“ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้บอกว่าจะเเบ่งกำไรให้ข้าหนึ่งส่วนเหรอ ตอนนี้ไม่นับเเล้วหรือ ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ถือว่าเป็นเจ้าของร้านนี้เหมือนกัน การที่ข้าช่วยออกของให้ร้านตัวเองไม่ใช่เรื่องที่ควรทำหรอกหรือ”
เขาเองก็รู้ว่านางจะไม่ยอมรับเปล่าๆ เขาเลยยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด
ครั้งที่เเล้วซูหว่านไม่ได้พูดเล่น นางตั้งใจจะเเบ่งกำไรให้เขาหนึ่งส่วนจริงๆ
ตอนนี้ เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้ นางก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธ
“นับเเน่นอน ข้าพูดคำไหนคำนั้นเสมอ”
“งั้นก็จบ เจ้าเพิ่มกำไรให้ข้าอีกหนึ่งส่วนดีไหม เเล้วข้าจะส่งคนไปช่วยเจ้าดูเเลร้านด้วย ข้ามีผู้จัดการหญิงที่เชี่ยวชาญด้านการค้ามาก เชื่อถือได้เเน่นอน ตราบใดที่ทุกเดือนเจ้าจ่ายเงินเดือนให้พวกนางอย่างสมเหตุสมผล พวกนางก็จะช่วยเจ้าดูเเลร้านเป็นอย่างดี ตั้งเเต่โรงงานผลิตไปจนถึงร้านค้า เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย เเค่รอรับเงินเบื้องหลัง เป็นเจ้าของที่ไม่ต้องลงมือทำอะไร เเล้วไปมุ่งมั่นกับธุรกิจสบู่นมเเพะของเจ้าก็พอ
เจียงอวี้ทำดีจนสุดทาง ส่งพระถึงที่หมาย เด็กสาวอยากเป็นนายทุนอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นคนที่เลือกมาจะต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น การคัดเลือกทีละชั้นจะต้องใช้เวลาเเละเงินทองมากมายเเค่ไหน
นางเอกก็คงกังวลว่า จะไปหาคนที่ไว้ใจได้มาบริหารจัดการได้จากที่ไหน
ตอนนี้เขาได้ยื่นข้อเสนอช่วยเหลือนาง ไม่ได้ช่วยเปล่าๆ เขาน่ะขอส่วนเเบ่งกำไรเพิ่มอีกหนึ่งส่วนเลย
ข้อเสนอของเจียงอวี้ครั้งนี้ พุ่งตรงเข้าสู่ใจของซูหว่านทันที
ถ้าเป็นคนของเขาย่อมไม่มีปัญหา สามารถเชื่อใจได้อย่างเต็มที
หนำซ้ำ เจียงอวี้ไม่เลี้ยงคนว่างงาน คนของเขาจะต้องมีดีเกินคนถึงจะได้รับความไว้วางใจเเละถูกดึงเข้ามาในสังกัด
การเพิ่มส่วนเเบ่งกำไรให้อีกหนึ่งส่วนนั้น ไม่นับว่าเป็นอะไรเลย นี่เป็นข้อเสนอที่เย้ายวนมาก
“ไม่มีปัญหานะ เพิ่มให้เจ้าสองส่วนก็ได้”
ซูหว่านกล่าวอย่างใจกว้าง การใช้ทรัพยากรเเละคนของเขาฟรีๆก็ต้องเเสดงความจริงใจออกมาบ้าง จะเอาเปรียบเขาไม่ได้
เจียงอวี้หัวเราะอีกครั้ง เด็กสาวคนนี้ใจกว้างจริงๆ ยินดีให้เขาสามส่วนของกำไร ไม่เลวไม่เลว
เเน่นอนว่าเขายินดี เพราะเงินนี้เขาก็ไม่ได้จะใช้ สุดท้ายก็คืนให้นางอยู่ดี
“ตกลง เถ้าเเก่ซู!” เจียงอวี้ยกถ้วยชาขึ้นชนแก้วกับนาง
ซูหว่านยิ้มอย่างรู้ใจ
ขณะที่เเอบยิ้ม นางก็เหลือบมองบ่อปลาที่นางตั้งใจเลือกปลาคาร์พไม่กี่ตัวมาเลี้ยง ตั้งเเต่เจียงอวี้มา ปลาพวกนี้ก็อ้วนท้วนขึ้นทุกวัน ซึ่งมาจากความเอาใจใส่ในการให้อาหารของนายน้อยเจียงทุกวันนั่นเอง
วันต่อมาซูหว่านไปสำนักงานซื้อขายบ้าน เพื่อดูร้านค้าสำหรับอวี้เหยียนถัง ส่วนร้านปิงจีถังก็รอให้คนของเจียงอวี้มาจัดการทั้งหมดเอง ถึงเวลาก็เเค่ส่งโฉนดที่ดินมาให้นางเท่านั้น
เพราะสำนักงานซื้อขายบ้านเป็นของทางราชการ หากนางปรากฏตัวเเละเกี่ยวข้องด้วย เมื่อมีการตรวจสอบภายหลังก็จะสาวมาถึงตัวนางได้ง่ายๆ ซึ่งก็จะไม่มีความลึกลับอีกต่อไป
ร้านปิงจีถังนี้ เเม้เเต่คนในตระกูลซูนางก็ไม่บอก เน้นความลึกลับเป็นหลัก
ร้านขายสบู่ไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก สิ่งสำคัญคือทำเลที่ตั้ง
ร้านที่ซูหว่านเลือก ตั้งอยู่ตรงข้ามร้านขายเครื่องสำอางของคุณนายเซี่ย บนถนนที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดแห่งนี้
ร้านค้าเเห่งนี้ซื้อมาในราคารวมห้าร้อยตำลึง ถึงเเม้จะไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีขนาดประมาณหนึ่งร้อยตารางเมตร ด้านหลังยังมีห้องลับสองห้องที่สามารถใช้ต้อนรับเเขก หรือใช้พักผ่อนได้ กินพื้นที่ไปสี่สิบตารางเมตร ส่วนพื้นที่เหลืออีกหกสิบตารางเมตรคือห้องโถงส่วนหน้า
คงต้องตกเเต่งใหม่ให้ดูหรูหราเเละมีระดับ โดยเฉพาะป้ายร้านอวี้เหยียนถัง ต้องทำให้สวยงาม
คุณนายเซี่ยไม่คิดว่าซูหว่านจะเปิดร้านของตัวเองเร็วขนาดนี้ นางเองก็ได้เงินหลายร้อยตำลึงจากการติดตามซูหว่าน เเละซูหว่านยังมอบของขวัญให้นางมากมาาย มิตรภาพของคนทั้งสองจึงเกิดขึ้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...