นางกับฮูหยินกู้และนายท่านกู้มีบุญคุณการเลี้ยงดูอยู่บ้าง นางจึงย่อมเข้าใจว่า ต่อให้นางกับกู้เยว์จะบาดหมางกันถึงเพียงใด นางก็มิอาจคิดร้ายต่อคนทั้งสอง เพราะเป็นการให้เกียรติแก่เจ้าของร่างเดิม
“ข้าเพียงแค่ไม่อาจเข้าใจ จึงกลัดกลุ้มอยู่ตลอดว่าเพราะเหตุใดกันแน่ หรือเป็นข้าที่ทำสิ่งใดผิดไปจนทำให้เขาโกรธโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ แต่สิ่งเดียวที่แน่ชัดคือ ข้ากับเขานั้นเป็นศัตรูกันโดยสมบูรณ์ หากท่านตาถูกเขาทำร้ายจริง ข้าย่อมไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่”
เมื่อกล่าวจบ แววตาเจียงอวี้ก็พลันแข็งกร้าว กระจายความเฉียบคมเปล่งประกาย ไม่อ่อนข้อให้ผู้ใด
ถึงยามนั้น ทั้งหนี้เก่าความแค้นใหม่เขาถูกสะสางพร้อมกันทั้งหมด
ปีก่อนเขาเกือบจะฆ่าเจียงอวี้ หากไม่ใช่เพราะเจียงอวี้ดวงแข็ง ป่านนี้ความลับนี้คงไม่มีใครรู้ไปชั่วชีวิต
ซูหว่านเองก็ไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดเพื่อปลอบใจเขา เพราะนางมิรู้เบื้องลึกของเรื่องทั้งหมด อีกทั้งนี่คือหนี้แค้นระหว่างเจียงอวี้กับน้าชายของเขา จำต้องสะสางกันเอง หากนางจะเอาแต่กล่าววาจาสวยหรูย่อมไร้ความหมาย
แต่นางกอดเขาได้นี่นา
ดังนั้นซูหว่านจึงโอบคอเขา กอดแนบเขาไว้เฉกเช่นที่เขาเคยกอดนาง ให้เขาซบไหล่นางแทน
“ไม่เป็นไร ท่านยังมีข้า ข้าจะอยู่เคียงข้างท่าน”
นางลูบเส้นผมสีดำของเขาช้าๆ อย่างเบามือ
เจียงอวี้ก็โอบเอวนางกลับ กอดแน่นพลางซุกไหล่นางราวเด็กน้อย
“ขอบใจนะ หวานหว่าน” เขากระซิบอีกครั้ง
ซูหว่านไม่กล่าวสิ่งใด เพียงกอดเขาไว้อย่างเงียบงัน เป็นการปลอบโยนที่ไม่ต้องมีคำพูด
รถม้าวิ่งเร็วบนทางหลวง บางครั้งกระแทกก้อนหินจนสั่นสะเทือนอย่างแรง แต่ซูหว่านที่หนุนตักเจียงอวี้กลับหลับสบายเป็นอย่างมาก
เขานำหมอนมาวางบนตัก แล้วให้นางเอนศีรษะลงหนุน
เส้นทางไปจงโจวต้องใช้เวลาเจ็ดถึงแปดวัน ในช่วงแรกทั้งหมดย่อมต้องอยู่บนรถม้า แต่ก็จะหยุดพักในทุกเช้า เที่ยง และยามเย็น
ครานั้นซูหว่านจึงจะได้ลงจากรถพักบ้าง หลิวอวิ๋นเตรียมน้ำร้อนให้ และขึงผ้าดำทำม่านล้อมไว้ มีไฟถ่านให้ไออุ่น นางจะได้ชำระกาย เปลี่ยนอาภรณ์ให้สดชื่น
ในสถานการณ์เช่นนี้ เจียงอวี้ย่อมไม่ล่อศัตรูมาทางนาง เพราะเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามคือตัวเขา การที่ไม่ให้ตามเขามาเป็นสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด
สิ่งที่เขาต้องทำให้ได้ คือกำจัดศัตรูให้สิ้น แล้วค่อยกลับมาหานาง นั่นคือการปกป้องที่ดีที่สุด
ซูหว่านซุกตัวในรถม้า ฟังเสียงข้างนอกแล้วอดไม่ได้ที่จะตะโกนถามหลิวอวิ๋นที่อยู่ด้านนอก เพราะนางเป็นห่วงความปลอดภัยของเจียงอวี้ กลัวว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ หากแค่แผลถลอกก็ยังดี แต่หากหนักเหมือนตอนที่เก็บเขาได้จากศาลเจ้าที่ ย่อมลำบาก เพราะไม่มีหมอแม้แต่คนเดียว
“คุณหนู เป็นอะไรไปหรือ”
หลิวอวิ๋นถามขึ้นด้วยความร้อนใจ คิดว่านางเป็นอะไรไป
“ข้าไม่เป็นไร แล้วเจียงอวี้เล่า เขาเป็นอย่างไรบ้าง” ซูหว่านถามเสียงร้อนรน
“คุณหนูอย่ากังวล นีกฆ่ากลุ่มนี้มีไม่มาก คุณชายของเราน่าจะรับมือได้ โปรดหลบอยู่ดีๆ ก็พอ”
ผู้ตอบกลับนาง หาใช่หลิวอวิ๋น แต่เป็นองครักษ์ของเจียงอวี้คนหนึ่ง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...