“อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลย เงินที่ให้ไปก็ไม่ใช่ให้เปล่า ๆ ต่อไปขอแค่ตั้งใจทำงาน ดูแลดอกไม้ของข้าให้ดีก็พอ ในอนาคตหากมีโอกาส อาจจะมีเรื่องสำคัญกว่านี้ให้พวกเจ้าทำอีกก็ได้”
การวาดฝันล้วนเป็นความสามารถของบรรดานายจ้างทั้งหลาย แม้ซูหว่านจะยังไม่ได้เป็นนายจ้างอย่างเป็นทางการ แต่นางก็ได้เริ่มวาดฝันให้กับลูกจ้างของนางแล้ว
ทว่าซูหว่านไม่ใช่นายจ้างที่เพียงแค่วาดฝันแต่ไม่ลงมือทำจริง หากในอนาคตกิจการของนางเติบโตขึ้น และสองสามีภรรยาเจียงเซิงทำงานได้ดีควรค่าแก่การสนับสนุน นางก็ย่อมจะพิจารณามอบหมายงานที่ดีกว่านี้ให้แก่พวกเขา
วันรุ่งขึ้น สองสามีภรรยาเจียงเซิงก็แบกจอบเสียมลงไปยังแปลงนา อากาศช่วงนี้กำลังสบาย ไม่ร้อนจนเกินไป แสงแดดที่สาดส่องลงมายังให้ความรู้สึกอบอุ่น
ผืนนานี้รกร้างมานานหลายปี วัชพืชขึ้นหนาทึบ ดินก็แข็งกระด้าง การจะกลับมาดูแลให้ดีอีกครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ซูหว่านเองก็ถือเคียวลงไปยังแปลงนาด้วยเช่นกัน โดยมีแม่ซู ซูอวิ๋น และซูอี้ติดตามมาด้วย
ที่บ้านกำลังก่อสร้างเรือนใหม่ก็ต้องการคนช่วยงานเช่นกัน พี่รองและพี่สามต้องช่วยงานที่บ้าน ส่วนแม่ซูก็ต้องกลับไปทำอาหารกลางวันให้คนงานในช่วงใกล้เที่ยง
หลังจากที่ซูอวิ๋นได้รับบาดเจ็บ เขาก็พักฟื้นอยู่ที่บ้านเป็นอย่างดี วัน ๆ ไม่ต้องทำงาน เอาแต่กินกับนอน จนรู้สึกว่าใบหน้าดูกลมขึ้น
ตอนนี้ถือว่าปลอดภัยแล้ว การทำงานเบา ๆ จึงไม่เป็นปัญหา
เวลาผ่านไปหลายวัน ในที่สุดพวกเขาก็ถางไร่นาจนเตียนโล่ง แล้วจึงเริ่มพรวนดิน
ดินในที่นาหลายหมู่ซึ่งทั้งแข็งกระด้างนั้น อย่างน้อยต้องพรวนถึงสามรอบจึงจะร่วนพอที่จะปลูกดอกไม้ได้
ซูหว่านเร่งรีบ จึงไปจ้างคนงานเพิ่มจากในหมู่บ้านมาช่วยกันพรวนดินอีกหลายคน หลังจากใช้เวลาไปอีกหลายวัน ในที่สุดก็พรวนดินครบทั้งสามรอบ
จากนั้นจึงเริ่มแบ่งพื้นที่ ว่าพื้นที่ไหนจะปลูกดอกไม้อะไร มีทั้งโบตั๋น มะลิ กุหลาบ รวมถึงอวี้จิงเซียง ดอกชา ดอกเบญจมาศ พุดซ้อน และอื่น ๆ อีกมากมายหลายชนิด
นอกจากนี้ยังมีดอกฝูหรงที่ซูหว่านโปรดปรานที่สุด ซึ่งเป็นไม้ต้นและต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองปีจึงจะออกดอก
แต่ดอกฝูหรงนั้นมีกลิ่นหอมชื่นใจ ทั้งยังมีรูปทรงงดงาม หากนำมาสกัดเป็นน้ำมันดอกไม้เพื่อทำสบู่ คงจะเป็นที่นิยมอย่างแน่นอน
ที่นี่อวี้จิงเซียงถูกเรียกว่าเฉ่าเซ่อเซียง ส่วนกุหลาบเรียกว่ากุหลาบหนาม
แม้จะมีความงดงาม แต่บ้านของขุนนางหรือผู้มีฐานะมักไม่นิยมปลูก เพราะมีหนามแหลมคมอาจทำร้ายคนได้ แม้จะสวยงามแต่ก็ไม่เป็นที่โปรดปรานเท่าดอกโบตั๋นและดอกเสาเย่า ส่วนใหญ่จึงไม่ได้ปลูกไว้เพื่อชมความงาม แต่มักนำไปใช้ในการอาบน้ำและล้างมือมากกว่า
หลังจากที่เมล็ดพันธุ์ทั้งหมดถูกหว่านลงดินแล้ว ราวกับสวรรค์เป็นใจ ก็มีฝนฤดูใบไม้ผลิโปรยปรายลงมาอย่างเงียบเชียบ
ส่วนคอกสุดท้ายถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเลี้ยงไก่ และอีกส่วนเลี้ยงกระต่าย
เนื่องจากบ้านเดิมมีเพียงสามห้องนอน ลานบ้านของตระกูลซูจึงดูกว้างขวางขึ้นมาก พื้นที่ในลานบ้านนี้ยังเหลือพอที่จะใช้เป็นที่ทำสบู่นมแพะได้อีกด้วย
ในที่สุดเหล่าพี่น้องก็ไม่ต้องนอนเบียดกันในห้องเดียวอีกต่อไป ตอนนี้มีห้องเพิ่มขึ้นเป็นสี่ห้องให้จัดสรรกันได้พอดี เมื่อพี่ใหญ่ไม่อยู่บ้าน พี่น้องอีกสี่คนที่เหลือจึงสามารถแยกย้ายกันไปอยู่คนละห้องได้
ทว่าซูอวิ๋นและซูอี้ยังคงเลือกที่จะอยู่ห้องเดียวกัน ด้วยวัยที่ยังเด็กที่สุดและยังไม่รีบร้อนที่จะแต่งงาน จึงไม่มีความจำเป็นต้องแยกห้อง ทว่าซูอวิ๋นอยากย้ายไปอยู่ห้องใหม่มากกว่าเรือนหลังเก่า ซูเฉินผู้ซื่อตรงจึงอาสาที่จะอยู่เรือนหลังเก่าเอง
ดังนั้น เหล่าพี่น้องจึงพากันขนเสื้อผ้าและข้าวของของตนไปยังห้องใหม่ เหลือเพียงซูเฉินที่ยังคงสบายใจ
เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะได้มีห้องเป็นของตัวเอง มีพื้นที่ส่วนตัว ไม่ต้องนอนเบียดเสียดกับพี่น้องอีกต่อไป ความรู้สึกเช่นนี้นับว่าวิเศษอย่างแท้จริง
ฝ่ายซูมู่เองก็ไม่ได้ตั้งใจจะย้ายไปอยู่ห้องใหม่เช่นกัน เขาจึงเอ่ยปากขอสลับห้องกับซูหว่าน ให้ซูหว่านย้ายไปอยู่ห้องใหม่ที่ใหญ่กว่า ส่วนตนเองจะย้ายมาอยู่ห้องเล็กของนางแทน
เดิมทีซูหว่านไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เท่าใดนัก เพราะสำหรับนางแล้วจะอยู่ห้องไหนก็เหมือนกัน แต่ซูมู่กลับให้เหตุผลว่า โดยปกติแล้วพวกสตรีมักมีของใช้จุกจิก และในอนาคตก็คงจะมีข้าวของส่วนตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การอยู่ห้องที่ใหญ่กว่าย่อมสะดวกกว่า
ซูหว่านรู้ดีว่าแม้พี่รองของนางจะเป็นคนพูดน้อย แต่ความรักและความเอาใจใส่ที่เขามีให้นางนั้น ซ่อนอยู่ในทุกรายละเอียดของการกระทำเสมอ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...