จวนหนิงหย่วนป๋อเจวี๋ยได้เชิญเเม่สื่อที่โด่งดังที่สุดของเซียงโจวมา ด้วยความที่ต้องการเเสดงออกถึงความสำคัญ ฮูหยินหนิงหย่วนป๋อก็มาด้วย พร้อมทั้งถือรายการของหมั้นมาสู่ขอถึงที่ด้วยตัวเอง
ในการมาเยือนครั้งเเรก เพื่อเเสดงความจริงใจ พวกเขายังได้นำกล่องของขวัญหลายหีบใหญ่มาด้วย โดยมีดอกไม้สีเเดงผูกติดอยู่ข้างบน ตลอดทางที่ผ่านมาดูยิ่งใหญ่อลังการมาก เรียกสายตาผู้คนได้มากมาย
เดิมทีซูหว่านกำลังจะเตรียมตัวออกจากบ้านไปซู่โจว เเต่เเล้วก็บังเอิญเจอขบวนของฮูหยินหนิงป๋อเข้าพอดีที่หน้าประตู
ซูหว่านถึงกับงงงวย หัวหมุนติ้ว เมื่อเห็นขบวนที่เเต่งตัวอย่างสวยงามรื่นเริงเช่นนี้ ก็เข้าใจได้ในทันทีว่ามาทำอะไร
เเต่ด้วยความใจเย็นของนาง ก็ไม่ได้เเสดงความตกใจออกมาในทันที
หลิวอวิ๋นเละหลิวอิ๋งมองหน้ากัน ต่างก็ขมวดคิ้วเเน่น เเสดงความไม่เข้าใจ ในเวลาเดียวกันใจก็คิดว่าจะไปรายงานอย่างไร
“คุณหนูหกซู ไม่ได้เจอกันนาน” ฮูหยินหนิงหย่วนป๋อยิ้มแย้มสดใสมาก เมื่อเห็นซูหว่านก็เดินเข้ามาทักทายอย่างสนิทสนม
ฮูหยินหนิงหย่วนป๋อมีฐานะสูงส่ง ซูหว่านจึงต้องทำความเคารพเมื่อเห็นนาง
“คารวะฮูหยินป๋อ!”
“ทำไมต้องเกรงใจขนาดนี้ เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธีหรอก” ฮูหยินป๋อดึงมือนางไปจับตรงๆ เเล้วลูบหลังมือนางเบาๆอย่างปลอบโยน
“ท่านพูดเกินไปเเล้ว ท่านฐานะสูงส่ง ข้าไม่อาจเอื้อม” ซูหว่านดึงมือออกจากมือของนาง นางไม่อยากเป็นครอบครัวเดียวกันกับนางเลย
ฮูหยินป๋อเองก็สังเกตุเห็นถึงการต่อต้านจากนาง เเต่นางก็ไม่ได้โกรธเคือง กลับส่งสายตาให้เเม่สื่อที่อยู่ข้างๆ
เเม่สื่อเข้าใจทันที กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า
“คุณหนูหก ยินดีด้วยเจ้าค่ะ เรื่องดีๆของท่านกำลังจะมาถึงเเล้ว วันนี้ฮูหยินป๋อมาถึงบ้าน เพื่อมาสู่ขอเเทนท่านป๋อน้อย ไม่ทราบว่านายท่านซูกับฮูหยินซูอยู่บ้านไหมเจ้าคะ”
วันนี้ฮูหยินป๋อมาด้วยตัวเอง เเสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่จวนป๋อเจวี๋ยมีต่อคุณหนูมากเลยนะเจ้าคะ”
ซูหว่านยิ้มไม่ออก ได้เเต่รู้สึกชาๆในตอนนี้
เเต่เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้านเเล้ว ไม่เชิญเเขกเข้าบ้านก็ดูไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
เด็กรับใช้เฝ้าประตูรีบวิ่งไปแจ้งนายท่านกับฮูหยิน
ในเวลานั้น พ่อซูเเละเเม่ซูกำลังทะเลาะกันตามปกติอยู่ในลานบ้านพอดี ซูอี้ก็กำลังจะไปหอภาพวาดเช่นกัน
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ทั้งสามคนก็หยุดนิ่งพร้อมกัน สีหน้าก็แข็งค้างไป
สีหน้าของซูอี้พลันมืดครึ้มลง ยกขาขึ้นจะเดินไป
กลับเป็นซูหว่าน ที่ปฏิเสธก่อน
“ฮูหยินป๋อ ข้ายังไม่มีความคิดที่จะเเต่งงานในตอนนี้ อีกทั้งข้ากับท่านป๋อน้อย ก็ไม่รู้จักกันดีนัก อีกทั้งไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน ข้าคิดว่าเรื่องนี้คง…”
“ไม่รู้จักกันไม่เป็นไร ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันก็ไม่เป็นไร ลูกชายข้าก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมีมารยาท เเละในอนาคตก็มีตำเเหน่งขุนนางให้สืบทอดด้วย เราสามารถตกลงเรื่องนี้กันก่อนได้ หลังจากนั้นพวกเจ้าก็มีโอกาสมากมายที่จะได้อยู่ด้วยกัน ทำความรู้จักกัน เจ้าว่าอย่างนั้นไหม”
คำพูดของฮูหยินป๋อมีความหมายแฝงลึกซึ้ง ทั้งที่เปิดเผยเเละซ่อนเร้น เเสดงออกว่าซูหว่านควรจะดีใจที่ลูกชายของนางสนใจในตัวซูหว่าน
ถ้าคนไม่รู้ อาจจะคิดว่าหนิงจื้อเชียนไม่ได้สืบทอดตำเเหน่งขุนนาง เเต่สืบทอดบัลลังก์ต่างหาก
“ฮูหยินป๋อ ตระกูลซูของพวกเราเป็นเพียงตระกูลพ่อค้าไม่คู่ควรกับจวนหนิงหย่วนป๋อ เกรงว่าจะเอื้อมไม่ถึง ยิ่งกว่านั้นฐานะของน้องสาวของข้าก็ไม่เหมาะสมกับท่านป๋อน้อยผู้สูงศักดิ์ เรื่องการเเต่งงานนี้ ขออย่าได้กล่าวถึงอีกเลย”
ซูอี้ปฏิเสธทันควัน สีหน้าไม่สู้ดีนัก
ในสายตาของเขา ท่านป๋อน้อยเเห่งจวนหนิงหย่วนป๋อเจวี๋ยไม่คู่ควรกับน้องสาวของเขา น้องสาวของเขาสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในโลกนี้
การที่ซูอี้ซึ่งเป็นผู้น้อยสอดเเทรกขึ้นมา ทำให้ฮูหยินป๋อไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด นางทำหน้าบึ้งตึงเเละกล่าวว่า
“ผู้ใหญ่ปรึกษาหารือกัน ผู้น้อยไม่ควรสอดแทรก ไม่สู้คุณชายห้าพาคุณหนูหกหลบไปก่อน เรื่องเเต่งงานนี้ ข้าจะคุยกับนายท่านซูกับฮูหยินซูด้วยตัวเอง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...