ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 184

พอนางพูดจบ แววตาผู้จัดการหลี่ประหลาดใจเล็กน้อย

ไม่คิดว่าเด็กสาวตรงหน้าจะคิดค้นขนมนี้ ตนเองประเมินนางต่ำไปเสียแล้ว

การเผชิญหน้ากับตนเอง ไม่แสดงความลังเลแม้แต่น้อย พูดคุยอย่างสุขุมนุ่มลึกพร้อมรอยยิ้ม ท่าทางและความกล้าหาญเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง

"เช่นนี้ ข้าก็จะไม่พูดอ้อมค้อมกับแม่นางซู วันนี้ข้ามาเพื่อจะถามว่า ท่านจะขายสูตรขนมข้าวซอยตัดหรือไม่"

"ขาย!" ซูหว่านตอบอย่างมั่นใจ ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ผู้จัดการหลี่ถึงกับตั้งตัวไม่ทัน

เห็นนางยิ้มแย้มแจ่มใส ท่าทางดูจริงใจ ไม่ใช่คนขี้อาย

"ถ้าอย่างนั้น แม่นางซูคิดไว้หรือไม่ว่าจะขายเท่าไร ลองแจ้งตัวเลข ข้าจะได้ดูว่าตรงกับที่ข้าประเมินไว้หรือไม่"

สมกับมีประสบการณ์โชกโชน ไม่ปิดทางตัวเอง ด้านหนึ่งให้เรียกราคา แต่อีกด้านก็บอกว่าอยู่ในช่วงราคาที่ประเมินไว้หรือไม่ เผื่อทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง ไม่ให้นางเรียกราคาสูงลิบลิ่ว

"ห้าพันตำลึง ราคานี้ขาดตัวเจ้าค่ะ" ซูหว่านคิดไว้ดีแล้ว

ผู้จัดการหลี่ได้ยินตัวเลขนี้ หุบยิ้มบนใบหน้า เงยหน้าจ้องมองซูหว่านอ่อนโยนและช่ำชอง แต่ไม่ดูหยาบคาย

"แม่นางซู ข้าประเมินราคาไว้สี่พันตำลึง ราคาที่เราเสนอสมเหตุสมผลแน่นอน ทำธุรกิจขนมอบเป็นธุรกิจขนาดเล็ก เราให้ราคาสี่พันตำลึง ถ้าเป็นร้านขนมอื่นอย่างมากก็ให้ได้แค่สามพันตำลึง แต่หลิวฟางไจของเราไม่เหมือนกัน เรามีหลายสาขาทั่วเซียงโจว ราคาที่เราให้นี้ถือว่าสูงสุดแล้ว ท่านจะไม่ลดอีกหน่อยหรือ"

"ก็จริง หลิวฟางไจมีชื่อเสียงโด่งดัง อีกทั้งมีชื่อเสียงดีเยี่ยม ถือเป็นผู้นำวงการขนมอบในเซียงโจว ราคาห้าพันตำลึงของข้าก็เป็นราคาต่ำสุดแล้ว วันนี้ท่านยังอุตส่าห์มาหาถึงที่ ย่อมต้องเห็นคุณค่าทางธุรกิจ ขนมข้าวซอยตัดจะนำผลกำไรมาสู่หลิวฟางไจไม่น้อย ข้าทำธุรกิจในที่เล็กๆ อย่างอำเภอชิงเหอ เพียงแค่สองเดือนก็มีกำไรกว่าหนึ่งร้อยตำลึงแล้ว

ถ้าหากนำไปวางขายพร้อมกันที่สาขาของหลิวฟางไจ อย่างมากไม่เกินสองปีก็จะคืนทุนได้ทั้งหมด หลังจากนั้นก็จะเป็นกำไรล้วนๆ ข้าก็เป็นคนขี้เกียจ ถ้าไม่ใช่เพราะไม่อยากลำบาก ข้าก็ไม่อยากขายสูตรนี้!" ซูหว่านพูดจบก็ก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย แต่ก็ไม่อาจปิดบังความภาคภูมิใจในแววตาได้

นางพูดถูกจริงๆ ขนมข้าวซอยตัดที่ขายในหลิวฟางไจ อย่างมากก็สองปีก็จะคืนทุนได้

อีกทั้งผู้จัดการหลี่สามารถนำสูตรกลับไป ต้องได้หน้าและได้เลื่อนตำแหน่งไม่น้อย

ถ้าเจ้าของร้านดีใจ อาจจะให้นางย้ายไปเป็นผู้จัดการสาขาที่เซียงโจว จะไม่ก้าวหน้าสูงสุดหรือ

เมื่อปีกลาย นางซื้อสองชุดส่งไปให้เจ้าของร้าน พอได้ชิมก็ประหลาดใจมาก อยากได้สูตรนี้มาตลอด ร้านหลิวฟางไจไม่ได้มีสินค้าใหม่มานานแล้ว ถึงเวลาที่ต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า

คราวนี้ตั้งปณิธานไว้ว่าต้องได้สูตรขนมข้าวซอยตัดมาให้ได้ และหวังอยากได้เงินทอนบ้าง จนใจที่อีกฝ่ายเสนอราคามาห้าพันตำลึงพอดี นางจึงไม่ได้ผลประโยชน์สักนิด

"แม่นางซู สี่พันแปดร้อยตำลึงดีไหม ฟังแล้วเป็นเลขมงคล ท่านรุ่งเรือง ข้าก็รุ่งเรือง"

ผู้จัดการหลี่ยังคงอยากได้เงินทอนบ้าง ได้สักหน่อยจะได้ไม่เสียเที่ยวที่มาถึงที่นี่

"ผู้จัดการหลี่ ท่านพูดแบบนี้ไม่ใคร่เหมาะสม ข้าบอกไปหลายครั้งแล้ว หากท่านไม่จริงใจที่จะซื้อ ข้ายังมีทางเลือกอื่น ไป่เว่ยเซวียนก็เคยมาหาข้า ข้าแค่คิดว่าควรเปรียบเทียบราคาของสามเจ้า ถึงยังไม่ได้รับปากพวกเขา"

ซูหว่านเป็นคนที่มีหลักการมาก ไม่ยอมอ่อนข้อให้

นางสืบมาแล้วว่าร้านไป๋เว่ยเซวียนเป็นคู่แข่งกับหลิวฟางไจ ร้านขนมอบเพิ่งเปิดได้สองปี เนื่องจากยังไม่ใหญ่เท่าหลิวฟางไจ จึงถูกหลิวฟางไจกดดันมาโดยตลอด