หมีหมี่กล่าวด้วยแววตาและน้ำเสียงที่หนักแน่นมาก
สองพี่น้องมองตากัน ซูหว่านดึงซูเฉินไปข้างๆ แล้วกระซิบกระซาบ
"ท่านพี่ ท่านคิดว่าคำพูดของนางเชื่อถือได้หรือไม่?"
"พี่ไม่แน่ใจ..." ซูเฉินพูดอย่างลำบากใจ
"บ้านนางอยู่ไกลตั้งขนาดนั้น แถมนางยังมีแผลเต็มตัว จะกลับบ้านเองได้อย่างไร? เกิดกลางทางโดนหลอกไปอีกจะทำอย่างไร?
อีกอย่าง ถ้านางเป็นสายลับจริง จะมาอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร? บ้านเราก็ไม่ใช่ขุนนางสำคัญอะไร นางก็คงไม่ได้หวังอะไรจากเราหรอก"
ซูหว่านเองก็มีความรู้สึกว่าแม่นางน้อยผู้นี้น่าจะไม่ใช่คนเลวเช่นกัน
"เจ้าหมายความว่าจะรับนางมาดูแลสักสองสามวันอย่างนั้นหรือ?" ซูเฉินเข้าใจอย่างนั้น
"ความหมายของข้าก็คือ ให้พานางไปรักษาตัวที่โรงหมอก่อน จากนั้นก็ให้นางเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาด ข้าจำได้ว่าในเซียงโจวมีขบวนพ่อค้าและสำนักคุ้มภัยที่เดินทางไปทำการค้าที่ชายแดน ให้พวกเขาพานางไปที่ชายแดน พอถึงชายแดนแล้ว นางก็กลับบ้านเองได้อย่างง่ายๆ มิใช่หรือเจ้าคะ?"
ซูหว่านไม่อยากให้นางพักอยู่ที่บ้าน แต่เรื่องนี้ก็ถือเป็นสิ่งดีที่ซูหว่านสามารถทำได้ภายใต้ขอบเขตความสามารถของตัวเองแล้ว
แม่นางผู้นี้มาจากเผ่าอูย่า เผื่อเป็นตัวละครสำคัญอะไรขึ้นมาในภายหลัง การมีเพื่อนเพิ่มก็เหมือนมีทางเลือกเพิ่ม
ก็อย่างที่นางบอกเมื่อกี้ เนื้อผ้าของชุดที่แม่นางผู้นี้สวมใส่อยู่นั้นดีมาก ผิวของนางก็ละเอียดอ่อนมาก ไม่น่าจะเป็นลูกของครอบครัวธรรมดา นอกจากนี้ ชายแดนก็มีแต่ทุ่งหญ้าหรือทะเลทราย สภาพแวดล้อมเลวร้าย แต่ยังเลี้ยงดูแม่นางผู้นี้มาได้ผ่องใสขนาดนี้ ย่อมไม่ใช่ครอบครัวธรรมดาแน่
ซูเฉินพยักหน้า ในเมื่อทำดีแล้ว ก็ทำดีให้ถึงที่สุด ถือว่าเป็นการสะสมบุญ
"ก็ได้ เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าว่าเถิด ใช้เงินนี่สิ"
ซูเฉินลองชั่งน้ำหนักถุงเงินในมือ ซึ่งเป็นเงินยี่สิบตำลึงที่เพิ่งได้มาเมื่อครู่ เขาเองก็ไม่ได้ออกแรงอะไรมากอยู่แล้ว
ดังนั้น สองพี่น้องจึงหันกลับไป แล้วซูหว่านก็พูดกับนางว่า
"ไปกันเถอะแม่นาง พวกเราจะพาเจ้าไปหาที่พัก"
หมีหมี่ลังเลเล็กน้อย แต่ก็เดินตามไป ตอนนี้นางเชื่อใจแค่สองพี่น้องคู่นี้เท่านั้น
หมีหมี่กับซูหว่านสูงพอๆ กัน ซูหว่านจึงไปซื้อเสื้อผ้าสะอาดให้นางชุดหนึ่ง และรองเท้าอีกคู่หนึ่งอย่างไม่ลังเล
จากนั้นก็พานางไปยังโรงเตี๊ยมธรรมดาๆ แห่งหนึ่ง แล้วเช่าห้องพักไว้ให้สองสามวัน ราคาคืนละหนึ่งตำลึงกว่าๆ ตรงข้ามก็มีโรงหมออยู่ด้วย
ให้หมีหมี่อาบน้ำก่อน พอเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดเสร็จแล้ว ก็ค่อยพานางไปโรงหมอ
สองพี่น้องรออยู่ชั้นล่าง ก่อนหมีหมี่จะขึ้นไปชั้นบน นางก็ถามซูหว่านว่าขอผ้าคลุมหน้าและหมวกไม้ไผ่สานไปใส่ได้หรือไม่
ซูหว่านออกมาจากตลาดมืดแล้ว นางเลยไม่สนใจจะใส่อีก จึงให้ไปทันที
หมีหมี่ถูกซูหว่านชมจนเขินอายหน้าแดงก่ำ จากนั้นก็พูดว่า
"ท่าน... ท่านก็งดงามมากเช่นกัน"
นางพูดจริงนะ นางไม่ค่อยได้พบเจอคนจากแคว้นจิ้นมากนัก ตลอดช่วงที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบสตรีจากแคว้นจิ้นที่งดงามถึงเพียงนี้
ได้ยินมาว่าสตรีจากแคว้นจิ้นงดงามอ่อนช้อย น่าทะนุถนอม และอ่อนโยนราวกับสายน้ำ
ที่ว่าน่าทะนุถนอมนั้นเป็นเรื่องจริง มีคนกล่าวว่าฮวงจุ้ยของแคว้นจิ้นบำรุงผู้คนได้ดี ดูจากผิวพรรณของนางที่ดีและเปล่งปลั่งขนาดนี้ ก็คงไม่ใช่เรื่องโกหก
เมื่อซูเฉินเห็นใบหน้าของนาง เขาก็เผลอตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่เขาก็รีบเบนสายตาไปอย่างรวดเร็ว
เขาเพียงแต่ตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็แสร้งทำเป็นดื่มน้ำเพื่อปกปิด เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสตรีจากต่างแคว้น รูปลักษณ์แบบนี้มันดึงดูดสายตาจริงๆ
เป็นความงามที่แตกต่างจากสตรีแคว้นจิ้นโดยสิ้นเชิง
"หิวแล้วล่ะสิ รีบกินข้าวเถอะ"
ซูหว่านชอบอยู่ใกล้ๆ พี่สาวสวยๆ เห็นพี่สาวสวยๆ แล้วอารมณ์ก็จะดีขึ้น
ซูหว่านคีบกับข้าวให้นาง หมีหมี่ถือชามข้าว กินอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังเกรงใจ ซูหว่านและซูเฉินอยู่บ้าง นางจึงไม่ได้ยัดอาหารเข้าปากอย่างหยาบคายนัก แต่ท่าทางที่เร่งรีบก็แสดงให้เห็นว่านางหิวจัด

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...