ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า นิยาย บท 49

ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อน!

เวลานี้บอสของจิ้งยู่ยังไม่รู้ว่าจิ้งยู่รู้จักกับจอสแลน เย่ ที่ให้งานเธอเป็นคนรายงานสดจากงานเหมือนกับเผือกร้อนที่อยู่ในมือไม่มีใครกล้ารับงาน

จิ้งยู่ใส่ใจกับงานของเธอมาก ในเมื่อรู้จักเย่ชิงหลี เรื่องของรายละเอียดแล้ว ย่อมใส่ใจเรื่องของเย่ชิงหลีมากกว่าอยู่เล็กน้อย

ซึ่งได้สนทนาเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ ระหว่างรายงานนั้น เมื่อทั้งสองคนได้มีพูดคุยหารือต่อกันก็สามารถทำได้ออกมาดี...!

“เฮ้ นี่ใช่บก.เจิ้งของ Ring Boundary ไหมคะ?” ซึ่งเป็นเสียงไม่เป็นมิตร ขัดจังหวะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

ตอนที่เย่ชิงหลีกับจิ้งยู่ได้ยินเสียงนี้ สีหน้าบึ้งตึงทันที

ฉางซินเอ๋อร์หิ้วถุงแบรนด์เนมจำนวนไม่น้อยอยู่ในมือก้าวเข้ามา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเพิ่งจะไปเดินซื้อของ แถมนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะเดียวกันทันที โดยไม่รอให้ทั้งสองคนเชื้อเชิญ

จิ้งยู่ “ทางนั้นมีโต๊ะว่าง!”

ความหมายในคำพูดก็คือไม่อยากให้ฉางซินเอ๋อร์มานั่งโต๊ะเดียวกัน

เย่ชิงหลียกแก้วกาแฟที่อยู่ด้านหน้าขึ้นมาจิบอึกหนึ่ง ระหว่างที่ยกมือขึ้น เป็นความสง่างามที่มาจากนิสัยของตนเอง

ลักษณะเช่นนี้ของเย่ชิงหลีในสายตาของฉางซินเอ๋อร์ แววตาที่อยู่ใต้แว่นกันแดดสีดำ กองเพลิงความอิจฉาริษยาก็ยิ่งมอดไหม้มากขึ้น!

หลังจากถอดแว่นกันแดดออก พลางมองจิ้งยู่อย่างดูแคลน

“หลายปีที่ผ่านมาไอ้ตำแหน่งบก.แกคงลงทุนลงแรงไปไม่น้อยสินะ? การแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองซีโจวมันมีตำแหน่งของแกเข้ามาเดิมพันด้วยมั้ย?”

“แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับแกมิทราบ?” จิ้งยู่สวนกลับอย่างไม่สบอารมณ์

ฉางซินเอ๋อร์แสยะยิ้ม “อย่ามาโทษว่าฉันไม่ได้เตือนแกไว้ก่อน ตอนนี้สิทธิ์ในการเข้าร่วมแข่งขันก็ไม่มี แกติดสอยห้อยตามหล่อนก็ไม่มีประโยชน์ หล่อนช่วยแกไม่ได้หรอก”

จิ้งยู่ “…”

เมื่อได้ยิน สีหน้าเปลี่ยนไปถนัดตา!

แววตาที่เหล่มองเย่ชิงหลี มีแต่ความวิตกกังวลอย่างเต็มเปี่ยม

นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? เมื่อครู่เย่ชิงหลีก็ไม่ได้พูดว่าอะไรเลย

เย่ชิงหลี “คุณฉางทำเรื่องเลวๆ ไว้ยังกล้าเอามาโพนทะนาออกมาอีก แต่แกก็ไม่น่าเชื่อมั่นใจตัวเองเกินไปหน่อยนะ?”

“ดูเหมือนว่าเธอยังไม่ได้บอกจิ้งยู่นี่ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกิน ถ้าตอนนี้เธอยอมไปกับฉัน ฉันสามารถไตร่ตรองถึงตำแหน่งหัวหน้าแผนกนักข่าวยกให้แกได้เลยนะ”

เมื่อสิ้นเสียง!

จิ้งยู่ยกถ้วยกาแฟที่อยู่ด้านหน้าพร้อมทั้งสาดใส่ตัวฉางซินเอ๋อร์ทันที

บรรยากาศ เย็นเฉียบลงในพริบตา

เย่ชิงหลีเห็นเหตุการณ์ ร่างกายแข็งทื่อทันที! ซึ่งเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนคิดถึงว่าจิ้งยู่จะมีอารมณ์ร้ายแรงถึงเพียงนี้...!

“แก จิ้งยู่!” ฉางซินเอ๋อร์เองก็คิดไม่ถึงว่าจิ้งยู่จะใช้วิธีการแบบนี้ พลันลุกพรวดด้วยความโกรธเคือง และยกแก้วกาแฟทางด้านหน้าสาดกลับไป

อย่างไรก็ตามจิ้งยู่หลบหลีกทัน กาแฟสาดลงพื้นแทน

ความรู้สึกโกรธเคืองที่อัดแน่นอยู่ในใจฉางซินเอ๋อร์กระเพื่อมอยู่ตลอดเวลา!

เมื่อได้ยินจิ้งยู่ปรบมือตัวเอง พลันพูดดูถูกสวนกลับไป “ฉางซินเอ๋อร์หล่อนช่วยหยุดทำให้ฉันคลื่นไส้สักที หล่อนที่เป็นเมียน้อยไร้ตัวตนอยู่แบบนี้ ถึงแม้จะอีกสิบปีฉันยังไม่เลื่อนตำแหน่ง ก็ไม่สามารถคอยตามรายงานข่าวให้แกได้หรอก นี่ก็ช่างคิดว่าตัวเองเป็นคนดังจริงๆ”

เมื่อพูดจบ จึงดึงเย่ชิงหลีที่งงเป็นไก่ตาแตกลุกขึ้น “ชิงเย่ เราไปกันเถอะ”

เย่ชิงหลีที่อยู่ในสภาพงุนงง ก็ปล่อยให้จิ้งยู่ดึงตนเองออกมา

จำต้องพูดเลยว่า นี่แหละเป็นนิสัยความใจร้อนของจิ้งยู่

หลังจากออกมาแล้ว

เย่ชิงหลี “เสี่ยวยู่ ที่เธอพูดมันเป็นความจริง ครั้งนี้จะไปร่วมงานได้หรือเปล่ามันติดอยู่ที่ปัญหาหนึ่ง!” ถึงแม้เธอจะความมั่นใจก็ตาม

เรื่องนี้ท้ายที่สุดเธอสามารถจัดการได้ดี แต่ในเวลานี้ก็ถือว่าคับขันมากทีเดียว

จิ้งยู่ “นางเป็นคนทำใช่ปะ?”

จิ้งยู่ปล่อยมือเย่ชิงหลี น้ำเสียงที่ถามมาถือว่าไม่สู้ดีนัก

เย่ชิงหลี “พอเถอะ!”

“ตอนยังเรียนไม่จบก็ชอบขโมยผลงานของแก ตอนนั้นแกยังไม่ได้ใส่ใจนัก ดูสิ ที่ฉันพูดถูกมั้ยล่ะ ตอนนี้การขโมยมันกลายเป็นความเคยชินของนางไปแล้ว”

“อืม เรื่องนี้ฉันจะจัดการให้ดี แต่ทางแกก็ต้องเตรียมการไว้เนิ่นๆ ด้วย”

“ไม่เห็นมีอะไรที่ต้องเตรียมการ ฉันจะพูดกับทาง boss ทางนั้นให้เอง ฉันแค่จะพูดกับแกว่า ถ้าแกไม่ไปเข้าร่วมฉันก็จะไม่ไปเมืองซีโจว”

เย่ชิงหลีได้ยิน ตะลึงทันที!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า