ชุดกระโปรงสีสันสดใสสำหรับฤดูใบไม้ผลิวางเรียงรายละลานตา ทันทีที่ซูหว่านก้าวเข้ามา ก็ราวกับว่านางได้เข้าสู่สรวงสวรรค์ ร้านแห่งนี้เป็นร้านที่ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรีโดยเฉพาะ ดังนั้นคนที่ทำงานในร้านจึงมีแต่หญิงสาว
เมื่อเห็นซูหว่านก้าวเข้ามา ก็มีคนรีบออกมาต้อนรับทันที
“แม่นาง ต้องการเลือกซื้อชุดกระโปรงหรือเจ้าคะ? ให้ข้าช่วยเลือกนะเจ้าคะ!”
ซูหว่านพยักหน้า ปล่อยให้พนักงานหญิงจูงมือนางเข้าไปเลือกชมเสื้อผ้าด้วยความยินดี
ซูเฉินและซูอี้ได้แต่ยืนรออย่างเงียบ ๆ อยู่ด้านข้าง
“แม่นาง ข้าชื่อเมิ่งเหนียง ไม่ทราบว่าท่านชอบสีอะไรหรือเจ้าคะ? บอกข้าได้เลยนะเจ้าคะ ข้าจะช่วยเลือกชุดที่เหมาะสมให้ท่าน”
“ข้าชอบสีที่ดูเรียบง่ายมีความสุภาพ ไม่ต้องโดดเด่นสะดุดตามากนัก” ซูหว่านตอบ
“ได้เลยเจ้าค่ะ แม่นางมีใบหน้างดงามหมดจดถึงเพียงนี้ ทั้งยังอยู่ในวัยแรกแย้ม จะสวมใส่อะไรก็ดูดีไปหมด เช่นนั้นข้าจะช่วยเลือกชุดกระโปรงสีเรียบง่ายให้สักสองสามชุด ให้ท่านได้ลองเจ้าค่ะ”
ใบหน้าเมิ่งเหนียงแย้มยิ้ม ก่อนจะหันไปเลือกค้นหาชุดกระโปรงมากมายในร้าน แล้วหยิบออกมาสองสามชุด
ชุดหนึ่งเป็นชุดกระโปรงรัดอกสีม่วงอ่อน อีกชุดเป็นชุดกระโปรงรัดอกสีครามสลับขาว และยังมีอีกชุดที่เป็นสีแดงสลับขาว
ชุดกระโปรงสีแดงสลับขาวชุดนี้ไม่ใช่สีเรียบง่ายนัก เพราะมีส่วนที่เป็นสีแดงมากกว่าสีขาว เป็นการจับคู่สีที่ดูสดใสมีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง
เช่นเดียวกับชุดที่เจียงอวี้เลือกให้นางในวันขึ้นปีใหม่เมื่อปีที่แล้ว
“แม่นาง ข้าว่าคุณหนูใส่ชุดนี้แล้วต้องงดงามเป็นพิเศษแน่ๆ เลยเจ้าค่ะ ท่านงดงามถึงเพียงนี้ ผิวพรรณก็ขาวผ่องดุจไข่มุก ริมฝีปากแดงระเรื่อ ฟันขาวสะอาด การสวมใส่สีแดงจะยิ่งขับเน้นให้ท่านดูงดงามอ่อนหวานและสดใสยิ่งขึ้นไปอีก”
อันที่จริงซูหว่านก็ค่อนข้างชอบการจับคู่สีเช่นนี้ แม้ชุดนี้จะดูไม่ใช่สีเรียบง่ายอย่างที่นางต้องการ แต่ในใจของนางพลันปรากฏภาพหนึ่งขึ้นมา
“งดงามมาก ดูท่าสายตาของข้ายังใช้ได้อยู่!”
น้ำเสียงทุ้มใสของเจียงอวี้ราวกับยังก้องอยู่ในหูครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งอ่อนโยนและผูกพัน
ใบหูของนางแดงขึ้นเล็กน้อย
“เช่นนั้นข้าจะลองสวมดู!”
เมิ่งเหนียงดูออกว่านางค่อนข้างชอบกระโปรงชุดนี้ นางช่วยซูหว่านเปลี่ยนชุดกระโปรง แล้วจูงนางเดินออกมาจากด้านใน
รูปแบบของชุดกระโปรงของแคว้นจิ้นนั้นคล้ายคลึงกับยุคราชวงศ์ถังอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้ดูหรูหราเท่า มีน้อยมากที่จะใช้สีแดงจับคู่กับสีเขียวสด หรือใช้ลายดอกไม้ที่ดูหนาแน่นเป็นวงกว้าง
แต่สีแดงช่างเหมาะกับซูหว่านเสียจริง ราวกับว่านางเกิดมาเพื่อความสดใสเช่นนี้โดยธรรมชาติ
ซูเฉินและซูอี้ต่างตกตะลึงในความงามของน้องสาว ความรู้สึกน่าทึ่งเช่นนี้เกิดขึ้นครั้งล่าสุดก็คือในคืนวันขึ้นปีใหม่นั่นเอง
ซูหว่านเลือกให้แม่ซูอีกสองชุด เป็นชุดกระโปรงเรียบร้อย ชุดหนึ่งสีน้ำตาลอ่อน อีกชุดเป็นสีน้ำเงินเข้ม
จากนั้นนางก็ซื้อรองเท้าปักลายให้ตนเองและแม่ซูอีกคนละคู่ เมื่อออกจากร้านเสื้อผ้า เงินสามสิบตำลึงก็หมดไป
“พวกพี่ก็ไปเลือกซื้อคนละสองชุดเถิดเจ้าค่ะ แล้วก็เลือกให้ท่านพ่อกับพี่รองด้วย ครั้งนี้ข้าตั้งใจนำเงินออกมาเพื่อซื้อเสื้อผ้าให้ทุกคนโดยเฉพาะ” เมื่อซูหว่านซื้อของให้ตัวเองเสร็จแล้ว ก็ยังนึกถึงพ่อและบรรดาพี่ชายของนาง
ใครจะรู้ว่าซูเฉินกลับพูดว่า:
“ต่อไปนี้เจ้าเป็นถึงเถ้าแก่ซูแล้ว ย่อมต้องแต่งกายให้ดูดีภูมิฐาน พวกข้าเป็นแค่ผู้ชายหยาบ จะแต่งตัวดีไปทำไมกัน? ท่านพ่อเองก็ต้องลงนาอยู่ทุกวัน จะให้ท่านสวมชุดยาวคลุมทั้งตัวไปคลุกโคลนกลับมาหรืออย่างไร?
“หากเจ้าอยากจะซื้อเสื้อผ้าให้พวกเราจริง ๆ ก็ไปที่อำเภอเลือกซื้อผ้าสักหน่อย แล้วให้ท่านแม่เย็บให้คนละสองชุดก็พอแล้ว อากาศก็อุ่นขึ้นแล้ว ไม่ต้องยัดนุ่นให้ลำบาก ง่ายดายยิ่งนัก”
“ใช่แล้วหวานหว่าน พวกเราไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าดีเพียงนั้น ขอเพียงเจ้ามีความสุขก็พอแล้ว เก็บเงินที่ตั้งใจจะซื้อเสื้อผ้าให้พวกเราไว้ ไปซื้อปิ่นปักผมกับเครื่องประทินโฉมงาม ๆ ให้ตัวเจ้าเถิด”
ซูอี้ก็ปฏิเสธเช่นกัน แต่เหตุใดคำปฏิเสธของเขาจึงทำให้ซูหว่านรู้สึกอิ่มเอมใจถึงเพียงนี้?
“พี่สาม พี่ห้า รอให้วันหน้าข้าหาเงินได้มากจนใช้ไม่หมดก่อนเถิด ถึงตอนนั้นข้าจะไม่ถามพวกท่านแล้ว แต่จะซื้อมาให้เลย จะใส่หรือไม่ใส่ก็ต้องใส่!”
ซูหว่านได้ตั้งปณิธานไว้อย่างเงียบ ๆ อีกครั้ง ทำให้พี่สามและพี่ห้าอดที่จะหัวเราะออกมามิได้
“ได้เลย พวกข้าจะรอวันนั้น!” ซูเฉินที่มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยข้าวของ ยังอุตส่าห์ปลีกมือข้างหนึ่งมาลูบศีรษะของนางอย่างเอ็นดู

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...