ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า นิยาย บท 50

เกิดเรื่องใหญ่ดังเป็นพลุแตก ในเมืองลี่เฉิง

เย่ชิงหลีเองคิดไม่ถึงว่าฉีลั่วจะระเบิดอารมณ์ได้รุนแรงถึงเพียงนี้ ทางเธอกำลังติดต่อจิ้งยู่เพื่อให้จัดการเรื่องนี้อยู่!

โดยใช้เวลาภายในสามวันเพื่อเข้าไปจัดการ การทำเช่นนี้ถึงจะไม่ทำให้การแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองซีโจวล่าช้าออกไป

ใครเล่าจะรู้ว่าจิ้งยู่กลับสร้างกระแสบ้าคลั่งบนอินเทอร์เน็ต จนพุ่งเป้าไปยังฉางซินเอ๋อร์อย่างตรงจุด

“ฉันก็แค่ขัดหูขัดตากับชายชั่วหญิงโฉดคู่นั้น ที่แย่งของของแกไปแล้วยังมาข่มเหงแกอีก” ประกอบกับครั้งนี้ยังอยากจะเอาความผิดมาสวมให้เธอ

ถึงแม้ปากจะพูดว่าไม่สนใจเรื่องการเลื่อนตำแหน่งก็ตาม!

แต่ความสัมพันธ์ในเรื่องเลื่อนตำแหน่งนั้นคือเงินเดือนเพิ่ม!

หนทางล้วนสามารถขัดขวางไว้ได้ แต่หนทางในการขึ้นเงินเดือนนั้นถ้าโดนคนมีเจตนาลอบกัด จิ้งยู่ไม่ยอมที่จะจบกับเธอง่ายๆ

คนทั่วทั้งบริษัทรู้ว่าเธอเงินขาดมือ ปรากฏว่าฉางซินเอ๋อร์นี้ดันหาเรื่อง

รายงานฉบับนี้ถือว่าเป็นการสั่งสอนฉางซินเอ๋อร์ก็เท่านั้นเอง

แต่การสั่งสอนครั้งนี้มันใหญ่ไปหน่อย!

ฉางซินเอ๋อร์ ไม่ง่ายเลยที่จะกอบกู้ภาพลักษณ์กลับมาได้เล็กน้อย ผลพวงคือจากวิธีการเขียนข่าวของจิ้งยู่จนดังระเบิด ดังจนมอดไหม้ไม่เหลือเศษซาก

“ใช่ๆ ฉันก็ขัดหูขัดตาเหมือนกัน พอแล้วนะพอแล้ว แกก็สงบสติลงหล่อย เตรียมสัมภาระให้ดีเถอะ”

“OK คุณชิงหลีของฉัน” จิ้งยู่พูดหยอกล้อ

“แกนี่ซนไม่เลิก!”

แม้ว่าเย่ชิงหลีได้บอกให้เธอไปเตรียมของเพื่อเดินทางไปเมืองซีโจวพร้อมกับเธอ แต่จิ้งยู่ก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้สักที

ซึ่งจิ้งยู่มีความเกลียดเมียน้อยเข้ากระดูกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนฉางซินเอ๋อร์ยังโอ้อวดอย่างเหนือชั้นเช่นนี้ การเปิดเผยอย่างยิ่งใหญ่แบบนี้ ยิ่งสัมผัสถึงความทรพีของฉางซินเอ๋อร์

แต่ระดับการที่มีเผยจิ้นโม่คอยอุ้มชูอยู่ สุดท้ายก็สามารถปรับระบบพื้นที่ของพวกเขาได้

หลังจากวางสายของจิ้งยู่ไม่นานนัก

ลี่เลี่ยก็โทรศัพท์เข้ามาทันที “ชิงหลี คืนนี้ช่วยไปงานเลี้ยงการกุศลแทนพี่ทีสิ จำไว้นะต้องประมูลภาพของหนูน้อยที่ชื่อหยวนถองมาให้ได้ ไม่ว่าราคาจะสูงขนาดไหนก็ต้องเอามาให้ได้”

“ค่ะ ฉันรู้แล้ว”

สิ่งที่เรียกว่างานการกุศล!

ภายในงานจะมีสิ่งของที่ต้องนำออกมาประมูล ส่วนเรื่องเงินที่นำมาประมูลนั้นสุดท้ายก็จะเป็นเงินการกุศลทั้งหมด

คนอย่างลี่เลี่ยมองผิวเผินไปคนเย็นชา!

การใช้ชีวิตในแต่ละวันก็ดูไม่เป็นโล้เป็นพายอยู่บ้าง แต่ว่า ตราบใดเมื่อเขารู้ว่าเป็นการกุศล ย่อมมีร่องรอยของเขาหลงเหลือไว้

แต่สิ่งเหล่านี้ ไม่เคยระบุชื่อมาก่อนเลย ส่วนเรื่องทำไมเขาถึงได้จับตามองขนาดนี้ เย่ชิงหลีเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ

“เรื่องทางเมืองซีโจว ทางพี่กำลังจัดการ เธอไม่ต้องกังวลไป จัดการผลงานของเธอให้ดีๆ ก็แล้วกัน!”

“จริงๆ แล้วพี่ไม่ต้องลงแรงแล้วแหละ ตอนนี้มีคนช่วยจัดการแล้ว”

“ใคร?”

“เผยจิ้นโม่!”

ลี่เลี่ย “เขาใจดีขนาดนั้นเชียว?”

สำหรับผู้ชายคนนี้เผยจิ้นโม่ ลี่เลี่ยไม่รู้สึกว่าเขาเป็นคนดีมาตลอด แถมยังโหดร้ายกับเย่ชิงหลีมากขึ้นเรื่อยๆ

เย่ชิงหลีแสยะยิ้ม “เขาก็ต้องไม่ได้ใจดีขนาดนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้าฉันไม่ไปแล้วล่ะก็ เขากับฉางซินเอ๋อร์ก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ชายชั่วผู้หญิงโฉดจริงๆ นะสิ”

ลี่เลี่ย “…”

เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในเมืองลี่เฉิงในเวลานี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นจนตกอยู่ในสถานการณ์ไหนแล้ว แต่ถึงแม้เย่ชิงหลีจะพูดแบบนี้ก็ตาม เขาก็ยังไม่วางใจอยู่ดี

ลี่เลี่ยวางสายโทรศัพท์

เย่ชิงหลีจึงวางมือจากงานสักพัก และเดินไปเลือกชุดราตรีที่ต้องเตรียมไปออกงานคืนนี้ในห้องแต่งตัว!

เมื่อมองเห็นเสื้อผ้าอันคุ้นเคยเหล่านี้แล้ว เบ้าตาเย่ชิงหลีพลันแสบร้อนขึ้นมาในบัดดล เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ ...ล้วนเป็นสิ่งที่คุณยายกับคุณแม่ตัดเย็บไว้ให้เธอ

เวลานั้นไม่สามารถนำออกมาใช้งานได้ ด้วยเหตุนั้นจึงไม่เคยใส่มาก่อน

รูปร่างของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลง สามารถใส่ได้ตามปกติ ก็แค่ไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือไม่เท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตาม ตอนที่สวมใส่ชุดราตรีสีชมพูอ่อนอยู่บนร่างกายแล้ว จำต้องพูดได้เลยว่าสายตาของคุณยายและคุณแม่กว้างไกลมาก

สง่างาม ไม่หลุดยุคสมัย

“ครืด ครืด ครืด” โทรศัพท์สั่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า