"อืม! จงตั้งใจฝึก"
เมื่อร่ำลากันเสร็จท่านพี่ก็ขึ้นรถม้าเเละออกเดินทาง
"ท่านเเม่ไม่ต้องเศร้าเจ้าคะเดียวท่านพี่ก็กลับมา"
"เเม่ไม่ได้เศร้าเเม่เเค่ดีใจที่พี่ของพวกเจ้าได้ทำตามความต้องการของตน"
"เราเข้าไปในโรงเตี้ยมเถอะ"
"เจ้าคะท่านพ่อ"
พวกนางก็เข้ามาในโรงเตี้ยม และพูดคุยแผนการต่างๆ ที่จะทำในอนาคต
นี้ก็ผ่านมา1อาทิตย์เเล้วโรงเตี้ยมก็เข้าที่เข้าทางมีลูกค้าประจำมากขึ้นมีคนเข้ามาพักเรื่อยๆไม่มีคนมาก่อความวุ่นวายเพราะถ้ามีคนคนนั้นคงกล้ามากเพราะทุกคนรู้ว่าเจ้าสำนักอยู่ที่นี้ถ้ามีเรื่องคงจะไม่มีชีวิตรอดกลับไป
"หลิ่งเอ้อเจ้าเตรียมของเรียบร้อบเเล้วรึ"
"เหลืออีกนิดหน่อยก็เสร็จเจ้าคะ"อีก1วันนางจะเดินทางไปฝึกวิชาเเล้วนางก็รู้สึกใจหายเหมือนกันที่ต้องไปจากครอบครัว แต่เมื่อนางตั้งใจจะทำสิ่งนี้เเต่เเรกก็จะทำให้สุดจะไม่ล้มเลิกเด็ดขาด
"มีอะไรให้เเม่ช่วยหรือไม""
"ไม่มีเจ้าคะ แล้ววันนี้ท่านเเม่ไม่ไปที่โรงเตี้ยมรึเจ้าค่ะ"
"แม่ไปช่วงเช้าเเล้วเห็นว่าไม่มีงานอะไรถึงกลับบ้าน"
"ดีแล้วเจ้าคะท่านแม่อย่าหักโหมจนเกินไป แล้วท่านพ่อละเจ้าค่ะ"
"พ่อเจ้าเอาผักไปส่งนะ"
"ท่านเเม่เมื่อวานข้าเอาที่ผูกผมไปแช่ไว้ที่บ่อน้ำของเราทั้ง2บ่น้ำในบ่นั้นมีปราณท่านสามารถเอามารดได้ตลอดผักที่ท่านรดน้ำก็ยังเป็นผักปราณ
"อืม! ขอบใจเจ้ามาก"
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ"
"งั้นแม่เข้าไปในห้องก่อนนะเจ้ามีอะไรก็ไปตามแม่ได้"
"เจ้าคะ! ข้ารักท่านเเม่นะเจ้าค่ะ"เลี่ยงหลินมองหน้าลูกด้วยความรักเพราะตั้งเเต่ลูกคนนี้เกิดมาชีวิตครอบครัวพวกนางก็เปลี่ยนไป
"อืม! แม่ก็รักเจ้า"นางเดินไปกอดท่านเเม่ท่านเเม่ก็กอดตอบนาง. นางกอดกันสักพักก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน ท่านเเม่เดินเข้าไปในห้องส่วนนางคิดว่าจะไปฝึกปราณสักหน่อย นางก็เดินไปที่ประจำที่ใช้ฝึกปราณนั้นก็คือใต้ต้นไม้หลังบ้าน
เมื่อเดินมาถึงก็นั่งขัดสมาธิและหลับตาลงกำหนดลมหายใจให้สม่ำเสมอทำสมาธิสักพักจิตของนางก็สงบนางก็ดูดปราณจากที่ผูกผมเข้าสู่ตันเถียนนางทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
"ปัง! "นางได้ยินเสียงดังขึ้นจากในหัวร่างกายก็รู้สึกโปรดโปร่งมากขึ้นและดูเหมือนจะเเข็งเเรงขึ้นมากด้วย
ตอนนี้นางดีใจมากสุดท้ายก็สามารถเลื่อนระดับพลังได้แล้วกว่าจะเลื่อนระดับครั้งนี้ได้นางใช้เวลาถึง1ปีเต็มท่านอาจารย์บอกนางว่าคนอื่นกว่าจะเลื่อนระดับก็ใช้เวลา4-5ปียิ่งระดับสูงยิ่งเลื่อนระดับช้าตอนเจอกันครั้งเเรกท่านยังไม่อยากจะเชื่อว่านางจะสามารถเลื่อนระดับพลังได้รวดเร็วขนาดนี้แต่นางคิดว่าระดับต่อไปของนางคงใช้เวลาหลายปีทีเดียว
"หลิ่งเอ้อ"นางนั่งคิดถึงช่วงเวลาการฝึกก็ได้ยินเสียงท่านอาจารย์เรียกนางก็หันไปมองท่านอาจารย์ทำทำหน้าตาตื่นตกใจ หรือจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น
"ท่านอาจารย์มีอะไรเจ้าค่ะ! "
"เจ้าเลื่อนระดับพลังได้เเล้วรึ! "
"เจ้าคะ"ท่านอาจารย์ทำหน้าตกใจอีกครั้ง
"จริงรึเจ้าไม่ได้หลอกข้าใช่หรือไม"ลี่กว่างถามออกไปด้วยความตื่นเต้นระคนตกใจ เพราะตนไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนเลื่อนระดับพลังได้เร็วขนาดนี้ตอนนาง6หนาวอยู่พลังระดับ4เขาก็ตกใจจะเเย่เเต่นี้ผ่านมาเเค่ปีเดียวนางสามารถเลื่อนระดับพลังได้อีกแล้ว
ทำเอาความภาคภูมิใจที่เข้ามีหายไปหมดเพราะเขาได้ชื้อว่าเป็นอัจฉริยะเพราะเขาเลื่อนระดับได้เร็วกว่าคนอื่นบางคนใช้เวลา5ปีเเต่เขาใช้เเค่3ปี แต่นางอายุเเค่7หนาวก็สามารถอยู่ระดับ4ได้เเล้ว กว่าเขาจะยู่ระดับ4ได้อายุก็ปาเข้าไปเกือบจะ30 แต่นี้นางเขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงนางเป็นลูกรักของเทพเจ้าหรืออย่างไรถึงฝึกฝนได้รวดเร็วเหนือคนอื่นๆ
"จริงเจ้าคะ"ลี่กว่างได้ฟังคำยืนยันก็ยังไม่อยากจะเชื่อ
เลี่ยงหลิ่งเห็นท่านอาจารย์ทำหน้าตาไม่เชื่อที่นางบอก
"ท่านอาจารย์ก็ใช้พลังท่านตรวจสอบดูสิเจ้าค่ะ"
ลี่กว่างเหมือนพึ่งจะนึกได้เขามัวเเต่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อรู้ตัวว่าตนทำขายหน้าต่อหน้าลูกศิษย์ก็ได้แต่ยิ้มเเล้วส่งพลังปราณไปสำรวจ ใช่! นางเลื่อนระดับเเล้วจริงๆ นางจะอัจฉริยะเกินไปแล้ว
"หลิ่งเอ้อศิษย์ข้าเจ้าชั่งเก่งกาจเหมือนท่านอาจารย์เสียจริง"เลี่ยงหลิ่งหันไปมองท่านอาจารย์เมื่อกี่ยังชมนางอยู่เลยมาตอนนี้กับชมตัวเองเสียเเล้ว
'เฮ้อ! "
"เจ้าจะได้ฝึกวิชาพรางเพิ่มระดับขึ้นซึ่งเเน่นอนความยากนั้นห่างจากระดับที่ข้าสอนไปแน่"
"เจ้าคะ! ศิษย์จะตั้งใจ"
ลี่กว่างพยักหน้าให้หลิ่งเอ้อเเต่เมื่อผ่านไปสักพักสีหน้าของหลิ่งเอ้อเหมือนจะเริ่มซีด
"หลิ่งเอ้อ! เจ้าเป็นอะไรรึไม"
"ข้าเเค่รู้สึกร้อนเจ้าคะ"
"เจ้าได้ปรับสมดุลร่างกายหลังจากเลื่อนระดับรึยัง"
เลี่ยงหลิ่งเหมือนพึ่งจะนึกได้เมื่อกี่นางดีใจจนลืม
"แม่ไม่ได้เป็นอะไรลูกแค่เเสบตานะ"
"ท่านเเม่ข้ารู้ท่านร้องไห้เพราะข้า ท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้านะเจ้าคะถ้าข้ามีเวลาข้าจะกลับมาหาท่านบ่อยๆ"
"หลิ่งเอ้อ! เจ้าต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ"
"เจ้าค่ะข้าจะดูเเลตัวเองดีๆ จะไม่ทำให้ท่านเเม่ต้องเป็นห่วงเเน่นอน"นางพูดเสร็จก็เข้าไปกอดท่านเเม่ทันที
"เอาละเเม่ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ก็สบายใจเเล้ว! เจ้าไปตามท่านพ่อกับท่านอาจารย์เข้ามากินข้าวเถอะ"
"เจ้าคะ"
นางก็เดินออกมาบริเวณหน้าบ้านก็ได้ยินที่ท่านอาจารย์และท่านพ่อพูด
"ท่านอาจารย์ข้าฝากหลิ่งเอ้อด้วยนะขอรับถ้านางทำสิ่งใดผิดขอให้ท่านยกโทษให้นางด้วยนางยังเด็กนัก"
"เจ้าเห็นข้าเป็นคนอย่างไรข้าก็เห็นนางเป็นลูกหลานคนหนึ่งตลอดเวลาที่ข้าได้อยู่ที่นี้ข้ารู้ว่านางเป็นเด็กดีเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"
"ขอรับ ข้าต้องฝากนางไว้กับท่านเเล้ว"
"ท่านพ่อท่านอาจารย์เจ้าค่ะท่านเเม่เรียกไปกินข้าวเจ้าคะ"นางเห็นท่านพ่อท่านอาจารย์คุยเสร็จเเล้วจึงเดินเข้าไปเรียก
"อืม! "
ตอนนี้พวกนางนั่งล้อมวงกินข้าวเเล้วลงมือทานข้าวทันที ระหว่างการกินข้าวพวกนางก็พูดคุยเรื่องราวต่างๆ อีกตามเคยครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่นางได้กินข้าวพร้อมท่านพ่อท่านเเม่คงอีกนานถึงจะได้กินพร้อมหน้าพร้อมตากัน เมื่อกินข้าวเสร็จตอนนี้พวกนางอยู่ที่หน้าบ้านมีท่านพ่อท่านเเม่เดินมาส่ง การเดินทางครั้งนี้จะใช้วิชาตัวเบาในการเดินทางถึงนางพึ่งจะฝึกได้ไม่นานเเต่ก็สามารถใช้ได้ถึงจะไปได้ไกลไม่มากเเต่ถ้าไปโดยรถม้าอาจจะมีคนสงสัยได้ท่านอาจารย์บอกว่าวิธีนี้ดีที่สุดยังใช้เวลาประมาณ1เดือนจึงจะถึงหุบเขา
"หลิ่งเอ้อเจ้าดูเเลตนเองดีๆ นะลูก"
"เจ้าคะท่านแม่"
"เชื่อฟังท่านอาจารย์นะหลิ่งเอ้อ"
"เจ้าคะท่านพ่อ"
"พ่อกับเเม่รักเจ้านะหลิ่งเอ้อ! "
"ข้าก็รักท่านพ่อท่านเเม่เจ้าคะ"หลังจากนางพูดจบพวกนางก็เข้ามากอดกันนางซึมซัยความอบอุ่นนี้ไว้ในใจเพราะอีกนานนางถึงจะได้กลับมากอดท่านพ่อท่านเเม่เเบบนี้
"ลาก่อนนะเจ้าคะ"
"เดินทางปลอดภัยนะลูก"ก่อนนางจะดีดตัวขึ้นนางเห็นท่านเเม่ร้องไห้ความคิดตอนนั่นคือนางไม่อยากไปแล้วแต่เมื่อคิดถึงอนาคตข้างหน้านางก็ดีดตัวให้เร็วขึ้นถ้าช้าอีกนิดนางคงได้เปลี่ยนใจไม่ไปเป็นเเน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตในสวนผัก