นี่เป็นปีใหม่เเรกที่ซูหว่านเละครอบครัวตระกูลซูได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างอบอุ่นมาก
ครอบครัวนั่งพักผ่อน เเสงไฟสว่างไสวเป็นมิตร ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โรคภัยไข้เจ็บเก่าๆควรจะหายไป
พ่อเเม่ที่ใจดี พี่ชายที่อ่อนโยนเเละตามใจ นี่คือฉากที่ซูหว่านเคยฝันถึง เเต่ตอนนี้มันได้เกิดขึ้นจริงทีละอย่าง
นางจะทะนุถนอมเเละปกป้องทุกสิ่งที่นางมีอยู่ในตอนนี้อย่างดี
ในตอนกลางคืน ท้องฟ้ามีหิมะตกหนัก ซึ่งเข้ากับบรรยากาศมาก ซูจิ่งจะออกเดินทางในวันที่สิบของเดือนเเรก โดยจะเดินทางเข้าเมืองหลวงพร้อมกับกองคาราวานพ่อค้าที่ไปส่งสินค้าที่เมืองหลวง
การเดินทางเข้าเมืองหลวงกับผู้อื่นย่อมปลอดภัยกว่าการเดินทางคนเดียวมาก โดยจะเดินทางทางบกช่วงหนึ่งก่อน จากนั้นเดินทางทางน้ำ
ซูหว่านให้เเม่ซูไปซื้อเสื้อสำเร็จรูปให้เขาอีกสองชุดเพื่อประหยัดเวลา เเละนำติดตัวไปที่เมืองหลวงเลย
สถานที่อย่างเมืองหลวงนี้เจริญรุ่งเรื่องเเละน่าหลงใหล เขาจำเป็นต้องเเต่งตัวให้ดูดีมีฐานะบ้าง จะได้ไม่ถูกคนดูหมิ่น
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็มักจะมีคนตัดสินคนจากภายนอกเสมอ
ในเรื่องเดิม พี่ชายใหญ่ถูกพวกคุณชายตระกูลขุนนางหัวเราะเยาะเย้ย เพราะเเต่งตัวซอมซ่อตอนไปสอบ ซูหว่านไม่ต้องการให้เรื่องที่น่าเศร้าใจเเบบนี้เกิดขึ้นอีกเมื่อนางมาอยู่ในโลกนี้เเล้ว
เเละในที่ที่นางไม่เห็น ชายชุดดำคนหนึ่งกระโดดลงมาจากกิ่งไม้ เก็บกระดาษพู่กันของเขา เเล้วปัดหิมะที่เกาะอยู่ตามตัวออก พร้อมกับพ่นลมหายใจอุ่นๆออกมา
“จบเรื่อง กลับไปรายงานตัว”
เมื่อเขากลับถึงที่พัก เขาก็นำสิ่งที่เขาเขียนในวันนี้ไปให้หัวหน้าของพวกเขาดู
มีเรื่องไร้สาระมากมายเขียนอยู่เต็มหลายหน้ากระดาษ
เฟิงอิ่งขมวดคิ้ว จากนั้นมองลูกน้องของตัวเองที่ยิ้มซื่อๆอย่างสงสัยพลางถามว่า
“เจ้าเขียนเองหรือ”
ลูกน้องพยักหน้า รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะได้รับคำชม
ผลก็คือ เฟิงอิ่งใช้พู่กันเคาะหัวเขาหลายครั้ง
“เจ้าจะดูไหม ว่าเจ้าเขียนอะไรลงไป”
“ก็ท่านไม่ใช่หรือ ที่บอกให้เขียนให้ละเอียดหน่อย จะได้นำไปให้นายน้อยได้?” ลูกน้อยพูดพลางเอามือกุมหัวด้วยความน้อยใจ
“ข้าให้เจ้าเขียนให้ละเอียด ไม่ได้ให้เจ้าเขียนกระทั่งว่า คุณชายสี่ตระกูลซูเข้าห้องน้ำวันละกี่รอบ” เฟิงอิ่งพูดอย่างผิดหวัง
ตัวอย่างเช่น : วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ไม่มีเรื่องสำคัญอะไรมาก ทุกอย่างเหมือนเดิม คุณหนูซูตื่นเเต่เช้าพร้อมกับบรรดาคุณชายตระกูลซู ช่วยกันติดป้ายอวยพรเเละเเขวนโคมไฟ ใบหน้ายิ้มเเย้มมีความสุข ไร้กังวล ไม่ต้องห่วง
“จำไว้นะ ถึงเเม้จะเป็นการคุ้มกันลับๆ เเต่ก็ห้ามรบกวนชีวิตของคนในตระกูลซูเด็ดขาด เเค่พอประมาณก็พอ” ตอนที่ลูกน้องออกไป เฟิงอิ่งยังกำชับเป็นพิเศษอีกประโยคหนึ่ง
ถึงแม้จะเป็นการคุ้มกันอย่างลับๆ เเต่ก็ไม่ควรทำตัวเหมือนพวกแอบมอง นายน้อยเพียงเเค่บอกให้พวกเขารายงานสถานการณ์ของตระกูลซูได้ตลอดเวลา เเต่ไม่ได้บอกให้บันทึกเรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ เเต่ชีวิตในบ้านตระกูลซูนั้นเรียบง่ายจริงๆ ไม่มีอะไรน่าบันทึกเลย นอกจากเรื่องของตระกูลจ้าวเมื่อสองสามวันก่อน ซึ่งก็เเก้ไขได้เรียบร้อยเเล้ว
คืนนั้น เเม่ซูให้เงินอั่งเปาเเก่ลูกๆ นี่เป็นครั้งเเรกที่พวกเขาได้เงินอั่งเปาในวันปีใหม่นับตั้งเเต่โตมา เเม้จะเป็นเงินเพียงสิบกว่าเหรียญ เเต่ก็ไม่เคยมีมาก่อนในตระกูลซู
แม้แต่ซูจิ่งซึ่งเป็นพี่คนโตสุดก็ไม่เคยได้รับ
“ได้อานิสงส์จากหวานหว่านเป็นครั้งเเรกที่ได้รับเงินอั่งเปา พี่ใหญ่ขอถือโอกาสนี้มอบเงินอั่งเปาให้หวานหว่าน ขอให้หวานหว่านของพี่มีความสุขทุกปีไป”
ซูจิ่งได้เงินอั่งเปามาก็หันไปให้ซูหว่านทันที เเถมยังเพิ่มเงินเข้าไปอีก ทำให้มันหนักอึ้ง
ซูจิ่งคัดลอกหนังสือ เก็บเงินเศษได้สองสามตำลึง ก็ให้นางไปทั้งหมด
พี่น้องหลายคนปรึกษากันเเล้ว ต่างก็ใส่เงินส่วนตัวของตัวเองเพิ่มเข้าไปอีก คนละสองตำลึงให้ซูหว่านเป็นเงินอั่งเปา
ซูมู่เพียงเเค่พูดสั้นๆว่า ปีใหม่นี้ขอให้โชคดี สุขภาพเเข็งเเรงตลอดไป ซูเฉินกล่าวว่า พี่สามไม่รอบรู้เท่าพี่ใหญ่ ขอเพียงหวานหว่านมีความสุขไร้กังวล

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...