ซูหว่านหาใช่หญิงเปราะบางเช่นนั้นไม่ เรื่องสำคัญย่อมต้องมาก่อน ต้องรู้จักแยกแยะว่าสิ่งใดเร่ง สิ่งใดผ่อน
เจียงอวี้เห็นนางเข้าใจเช่นนี้ ก็ยื่นมือมาหยิกแก้มนางเบาๆ
“ขอบใจนะหวานหว่านที่เข้าใจข้า”
“ข้าไม่เห็นว่าต้องขอบคุณอันใด ท่านก็ควรปล่อยวางบ้าง อย่าได้ทุกข์ร้อนจนเกินไปเลย”
เขานั้นคอยถนอมใจนางอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็ดีพอแล้ว
ซูหว่านขยับตัวมานั่งแนบเขา ทั้งสองต่างห่วงหากัน แล้วความรู้สึกของอีกฝ่าย ตอนนี้สิ่งที่นางสามารถทำได้ก็คือนั่งเคียงข้างเขาเงียบๆ
เจียงอวี้หาได้มีเวลามานั่งเศร้าโศกไม่ ไม่นานเขาก็หยิบแผนที่ภูมิประเทศขึ้นมาพินิจ
เขาดูอยู่เนิ่นนาน คิ้วขมวดแน่นรางกำลังคิดอะไรบางอย่าง แล้วจึงเปิดหน้าต่างรถม้าออก สั่งการต่อเหล่าองครักษ์ด้านนอก
“อ้อมป่าหินพิสดารไป ขึ้นเขาหยู่เฟิง ส่งนกพิราบแจ้งเฟิงอิ่ง ให้มารอพบกันที่เขาหยู่เฟิง นำคนมาให้มากหน่อย”
“ขอรับคุณชาย!” องครักษ์รับคำ แล้วรีบจัดแจง
บัดนี้เจ้าสำนักเฒ่าป่วยหนัก มิทันประกาศด้วยตัวเองว่าเจียงอวี้คือเจ้าสำนักเฟิงเย่ว์คนต่อไป ในช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสสุดท้ายของอวี้อู๋ซาง ที่จะทำให้เจ้าสำนักเฒ่าตาย เขาในฐานะบุตรชายเพียงคนเดียวก็จะกลายเป็นผู้สืบทอดอันดับหนึ่งอย่างราบรื่น อีกทั้งมีผู้สนับสนุนมากมายในสำนักเฟิงเย่ว์ ขอเพียงขัดขวางเจียงอวี้ไว้ เขาก็สามารถขึ้นเป็นเจ้าสำนักใหม่ได้แน่นอน
ทางที่ดี หากเจียงอวี้ถึงแก่ความตายเสียแต่ต้น ก็จะไร้ผู้ต่อต้านโดยสิ้นเชิง
แม้ภายหลังเจียงกั๋วกงจะกลับมาเอาคืน แต่เพราะเห็นแก่หน้าภรรยาผู้ล่วงลับ เขาย่อมเลือกที่จะไม่ทำลายสำนักเฟิงเย่ว์ ที่เป็นเลือดเนื้อของพ่อตา อีกทั้งอำนาจของสำนักเฟิงเย่ว์ก็แผ่ขยายอยู่ทั่วยุทธภพมาช้านาน หาใช่สิ่งที่ทำลายกันง่ายๆ ไม่
ตราบใดที่เขาขึ้นเป็นเจ้าสำนักแล้ว ก็ย่อมมีอำนาจต่อกรกับเจียงกั๋วกงได้อย่างเท่าเทียม อย่างมากที่สุดก็แค่เพิ่มศัตรูอีกหนึ่ง อีกอย่างไม่มีหลักฐานใด หรือผู้ใดจะชี้ว่าเจียงอวี้ตายด้วยน้ำมือเขา
ต่อให้จะมีศึก ก็ต้องหาเหตุผลอันเหมาะสมเสียก่อน
นับเป็นกลอุบายที่ร้ายกาจนัก!
”จนเมื่อปีที่แล้ว ข้าถูกตามล่าถึงหุบเขาซานหยาง จนเกือบจะสิ้นชีวิต โชคดีที่เจ้ากับพี่รองช่วยข้าไว้ได้ ข้าจึงไม่ตาย ครั้นกลับถึงจวนก็ตรวจสอบทุกอย่างอย่างละเอียด ในที่สุดก็แน่ชัดว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือเขา น้าชายที่ไร้สายเลือดผู้นั้น“
“เขาปรารถนาจะแย่งชิงตำแหน่งเจ้าสำนักจากท่านหรือ” ซูหว่านฟังแล้วรู้สึกปวดใจ เจียงอวี้ต้องเผชิญกับหมาป่าหน้าซื่อ ใต้หน้ากากแสนดีนั้นคืออสูรที่จ้องฆ่าอยู่ทุกครา
ทุกอย่างที่เขาทำ ถ้าไม่ใช่เพราะอำนาจ แล้วเขาทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใด
“ใช่ ท่านตาเมื่อสองสามปีก่อนยังสุขภาพดีอยู่แท้ๆ แต่อยู่ๆก็ทรุดลงทุกวัน หมอเทวดาซุนก็หาสาเหตุไม่พบ คาดว่าอาจถูกวางยา แต่ไม่รู้ว่าเป็นพิษของอะไร จึงทำได้เพียงใช้ยาในการประคองอาการ ข้าตรวจสอบ ทุกซอกทุกมุมรอบข้างท่านตา ทั้งคนดูแล ไปจนถึงอาหารทุกมื้อ ก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ“
”ก่อนที่ข้าจะไปเซียงโจว อาการท่านก็ควบคุมได้แล้ว ข้าจึงวางใจออกเดินทาง แต่สุดท้าย...”
เจียงอวี้มิได้กล่าวต่อ เพราะหลังจากนั้นนางก็ทราบแล้วว่า อาการของท่านตาทรุดลงกะทันหัน และไม่มีทางรักษาได้อีก
“ท่านสงสัยว่าน้าชายที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดผู้นั้นเป็นคนลงมือ แต่ว่าแม้แต่บิดาผู้มีพระคุณเลี้ยงดูตนเช่นนั้น เขายังไม่ปล่อยไปหรือ” ซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ยากที่จะเข้าใจ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...