณฑิตหลวง นั่นก็เรื่องหนึ่ง หากฝ่าบาทหมายจะดูหมิ่นหานอ๋อง จึงส่งนางสารเลวกู้ชูหน่วนนั่นเข้าสำนักบัณฑิตหลวงให้อับอายขายขี้หน้า ข้ายังพอยอมรับได้ แต่กู้ชูหลันมีสิทธิ์อะไรเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวง? นางเป็นแค่ลูกสาวอนุ แถมยังเป็นลูกสาวอนุที่เสียบริสุทธิ์แล้วอีกต่างหาก”

“จวนอัครเสนาบดีมีคุณหนูสี่คน ตอนนี้คนที่สอง คนที่สาม คนที่ห้าก็เข้าเรียนแล้ว เหลือข้าเพียงคนเดียวที่ไม่ได้เข้า ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? อี๋เหนียง ข้าไม่ยอม”

ความชั่วร้ายเผยในแววตาของอี๋เหนียงสาม

ไม่เพียงแต่ที่กู้ชูอวิ๋นที่ไม่ยอม นางก็ไม่ยอมเช่นกัน

เพราะอี๋เหนียงห้ารูปโฉมคล้ายกับคู่หมั้นคู่หมายที่จากไปของนายท่าน จึงเป็นที่คนโปรดของนายท่าน ข่มเหงพวกนางมานานหลายปี

บัดนี้ กู้ชูหลันเสียความบริสุทธิ์แล้ว แต่ยังก็เหยียบย่ำพวกนางเหมือนเดิม

จะไม่มากเกินไปหน่อยหรือ นางจะคอยดู ว่าพวกนางจะจองหองไปได้ถึงเมื่อไร

อี๋เหนียงสามสบถ “ยิ่งไต่สูง ตกลงมายิ่งเจ็บหนัก รีบร้อนไปทำไม”

ในห้องเตาผิง

ชิวเอ๋อร์รีบดึงกู้ชูหน่วนให้ลุกจากเตียง

“คุณหนู ลุกขึ้นมาเถอะเจ้าคะ เช้านี้มีราชโองการมาแล้ว ทรงพระโปรดเกล้าให้คุณหนูเข้าเรียรที่สำนักบัณฑิตหลวง เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่นะเจ้าคะ มีคนไม่รู้เท่าไหร่อยากเข้าแต่เข้าไม่ได้”

กู้ชูหน่วนกลอกตา นอนหลับต่อ

เพิ่งจะหลุดพ้นจากมัธยมปลายสามปี มหาวิทยาลัยอีกสี่ปี จะให้เธอเรียนอีกหรือ ฟ้าช่วยผ่าเธอให้ตายที

ยิ่งไปกว่านั้น นี่มันเรียกว่าพระมหากรุณาธิคุณหรือ เรียกว่าดูหมิ่นเสียมากกว่า

“คุณหนู เหตุใดจึงนอนลงอีกล่ะเจ้าคะ จะสายอยู่แล้ว ไปเรียนสายตั้งแต่วันแรก อาจารย์จะไม่ประทับใจเอา ที่สำคัญคือ เจ๋ออ๋องก็เรียนยู่ที่สำนักบัณฑิตหลวงด้วย หากพวกท่านสองคนได้อยู่ใกล้ชิดกัน เจ๋ออ๋องอาจเปลี่ยนใจ ขอร้องฝ่าบาทยกเลิกการถอนหมั้นก็ได้”

กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูด

กู้ชูหน่วนหน้าเคร่งขรึม รังสีน่าเกรงขามแผ่ซ่านออกมา จ้องมองชิวเอ๋อร์ ราวกับมองนางออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

ชิวเอ๋อร์หวาดกลัว ต่อหน้ากู้ชูหน่วน นางไม่กล้าโกหกแม้แต่คำเดียว

จึงทำได้เพียงสารภาพออกไป “ตอนไปซื้อชุดกลับมา เจอสาวใช้คนสนิทของอี๋เหนียงห้า นางบังคับให้ข้าส่งชุดให้นาง ข้าไม่ยอม จึง…จึงโดนลงโทษเล็กน้อยเจ้าค่ะ”

“ปึง…”

กู้ชูหน่วนโยนหมั่นโถวในมือทิ้ง เลือดขึ้นหน้า ก่อนจะหยิบไม้กลองวิ่งไปที่ลานบ้าน ตีกลองเสียงดังปึง ปึง ปึง

ชิวเอ๋อร์ตกใจ ร้อนรนจนแทบร้องไห้ “คุณหนู ไม่ชอบเนื้อผ้าของชุดที่ข้าทาสซื้อมาหรือเจ้าคะ หากท่านไม่พอใจ ข้าจะไปซื้อชุดที่ดีกว่ามาให้”

“คุณหนู อย่าตีอีกเลยเจ้าคะ ขึนตีต่อไป คนในจวนจะแตกตื่นเอานะเจ้าคะ”

“ตึง ตึง ตึง…”

กู้ชูหน่วนตีกลองเสียงดังสะท้าน ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

คนในจวนต่างตื่นตกใจ

อี๋เหนียงห้าตะโกนด่า “กู้ชูหน่วน เจ้าบ้าไปแล้วหรือไร ตีกลองอะไรแต่เช้า เจ้าไม่นอน แต่จะไม่ให้คนอื่นนอนเลยหรือ”

กู้ชูหน่วนทิ้งไม้กลองในมือ ง้างมือขึ้น ตบอี๋เหนียงห้าสองฉาด ทว่าเหมือนยังไม่สะใจ นางจึงง้างมือตบอีกสองฉาด

ฝ่ามือนั้นรุนแรง ใบหน้าของอี๋เหนียงห้าบวมแดงในทันใด รอยฝ่ามือสิบนิ้วเด่นชัด

เฮือก...

คนที่ง่วงนอนเมื่อครู่พลันตื่นเต็มตา เพราะฝ่ามือนั้น ความง่วงงุนก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม