“ดีจริง ๆ ภรรยาในอนาคตของท่านช่างโชคดีเสียจริง” ซูหว่านเอ่ยขึ้นอย่างทอดถอนใจ
คำพูดที่แสดงความอิจฉาต่อภรรยาในอนาคตของเจียงอวี้ นางพูดจนเบื่อแล้ว
อันที่จริงแล้ว นางกลับไม่เคยรู้ตัวเลยว่า กฎเกณฑ์ที่นางตั้งขึ้นมานั้น ไม่ใช่ว่าทำขึ้นเพื่อใครคนหนึ่งในใจของนางหรอกหรือ?
มองเผิน ๆ เหมือนว่าข้อเรียกร้องสูง ทว่าข้อเรียกร้องทั้งหมดนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ใครคนนั้นสามารถทำได้ทั้งสิ้น
“ถ้าเช่นนั้น ข้าขอมอบโชคดีนี้ให้แก่เจ้า เจ้าจะรับหรือไม่?” เจียงอวี้พลันขยับเข้าใกล้ซูหว่าน เขาก้มตัวลงพูดกับนางในระยะใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนรินรดอยู่บนใบหน้า
ซูหว่านรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว เอนตัวถอยหนีไม่หยุด
“ข้ายังเด็กอยู่นะ…”
ริมฝีปากของนางขมุบขมิบอยู่นาน ในที่สุดก็ทนไม่ไหว หลุดปากพูดประโยคนี้ออกมา แล้ววิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต รักษาระยะห่างจากเขาหลายเมตร
เจียงอวี้มองพื้นที่ว่างเปล่าตรงหน้า พลางยิ้มออกมาอย่างจนปัญญา
ใช่แล้ว นางยังเด็กนัก
บรรยากาศเงียบงันไปนาน ซูหว่านไม่มีกะจิตกะใจจะชมดอกไม้อีกต่อไป นางเดินไปตามคันนา ในใจเต็มไปด้วยความกังวล ครุ่นคิดถึงความหมายของประโยคนั้นของเขาซ้ำไปซ้ำมา
ในขณะนั้นเอง เจียงอวี้ก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้าไม่อยากถามข้าบ้างหรือ ว่าคู่ครองในจินตนาการของข้าเป็นคนเช่นไร?”
“เป็นคนเช่นไรหรือ?” ซูหว่านก็อยากจะถามอยู่แล้ว เพียงแต่หาจังหวะที่เหมาะสมไม่ได้เสียที ตอนนี้เมื่อเขาเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเอง ถือเป็นการเติมเต็มความต้องการของนาง
“สตรีที่ข้าชอบนั้น จะต้องเป็นคนที่แตกต่างจากคนอื่น ยามยิ้มจะหวานละมุน ยามพูดจาจะอ่อนโยน ทั้งยังมีความกตัญญู เฉลียวฉลาดเป็นพิเศษ ทั้งยังมีรูปโฉมงดงามหาใครเปรียบ จิตใจของนางละเอียดอ่อนราวกับเส้นผม มีหัวใจที่หลักแหลมเฉียบแหลม นางเปรียบดั่งดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดบนฟากฟ้า และเปรียบดั่งสายลมที่อ่อนโยนที่สุดในหุบเขา ไม่มีผู้ใดสามารถทดแทนได้ และไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเทียมได้ จริงสิ นางจะต้องมีความสามารถในการทำการค้าเป็นพิเศษ เพราะข้าชอบสตรีที่หาเงินเก่ง” คำใบ้ของเจียงอวี้นั้นชัดเจนมากพอแล้ว
ต่อให้ซูหว่านจะทึ่มเพียงใดก็ย่อมฟังออก เจียงอวี้เพียงแค่ไม่ได้เอ่ยชื่อของนางออกมาโดยตรงเท่านั้นเอง
ในใจของนางทั้งตื่นเต้นและประหม่า แม้กระนั้น นางดีพร้อมอย่างที่เขาพูดจริง ๆ หรือ?
หรือว่านางแค่คิดเข้าข้างตัวเองอีกแล้ว?
“สตรีที่หาเงินเก่งในโลกนี้มีอยู่มากมายนัก ท่านคงต้องค่อย ๆ เลือก เฟ้นหาให้ดี”
นางแสร้งพูดหยอกล้อ ทำให้เจียงอวี้รู้สึกจนปัญญาอย่างมาก
“ใช่ สตรีที่หาเงินเก่งในโลกนี้มีอยู่มากมาย แต่ข้าอาจจะชอบเพียงคนที่ยิ้มหวานที่สุดเท่านั้น”
“คนที่ยิ้มหวานก็มีอยู่มากมายเช่นกัน ภูเขาสูงยังมีที่สูงกว่า” ซูหว่านยังคงขัดคอต่อไป
เจียงอวี้จนปัญญาจะรับมือนางแล้วจริง ๆ เด็กคนนี้จงใจแกล้งเขาชัด ๆ
เขาไม่พูดต่อ ซูหว่านกลับรู้สึกผิดหวังขึ้นมาอีกครั้ง พลางดึงต้นหญ้าหางสุนัขขึ้นมาต้นหนึ่งแล้วหมุนเล่นอย่างหงุดหงิดใจ
นางถือหญ้าหางสุนัขไว้ในมือ พลันหวนนึกถึงเรื่องราวเมื่อปีก่อน เจียงอวี้ก็ชอบคาบมันไว้ในปาก ท่าทางดูไม่เอาไหน
นางแกล้งเขาเหมือนเป็นลูกสุนัขอีกแล้ว แถมยังมองเขาด้วยสีหน้ายียวน
“เจ้าสุนัขน้อย ข้าหลอกท่าน บนหน้าท่านไม่มีอะไรเปื้อนหรอก” ซูหว่านแกล้งเสร็จก็คิดจะชักมือกลับแล้ววิ่งหนีไป
ทว่ายังไม่ทันจะชักมือกลับ ข้อมือของนางก็ถูกเจียงอวี้คว้าไว้ ทำให้หนีไม่สำเร็จ
แววตาของเจียงอวี้ฉายประกายร้อนแรงอีกครั้ง สะท้อนภาพใบหน้าของซูหว่านอย่างชัดเจน ทั้งความอดทนอดกลั้น และความหวั่นไหวที่ซ่อนอยู่ แววตาของเขาไม่ได้ใสซื่อเลย
“ข้าผิดไปแล้ว ถ้าท่านไม่ชอบ ต่อไปข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว”
ซูหว่านเข้าใจว่า เขาคงไม่พอใจและโกรธที่นางแกล้งทำกับเขาเหมือนเป็นลูกสุนัข
แต่เจียงอวี้กลับจับมือนางไว้ แล้วใช้คางของตัวเองคลอเคลียหลังมือของนางเบา ๆ แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า
“ข้าจะรอให้เจ้าเติบโต!”
ตอนนี้นางยังเด็กนัก ความรู้สึกบางอย่างที่เขามี จึงทำได้เพียงเก็บกดมันเอาไว้ให้ลึกที่สุด เพราะไม่อยากทำให้นางตกใจกลัว
เขากลัวว่าตัวเองจะควบคุมไม่อยู่ แล้วเผลออยากจะจูบนางขึ้นมา เช่นนั้นจะไม่กลายเป็นสัตว์เดรัจฉานหรอกหรือ?
ด้วยเกิดจากใจ แต่ยับยั้งไว้ด้วยจรรยา เจียงอวี้จึงปล่อยมือนางแล้วเดินนำไปก่อน
ซูหว่านยืนนิ่งตะลึงงันอยู่ตรงนั้น ผ่านไปเนิ่นนานก็ยังไม่ได้สติ จนกระทั่งเจียงอวี้ที่เดินนำหน้าไปหันกลับมาเรียกนาง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...