ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า นิยาย บท 55

เย่ชิงหลีโกรธไม่เบา!

เวลาของเธอในตอนนี้นั้นเหลือน้อยแค่ไหนมีแต่เธอที่รู้ เดิมทีคิดไว้ว่าสามารถจัดการกับเรื่องนี้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนไปเมืองซีโจว

แต่กลับคาดไม่ถึงว่าเรื่องที่เผยจิ้นโม่ได้ตอบตกลงไว้นั้น ยังสามารถเปลี่ยนได้อีก

เสียเวลาทั้งช่วงเช้าของเธอเลย!

ป้าเจิ้งเห็นเธออารมณ์ดีเมื่อตอนที่ออกไปช่วงเช้าอยู่เลย พอกลับมาตอนนี้กลับมีท่าทีที่โกรธเช่นนั้น

“คุณหนูน้อยเป็นอะไรหรือคะ?”

“ไม่เป็นอะไรค่ะ ก็แค่เจอคนบ้าเท่านั้นเอง!”ด่าเผยจิ้นโม่นั่นแหละ

ป้าเจิ้งมองดูเธอโกรธขนาดนี้ รู้สึกตะลึงเล็กน้อย...!

มันทำให้เห็นถึงความเป็นจริงว่า ผู้หญิงคนหนึ่งหากไม่พบเจอกับสามีที่ดี นิสัยของเธอก็จะเปลี่ยนไปจริงๆ เมื่อก่อนเย่ชิงหลีอ่อนโยนขนาดไหน?

ในใจของป้าเจิ้ง เธอเป็นผู้หญิงที่สง่างามเหมือนเจ้าหญิง แต่ตอนนี้ถูกเผยจิ้นโม่บีบบังคับจนกลายเป็นคนที่โกรธแบบไหนก็ทำแบบนั้นเลย

ในตอนเที่ยง

เผยจิ้นโม่ทำตามสิ่งที่พูดจริงๆ เขาได้มาแล้ว!

เย่ชิงหลีมองดูผู้ชายที่วางกล่องของขวัญอันงดงามไว้ตรงหน้าเธอ “นี่จะทำอะไร?”

“ให้เธอครับ”

เย่ชิงหลี “...”ช่างเป็นประวัติการณ์เลยจริงๆ!

เพราะว่าหลังจากที่พวกเธอได้แต่งงานกันก็ไม่เคยมีของขวัญให้กันเลย คนอื่นพอแต่งงานแล้วต่างมีของขวัญวันเกิด ของขวัญวันครบรอบ แม้กระทั่งวันวาเลนไทน์ก็จะทำพิธีต่างๆนานา

แต่ในตอนนั้นสิ่งที่เธอได้รับนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากความรับผิดชอบ ท้ายที่สุดแม้แต่ความรับผิดชอบอันน้อยนิดที่น่าสงสารนั่นก็ถูกเอาคืนไป

ตอนนี้คือ?“ของขวัญหย่าหรือ?”

เธอไม่ต้องการของขวัญอะไรเลย การหย่าอย่างรวดเร็วดีกว่าของขวัญอะไรทั้งนั้น

ตอนเช้าไม่ปรากฏตรงตามเวลา ตอนนี้ถือของขวัญมาทำเป็นพิธี คิดว่าคนอื่นจะสนหรือ!?

ทันทีที่พูดจบ!

สีหน้าของผู้ชายก็เคร่งขรึมเล็กน้อย

“ชิงหลี อย่างี่เง่าแล้วได้มั้ย”แม้ว่าสีหน้าจะเคร่งขรึม แต่น้ำเสียงยังคงพยายามระงับความโกรธเอาไว้อยู่

เย่ชิงหลีเลิกคิ้ว!

สำหรับท่าทีเช่นนี้ของเผยจิ้นโม่นั้น เห็นได้ชัดว่าเธอดูไม่ออกเล็กน้อย และยิ่งไม่เข้าใจไปอีก นี่หมายความว่าอะไร?

“นายคิดว่าฉันกำลังงี่เง่ากับนายอยู่หรือคะ?”วุ่นวายไปตั้งนาน ยังคิดว่ากำลังงี่เง่าอยู่อีกหรือ?

เผยจิ้นโม่มองไปทางเธอ ด้วยสายตาที่เย็นชาและจริงจัง “ทุกเรื่องควรรู้จักพอเหมาะนะครับ เธอเปลี่ยนไปเยอะจริงๆในสามปีที่ผ่านมา แต่มันไม่ได้หมายความว่าสามารถใช้วิธีนี้ในตัวผู้ชายคนอื่นได้ ก็สามารถมาใช้ในตัวฉันได้นะครับ!”

เย่ชิงหลี “...”

ครืนๆ!

รู้สึกเหมือนกับว่าโลกของตัวเองแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว

ผู้ชายคนนี้ สรุปแล้วกำลังพูดอะไรกันแน่!?

“ฉันใช้วิธีอะไร จำเป็นต้องให้นายมายุ่งด้วยหรือ?”

“ฉันไม่ยุ่งครับ แต่ในภายหลังไม่ต้องใช้วิธีเหล่านี้อีกนะครับ ฉันไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้นเพื่อมางี่เง่ากับเธอ!”

ผู้ชายมีสีหน้าที่เคร่งขรึม ได้หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกินข้าว

แม้จะพูดว่ามากินข้าวเที่ยงกับเธอ แต่ด้วยท่าทีเช่นนี้หรือ?และอีกอย่าง เขา...ใช้น้ำเสียงที่เย็นเยือกนี้พูดคำพูดที่ทะนุถนอม หมายความว่ายังไงกันแน่?

เย่ชิงหลีสับสนไปหมดแล้ว

มองดูผู้ชายที่กำลังกินอย่างสง่านั้น ไม่สามารถโต้ตอบได้เป็นเวลานาน

เมื่อเผยจิ้นโม่เห็นเย่ชิงหลีไม่แตะตะเกียบเลย คิ้วนั่น...ได้ขมวดเข้าด้วยกัน สุดท้ายได้คีบเนื้อวัวชิ้นหนึ่งใส่ลงในชามเล็กของเธอ

ในขณะนั้น เย่ชิงหลีก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที มองดูชามเล็กนั่นราวกับว่ากำลังดูอาหารบนโต๊ะที่จิ่นซานเช่นนั้น

หนังศีรษะแข็งและชาไปหมด!

“ปัง...”เสียงดังออกมา ชามเล็กได้ตกพื้นทันที

เมื่อป้าเจิ้งและพ่อบ้านเห็นเช่นนี้ ก็ต่างตกตะลึงกันหมด!

เพราะว่าพวกเขาไม่เคยเห็นเย่ชิงหลีอารมณ์เสียแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง

เผยจิ้นโม่ที่ได้ยินเสียงที่เสียดหูนี้ แล้วมองดูชามที่พังทลายและยุ่งเหยิงบนพื้น ใบหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง

สายตาที่มองไปทางเย่ชิงหลีนั้น ก็จริงจังขึ้น และเย็นเยือกขึ้น!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า