เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 259

“ดอกฝูหรงก็แล้วกัน หากต้องเลือกจริง ๆ ข้าก็ยังคงเลือกดอกฝูหรง แต่มะลิเองก็ใช่ว่าจะด้อยไปกว่ากัน บางทีเมื่อเทียบกับกุหลาบหรือโบตั๋นแล้ว มันอาจจะดูเรียบง่ายธรรมดาเกินไปจริง ๆ ทว่า กลิ่นหอมของมันกลับสร้างความรู้สึกสบายและสงบใจได้ มะลิมักจะเบ่งบานในยามค่ำคืน กลิ่นหอมของมันจะลอยลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาอย่างเงียบเชียบ สู่ปลายจมูกของผู้ที่หลับใหล นำพาให้หลับฝันดีตลอดทั้งคืน มันช่างเสียสละ ไม่แข่งขัน ไม่โอ้อวด และไม่แสดงตัวตน”

“ผู้คนต่างหลงใหลในกลิ่นหอมของมัน แต่กลับไม่ยอมเป็นเช่นมันที่แสนจะธรรมดา ข้าเองก็เป็นเช่นนั้น ไม่ยินยอมที่จะธรรมดา แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าภาษาดอกไม้ของฝูหรงคืออะไร?”

เจียงอวี้ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าดอกไม้จะมีภาษาด้วย เขารู้เพียงแค่ว่าดอกไม้แต่ละชนิดมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันเท่านั้น

“ท่านแม่ของข้าเคยกล่าวไว้ว่า ดอกฝูหรงเป็นตัวแทนของความสง่างาม ความบริสุทธิ์ และความสูงส่ง แม้จะไม่หรูหราสูงศักดิ์เท่าดอกโบตั๋น แต่มันก็งดงามอย่างมีระดับ เพราะท่านแม่โปรดปรานดอกฝูหรงอย่างยิ่ง ข้าจึงพลอยชอบดอกฝูหรงมากที่สุดไปด้วย เพราะข้ารู้สึกว่า ท่านแม่ของข้าก็เป็นสตรีเช่นนั้น”

เมื่อนึกถึงมารดาของตนเอง สีหน้าของเจียงอวี้ก็ฉายความเศร้าสร้อยออกมา ก่อนจะแสร้งยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ

“แต่ที่ข้ารักดอกฝูหรง ไม่ใช่เพราะความสูงส่งสง่างามของมัน หากแต่เป็นเพราะภาษาดอกไม้ของฝูหรงที่ว่า มันเป็นตัวแทนของความรักอันบริสุทธิ์ที่สุด ตัวข้านั้น แม้จะไม่ยอมจำนนต่อความธรรมดา ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายจืดชืด อยากจะมีชีวิตที่โลดโผนน่าจดจำ ข้าอาจจะปล่อยปละละเลยในเรื่องอื่นได้ แต่กับเรื่องความรักนั้นไม่ได้ ข้าต้องการให้คนรักในอนาคตของข้ามีความรู้สึกต่อข้า ดุจดั่งความหมายของดอกฝูหรงนี้ ที่ไม่เจือปนสิ่งอื่นใดแม้แต่น้อย”

ทันใดนั้น ซูหว่านก็หันมาเผชิญหน้ากับเขา เอ่ยถ้อยคำเหล่านี้ออกมาทีละคำอย่างชัดถ้อยชัดคำ พร้อมกับจ้องลึกเข้าไปในแววตาของเขา

ในวินาทีนั้น ความกล้าหาญอันไร้ขีดจำกัดพลันก่อเกิดขึ้นในใจของนาง หลังจากพูดจบ นางเองก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดตนจึงพูดสิ่งเหล่านี้ออกไป

เขาจะฟังเข้าใจหรือไม่?

เจียงอวี้เข้าใจ แม้ภายนอกจะดูไม่หวั่นวิตก แต่ภายในใจของเขากลับปั่นป่วนราวกับคลื่นลมพายุ มือที่ไพล่อยู่ด้านหลังกำแน่นจนขาวซีดด้วยความตื่นเต้น

“มิสู้เล่าให้ละเอียด คู่ครองในอนาคตที่เจ้าจินตนาการไว้นั้นเป็นเช่นไร?”

ทั้งสองคนต่างกำลังหยั่งเชิงกันและกัน ช่างน่าสนใจเสียจริง

ซูหว่านหันหลังกลับไปอีกครั้ง สูดหายใจเข้าลึก โชคดีที่เมื่อครู่นางยังควบคุมตัวเองไว้ได้ นางคิดในใจว่าท่าทีของตนคงจะดูเป็นธรรมชาติอยู่กระมัง

“ท่านหมายถึงคุณสมบัติภายใน หรือว่ารูปลักษณ์ภายนอกกัน?”

“ข้าอยากฟังทั้งหมด” เจียงอวี้ไม่เลือก เขาต้องการรู้ทั้งหมด

ซูหว่านแสร้งทำท่าครุ่นคิด แล้วจึงเริ่มอธิบาย

“คนที่ข้าจะใช้ชีวิตร่วมด้วยในอนาคต หน้าตาต้องไม่แย่เกินไป อย่างน้อยก็ต้องไม่ด้อยไปกว่าบรรดาพี่ชายของข้า แล้วก็ต้องไม่เตี้ยเกินไป มิเช่นนั้นจะดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ หากเกิดเรื่องอันตรายขึ้นมา กลายเป็นข้าที่ต้องปกป้องเขา มันจะน่าสนุกได้อย่างไร จะผอมไปก็ไม่ได้ อ้วนไปก็ไม่ดี ที่ดีที่สุดคือต้องเป็นวรยุทธ์อยู่บ้าง แล้วก็ต้องมีเงินเสียหน่อย ในอนาคตข้าจะเป็นถึงเถ้าแก่เนี้ยใหญ่ พี่ชายของข้าทุกคนก็ล้วนต้องมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่ หากเขายากจนกว่าข้า มันจะไม่ใช่ว่าฐานะไม่เหมาะสมกันหรอกหรือ?”

ซูหว่านกล่าวถึงหลักสามเชื่อฟังสี่จรรยาของนางด้วยความภาคภูมิใจยิ่งนัก เจียงอวี้กลับหัวเราะออกมาอย่างไม่ไว้หน้า

เจ้าหนูน้อยของเขานั้นช่างแตกต่างจากผู้อื่นโดยแท้ นางช่างเป็นคนพิเศษที่สุด และน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง

หลักสามเชื่อฟังสี่จรรยาเช่นนี้ เขายอมรับได้

“ทำไมกัน ท่านคิดว่าข้ากำลังฝันกลางวันอยู่หรือ?” ซูหว่านคาดว่าเขากำลังหัวเราะเยาะในความเพ้อฝันของนาง

เจียงอวี้กลับคลี่พัดออกแล้วโบกเบา ๆ พลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า

“เจ้าช่างดูแคลนข้ายิ่งนัก ข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ? สิ่งที่เจ้ากล่าวมาทั้งหมดนี้ มิใช่คุณสมบัติที่สามีที่ดีพึงมีหรอกหรือ?”

“มีข้อไหนที่มันจะเกินไปบ้างเล่า? อย่างไรเสียข้าก็ทำได้ทุกข้ออยู่แล้ว”

เจียงอวี้กล่าวอย่างผ่อนคลาย ดูท่าแล้วเขาไม่ได้เพียงแค่คล้อยตามซูหว่านไปอย่างเดียว แต่เห็นพ้องด้วยจากใจจริง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม