เกื้อหนุนส่งเสริมซึ่งกันและกัน ทั้งยังเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย ดีมากจริง ๆ
ข้ารับใช้นำรถม้ามาเทียบ ซูหว่านและซูจิ่งมุ่งหน้าไปยังจวนหนิงหย่วนป๋อเจวี๋ย โดยมีหลิวอวิ๋นและหลิวอิ๋งติดตามไปด้วย บัดนี้หน้าที่นี้ก็มิใช่ของซูเฉินอีกต่อไปแล้ว
อันที่จริง การที่ซูจิ่งเดินทางไปจวนชางหลงป๋อเจวี๋ยก่อน ทำให้ฮูหยินหนิงหย่วนป๋อไม่พอใจอย่างมาก แต่นางก็มิอาจแสดงอาการออกมาได้ ตรงกันข้าม กลับต้องต้อนรับพวกนางอย่างอบอุ่น
ในสายตาของนางยามนี้ ฐานะของซูหว่านคู่ควรกับบุตรชายของนางแล้ว อีกทั้งบุตรสาวสายตรงของนางก็ถึงวัยออกเรือนพอดี หากสามารถเจรจาเรื่องสมรสนี้ให้ลุล่วงได้ ไม่ว่าจะแต่งออกไปหรือรับสะใภ้เข้า ล้วนเป็นการส่งเสริมต่ออำนาจในราชสำนักของตระกูลหนิงทั้งสิ้น
การที่ซูจิ่งได้ขึ้นเป็นจอหงวนประจำปีนี้ ผู้ที่ยินดีที่สุดคงไม่พ้นหนิงจื้อเชียน เพราะเขารู้สึกว่าระยะห่างระหว่างเขากับซูหว่านนั้นใกล้เข้ามาทุกที
เขาพาน้องสาวหนิงเซียวเหมยมายืนรอรถม้าของตระกูลซูอยู่ที่หน้าประตูจวน เมื่อเห็นรถม้ามาถึง ซูจิ่งประคองซูหว่านก้าวลงจากรถม้า แววตาของเขาก็สว่างวาบขึ้นในที่สุด
เขาคาดว่านางคงจะไม่มาเสียแล้ว แต่เมื่อนางมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า นั่นย่อมแสดงว่าเขายังมีโอกาส
เรื่องการหมั้นหมายกับทางซู่โจวยังเป็นเพียงการหารือ ยังมิได้ตกลงปลงใจ ทุกสิ่งยังทันการณ์
“ท่านจอหงวนซูให้เกียรติมาเยือนถึงจวน ข้าออกมาต้อนรับช้าไป ต้องขออภัยยิ่ง” เขาเป็นตัวแทนของตระกูลออกมาต้อนรับ กิริยามารยาทนับว่าครบถ้วนมิได้ขาดตกบกพร่อง
หนิงเซียวเหมยทำความเคารพซูจิ่งด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ วันนี้นางแต่งกายอย่างงดงามเป็นพิเศษ เมื่อหันไปมองซูหว่าน ก็แสร้งทำทีเป็นสนิทสนมคุ้นเคย เดินเข้าไปควงแขนของนาง
“น้องหญิงซู ไม่ได้พบกันเสียนาน เจ้าช่างงดงามขึ้นทุกวัน”
คราวก่อนนางหาได้กระตือรือร้นเช่นนี้ไม่ ทำราวกับซูหว่านเป็นเพียงอากาศธาตุ ท่าทีเย็นชาเหินห่าง หากมิใช่เพราะยามนี้ฐานะของพี่ชายสูงส่งขึ้น ด้วยฐานะอย่างนาง ไหนเลยจะยอมลดตัวลงมาคบค้าสมาคมกับบุตรีของคหบดีเช่นนี้
ซูหว่านเองก็เจอคนก็พูดภาษามนุษย์ เจอผีก็พูดภาษาผี จึงเอ่ยเรียกอีกฝ่ายว่าพี่หญิงเหมย
หนิงจื้อเชียนทักทายซูหว่านเช่นกัน จากนั้นจึงเชิญสองพี่น้องเข้าจวนไป
บอกได้เลยว่าหนิงหย่วนป๋อวางท่าทีสูงส่งกว่าชางหลงป๋ออยู่หลายส่วน สองสามีภรรยารออยู่ที่โถงกลาง เมื่อซูจิ่งมาถึงก็มิได้แสดงท่าทีตื่นเต้นยินดีมากนัก จงใจวางมาดรักษาสถานะของตน
“จอหงวนซูหนุ่มแน่นแต่เปี่ยมด้วยความสามารถยิ่งนัก วันที่ท่านกลับมาบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่ ขี่ม้าแห่ไปตามถนนหนทาง บุตรสาวของข้ากลับมาเล่าให้ฟังว่าจอหงวนซูสง่างามดุจสายลมและแสงจันทร์ยิ่งนัก ปฏิภาณไหวพริบเฉียบแหลม วันนี้ได้มาพบตัวจริง ช่างสมคำร่ำลือ”
ในวันที่ซูจิ่งกลับมา ชาวเมืองแทบทั้งเมืองต่างออกมาดูเขา บรรดาคุณหนูที่เฝ้ามองเหล่านั้นย่อมรวมถึงหนิงเซียวเหมยด้วย
ขอเพียงสินสอดทองหมั้นที่พวกเขามอบให้มีความจริงใจและหนักแน่นพอ เชื่อว่าตระกูลซูคงไม่มีเหตุผลใดให้ปฏิเสธ เพราะหากบุตรสาวได้แต่งเข้ามา ในภายภาคหน้านางก็คือฮูหยินป๋อผู้สูงศักดิ์
หนิงหย่วนป๋อพูดคุยกับซูจิ่งถึงเรื่องตำแหน่งขุนนาง เมื่อทราบว่าเขาจะเข้ารับตำแหน่งขุนนางดูแลการชลประทานแห่งแม่น้ำเซวียนเหออ แม้ว่าตำแหน่งนั้นจะค่อนข้างใหญ่ แต่ก็เป็นงานที่ทำได้ไม่ง่ายนัก
เมื่อฮูหยินป๋อได้ฟังดังนั้น ก็เหลือบมองบุตรสาวของตน ความคิดที่จะให้นางแต่งกับซูจิ่งจางหายไปไม่น้อย
เพียงได้ยินชื่อสถานที่อย่างแม่น้ำเซวียนเหอ ก็พอจะจินตนาการได้ถึงสภาพความเป็นอยู่ว่าจะทุรกันดารและแห้งแล้งเพียงใด หากบุตรสาวต้องติดตามเขาไปยังที่นั่น นางจะทนความยากลำบากเช่นนี้ได้หรือ?
ทว่าหนิงเซียวเหมยกลับไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย นางยังคงมองซูจิ่งด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
หนิงหย่วนป๋อและภรรยายังคงไว้ท่าทีอยู่บ้าง ยังมิได้เอ่ยถึงเรื่องการสู่ขอโดยตรง จนกระทั่งถึงเวลาอาหารกลางวัน อาหารก็ถูกจัดเตรียมไว้ที่ศาลากลางสวนดอกไม้ ทุกคนนั่งชมดอกไม้พลางรับประทานอาหาร
เพียงแต่ว่าอากาศค่อนข้างร้อน ในศาลาจึงมีการวางก้อนน้ำแข็งไว้เพื่อช่วยคลายความร้อนด้วย
ซูจิ่งและซูหว่านต่างก็ดูเกรงอกเกรงใจอยู่บ้าง ข้างกายของคนหนึ่งมีหนิงจื้อเชียนนั่งอยู่ ส่วนอีกคนก็มีหนิงเซียวเหมยนั่งประกบ ทั้งสองต่างคอยคีบอาหารให้พวกเขาอย่างเอาใจใส่ คำที่ซูจิ่งเอ่ยออกมาบ่อยที่สุดคือขอบคุณมาก ข้าทำเองได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...