มือของเจียงอวี้ที่กำเเก้วอยู่ซีดเผือด สำเนียงที่พยายามเก็บกดความไม่พอใจอย่างสุดขีดเเสดงให้เห็นถึงความหึงหวงของเขาในขณะนี้
บุตรชายคนโตของหนิงหยวนป๋อ เขาจำได้เเล้ว
“งั้นข้าจะไปรู้ได้ยังไง ข้ากับเขาก็ไม่สนิทกัน อีกอย่าง ข้าก็ไม่ได้ตกลงว่าจะไปล่องเรือกับเขาสักหน่อย เขาก็ไม่ได้พูดกับข้าเองด้วยซ้ำ ข้าก็ทำเป็นไม่เห็นเเล้วกัน”
ซูหว่านรู้ว่าหมอนี่พูดจาเเดกดันคงจะหึงหวงอยู่ เลยคิดในใจว่าข้าพูดเเบบนี้ท่านคงไม่โกรธเเล้วใช่ไหม
ใครจะรู้ ว่าผู้ชายที่หึงหวงก็หาเรื่องได้เก่งที่สุด
“งั้นที่เจ้าพูดมาก็หมายความว่า ถ้าเขาเชิญเจ้าด้วยตัวเอง เจ้าก็จะไปงั้นสิ”
เจียงอวี้ดื่มชาหมดเเก้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไป เเก้วเปล่าถูกเขาวางบนโต๊ะด้วยเเรงเล็กน้อย ทำให้เกิดเสียงดังชัดเจนเพื่อเเสดงความไม่พอใจ
ไหนเลยจะมีใครหาเรื่องเก่งเท่าเขา ซูหว่านก็ไม่ตามใจอารมณ์เขาอีกเเล้ว นางก็เเสดงจุดยืนชัดเจนเเล้วไม่ใช่หรือ หมอนี่จะอะไรนักหนา
นางลุกขึ้น ยืนมองเขาจากที่สูง
“ทำไมเจ้าถึงไม่มีเหตุผลได้ขนาดนี้ ข้าก็บอกเเล้วว่าจะไม่ไปร่วมงานเลี้ยงเชิญ ต่อให้เขาพูดด้วยตัวเองข้าก็ไม่ไป ข้ากับเขาก็ไม่สนิทกัน เดี๋ยวคนอื่นก็คิดว่าข้าอยากปีนป่ายไปเกาะคนรวยหรอก อีกอย่าง ถ้าข้าจะปีนป่ายไปเกาะคนรวย ข้าก็ต้องปีนป่ายกิ่งที่สูงกว่านี้”
เดิมทีเป็นเจียงอวี้ที่หึงหวง เเต่ไม่กี่คำถัดมา คนที่โกรธกลับเป็นซูหว่านเสียได้
เหมือนคู่รักในชีวิตจริง เวลาทะลาะกัน เดิมทีฝ่ายชายเริ่มเเสดงความไม่พอใจ เเต่พอทะเลาะไปมา สุดท้ายคนที่โกรธกลับเป็นฝ่ายหญิง
นางหันหลังเดินจากไปอย่างโมโห เจียงอวี้หยุดชะงัก เเละรีบเรียกนางไว้ เพราะความสนใจของเขาทั้งหมดถูกดึงดูดไปที่ประโยคที่ว่า ถ้าจะปีนก็จะปีนกิ่งที่สูงกว่านี้
“ซูหว่าน!”
ซูหว่านได้ยินเสียงก็หยุดตามนั้น ทำท่าทางเหมือนเป็นผู้ชนะ คิดในใจว่า เเหมดูสิ ใครจะเเข็งกร้าวไปกว่าใคร
“ท่านอยากจะพูดอะไรอีก”
ซูหว่านรู้สึกว่า เขาคงอยากจะขอโทษกระมัง”
“เจ้าคงไม่ได้อยากจะเเต่งงานกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบันใช่ไหม”
พอเจียงอวี้พูดประโยคนี้ ดวงตาของซูหว่านก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง มองเขาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
ซูเฉินถึงกับพ่นน้ำชาออกมา หวุดหวิดจะสำลักตาย
เจียงอวี้ยิ่งพูดยิ่งเหลวไหลไปกันใหญ่
หยางชิงชิงก็กระพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจว่านี่หมายความว่าอย่างไร
สำหรับเจียงอวี้ ซูหว่านก็ไม่รู้ฐานะของเขา ยิ่งไม่รู้จักตระกูลที่มียศศักดิ์สูงกว่าจวนหนิงหยวนป๋อเจวี๋ย ลูกชายทั้งสองของจวนชางหลงป๋อเจวี๋ยก็มีคู่ครองเเล้ว นิสัยของซูหว่านคงจะไม่ยอมเป็นอนุภรรยา ดังนั้น ผู้ชายที่สูงศักดิ์ที่สุดในโลกนี้ก็คงไม่พ้นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน
เเม้ปกติซูหว่านจะเป็นคนใจเย็นเเค่ไหน เเต่ตอนนี้นางก็ใจเย็นไม่ได้เเล้ว
หยางชิงชิงก้มหน้าลงยิ้มเจื่อนๆเเล้วตอบว่า
“เป็นข้า ข้าก็โกรธ ท่านพูดอะไรก็เกินไปหน่อย หวานหว่านเเค่พูดเปรียบเทียบเท่านั้น ท่านก็ไปจี้จุด ไม่เเปลกหรอกที่นางจะโมโห”
เจียงอวี้สงบใจเเล้วลองคิดดู ก็ดูเหมือนจะจริง เขามองข้อความในโน๊ตที่เขียนว่า เชิญคุณหนูหวานหว่านร่วมล่องเรือในอีกสามวันข้างหน้า เพื่อชมวิวทะเลสาบด้วยกัน เเถมยังใช้คำว่าคุณหนูหวานหว่านอีก หวานหว่านก็เป็นชื่อที่เขาเรียกเหมือนกันไม่ใช่หรือ
เขาถูกความหึงหวงครอบงำจนมึนงงไปชั่วขณะ ปกติเเล้วเขาเป็นคนที่วางเเผนการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่หวั่นไหวแม้ภูเขาจะถล่มต่อหน้า เเต่พอเจอเรื่องความรักเข้า สมองก็หยุดทำงานไปเสียหมด
ตอนนี้ยังทำให้คนโกรธอีก พูดตามตรง นับตั้งเเต่รู้จักนางมา นี่เป็นครั้งเเรกที่เห็นนางโกรธ
ตอนนี้ สิ่งที่เขากำลังกลุ้มใจก็คือจะง้อนางอย่างไรดี
ในขณะที่เขากำลังไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลอะไรไปขอโทษ ทหารยามของเขาก็เดินเข้ามา
“นายน้อย มีจดหมายจากเมืองหลวง มาถึงบ้านสกุลซู”
จดหมายจากเมืองหลวง เเถมมายังบ้านสกุลซู ดวงตาของซูเฉินเเละเจียงอวี้สว่างวาบขึ้นพร้อมกัน
น่าจะเป็นข่าวดีจากทางด้านซูจิ่ง
ทันทีที่จดหมายส่งถึงมือซูเฉิน เขาก็อยากเเกะอ่านทันที ทว่าเจียงอวี้ห้ามไว้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...