ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า นิยาย บท 54

วันพรุ่งนี้ ก็จะไปที่เมืองซีโจวแล้ว

เย่ชิงหลีได้ทำตามสิ่งที่เธอบอกกับเผยจิ้นโม่เมื่อคืน ว่าจะมาถึงตรงหน้าประตูสำนักงานกิจการพลเรือนตั้งแต่แปดโมงเช้าจริงๆ ในช่วงเวลาเก้าโมงห้าสิบนาทีนั้น

เย่ชิงหลีอดไม่ได้ที่จะส่งข้อความไปหาเขา “ฉันได้รอนายจะถึงสองชั่วโมงแล้ว อย่าลืมเวลานะคะ!”

เมื่อวาน เป็นเขาที่พูดเองว่า จะหย่าช่วงเวลาสิบโมง!

อีกด้านของโทรศัพท์

เผยจิ้นโม่ในตอนนี้ยังอยู่ที่ห้องทำงาน เมื่อตอนที่เห็นข้อความของเย่ชิงหลีนั้น ผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ตรงนั้น ต่างรู้สึกถึงบรรยากาศที่กดดันเล็กน้อย

ต่างคนต่างมองหน้ากัน และได้กลั้นหายใจกันหมด

“วันนี้พอแค่นี้ก่อน”ผู้ชายได้เอ่ยปากพูดด้วยความเย็นเยือกเพียงคำเดียว ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นราวกับได้รับการอภัยโทษเช่นนั้น รีบหนีกันหมดเลย

เพราะฉะนั้นแล้ว บางครั้งในความสัมพันธ์ของผู้ชาย ไม่ควรจะโลภมาก แม้ว่าจะแอบกินกันก็ไม่ควรโจ่งแจ้งมากนัก!

พอไม่สามารถเจรจากับทั้งสองฝ่ายได้ ก็จะปวดหัวเปล่าๆ

ในตอนที่จี๋ลู่เข้ามานั้น

ก็เห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของเผยจิ้นโม่ทันที ราวกับว่าได้เป็นหนี้เขาหนึ่งพันล้านเช่นนั้น

“จี๋ลู่”

“ครับ”

“นายว่าผู้หญิงต้องการทำอะไรกันแน่ถึงได้คิดร้ายกับอีกฝ่ายขนาดนี้?”คาดไม่ถึงเลยว่าขณะที่เย่ชิงหลีทำท่าทีจะหย่านั้น

พร้อมกับไม่ยอมปล่อยบ้านเก่าทางนั้นเลย จนทำให้ตอนนี้คำวิพากษ์วิจารณ์เต็มไปหมด

เขาไม่เคยพบเจอกับผู้หญิงที่มีความคิดร้ายลึกแบบนี้มาก่อน

ทำธุรกิจมานานหลายปี เขาพึ่งเคยพบเจอผู้หญิงที่คิดร้ายเช่นนี้เป็นครั้งแรก และวิธีนี้ แม้แต่เขาเองก็นับถืออย่างมาก

“คุณหมายถึงคุณนายรองหรือครับ?”ทั้งแผ่นหลังของจี๋ลู่เหงื่อเย็นเต็มไปหมด

เผยจิ้นโม่ขมวดคิ้ว ส่งสัญญาณให้เขาพูดต่อไป

จี๋ลู่ได้คิดอยู่ครู่หนึ่ง และได้พูดว่า “ถ้าพูดอย่างสมเหตุสมผล หากต้องการหย่ากันจริงๆละก็ ไม่ควรจะเข้าไปพัวพันกับพ่อแม่ของฝ่ายชายถึงจะถูกนะครับ... ดังนั้นการกระทำเช่นนี้ของคุณนายน้อยนั้น สามารถอธิบายได้เพียงอย่างเดียว ก็คือไม่ยอมหย่าครับ!”

“ไม่ยอมหรือ?”

“ใช่แล้วครับ”

“ถ้างั้นเธอทำเรื่องรุนแรงขนาดนั้น ยังไม่รู้จักผิดชั่วอีก ไม่กลัวเลยจริงๆหรือว่าฉันจะตอบตกลงน่ะ!?”

ไม่ยอมหรือ?

เผยจิ้นโม่ก็รู้สึกเช่นกัน ความสัมพันธ์ของเธอกับทางบ้านเก่านั้นแน่นแฟ้นมาก นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการหย่าควรจะทำนี่

“เธอไม่กลัวยังไงล่ะครับ!”ณ ตอนนี้ จี๋ลู่แทบจะบ้าตายแล้วจริงๆ

ทำไมต้องให้เขาซึ่งยังไม่ได้แต่งงานและไม่มีแฟนมาวิเคราะห์สิ่งเหล่านี้ด้วย?

จุดยืนไม่เหมือนกัน มุมมองก็ต่างกันเช่นเดียวกัน โอเคไหม?

“ไม่กลัวหรือ?”

“คุณคิดดูนะครับ ทางบ้านเก่าไม่มีคนที่ชอบณหนูซินเอ๋อร์เลยสักคนเดียว เมื่อก่อนดูคุณหญิงไม่ชอบคุณนายน้อย แต่ก็เข้าข้างคุณนายน้อยอย่างแน่นอนครับ”

สิ่งนี้ เผยจิ้นโม่ก็พอดูออกอยู่เหมือนกัน

ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นในตระกูลเผยเลย แค่เผยเย่วและเย่ชิงหลีก็มีความสัมพันธ์ดีอย่างกับใส่กางเกงตัวเดียวกันแล้ว

คุณหญิงเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ค่อยชอบเย่ชิงหลี แต่ถึงแม้ว่าจะมีท่าทีที่เย็นชานั้นก็ทำให้ผู้คนดูออกว่าเข้าข้างเย่ชิงหลีเป็นพิเศษ

ต้องบอกว่า ณ ตอนนี้แม้แต่เผยจิ้นโม่เองก็เริ่มสงสัยว่าตัวเองเป็นลูกแท้ๆของเธอหรือเปล่า!

นี่ไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณหณิงซูฝากฝังให้ดูแลเย่ชิงหลีแล้วไหม? นี่เป็นการปฏิบัติต่อเธอในฐานะคนในตระกูลเผยอย่างสมบูรณ์

“ดังนั้น เธอจึงกล้าทำตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวใครเช่นนี้หรือ?”

“อันนี้ ก็ไม่แน่ใจนะครับ...! แต่ตามนิสัยของคุณนายรองนั้น ดูเหมือนว่าไม่ใช่คนที่จะงี่เง่านะครับ โดยเฉพาะคุณเมื่อสามปีก่อน...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ได้หยุดพูดทันที

เมื่อสามปีก่อน ในสายตาของผู้อื่น เป็นเผยจิ้นโม่เองที่ทำเกินไป!

แทบจะทำให้จี๋ลู่สับสนไปหมดแล้ว

เพราะไม่ว่ายังไงแล้วนิสัยของเย่ชิงหลีนั้นเป็นยังไง พวกเขาต่างก็รู้กันทั้งนั้น แต่ว่าสิ่งที่เธอทำในช่วงนี้

ถ้าไม่ใช่กำลังงี่เง่าอยู่แล้วมันคืออะไรล่ะ?

ดวงตาของเผยจิ้นโม่เย็นชา!

จี๋ลู่รู้สึกถึงบรรยากาศที่กดดัน รีบพูดอย่างกระวนกระวายว่า “ไม่งั้น คุณลองไปง้อดูไหมครับ ลองดูแล้วก็จะรู้ว่าเกิดจากอะไรครับ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า