ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 383

พอได้ยินว่าเขาจะทดสอบตนเอง ในส่วนลึกของใจซูหว่านก็เกิดระเบิดโกลาหลขึ้นมา นางรีบโบกมือปฏิเสธ

“ไม่ ไม่ ไม่ วิชาแพทย์นี้ข้าไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย เรียนท่านตามตรง วิธีนี้ข้าเพียงอ่านเจอมาจากในตำราเล่มหนึ่ง ส่วนจะเป็นตำราเล่มใดนั้นข้าเองก็จำไม่ได้แล้ว แต่ในนั้นเขียนไว้ว่า กรณีเช่นอาการของเจ้าสำนักเฒ่าสามารถใช้วิธีนี้ในการบำรุงฟื้นฟูได้ ข้าเป็นเพียงผู้เสนอแนวคิดเท่านั้น ส่วนจะใช้ได้จริงหรือไม่ยังคงต้องให้ท่านอาวุโสเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ข้ารับรองได้ว่าวิธีนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อเจ้าสำนักเฒ่าอย่างแน่นอน” ซูหว่านทำท่าทางสาบาน พลางอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ท่านทั้งหลายเอ๋ย ใครเล่าจะเข้าใจ เมื่อครู่นางเกือบจะขุดหลุมฝังตนเองอยู่แล้วเชียว

หมอเทวดาซุนเห็นนางร้อนรนถึงเพียงนั้น ก็อดที่จะลูบเคราแล้วหัวเราะออกมามิได้

“เอาล่ะ ๆ ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้น วิธีที่เจ้าบอกมานั้นไม่เป็นอันตรายต่อเจ้าสำนักเฒ่าอย่างแท้จริง ต่อให้คนธรรมดานำไปใช้ ก็มีแต่จะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ข้าจะไปเขียนใบสั่งยาก่อน ส่วนการดูแลเจ้าสำนักเฒ่าหลังจากนี้ก็คงต้องฝากฝังไว้กับหลานสาวและศิษย์รักของข้า แม่หนูซู เจ้าก็ลำบากแล้วเช่นกัน”

เรื่องของเจ้าสำนักเฒ่าเกือบทำให้หมอเทวดาซุนสูญสิ้นความมั่นใจไปแล้ว แต่บัดนี้เมื่อซูหว่านได้ชี้ให้เห็นถึงต้นตอของปัญหา เขาก็พอจะมองเห็นหนทางขึ้นมาบ้างแล้ว

ความจริงแล้ว หากไม่ใช่เพราะเจ้าสำนักเฒ่าไม่อาจจะรอต่อไปได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปหาเย่ชิงอู๋ก็ได้ เขาสามารถใช้ความสามารถของตนเองปรุงยาถอนพิษขึ้นมาได้ เพราะซูหว่านได้มอบทั้งแนวทางและความคิดให้แก่เขาแล้ว

เพียงแต่ว่าวิธีที่รวดเร็วที่สุดในตอนนี้คือการไปเอายาถอนพิษจากยายเฒ่าเย่ชิงอู๋ผู้นั้น หากให้เขาปรุงยาเองก็เกรงว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสำเร็จผล

เป็นเรื่องของเวลาอย่างแท้จริง ในเนื้อเรื่องเดิม ซูมู่ได้สร้างชื่อให้ตนเองจนโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนจากเหตุการณ์ของเจ้าสำนักเฒ่า ทั้งยังอาศัยพรสวรรค์ของตนเองจนค้นพบวิธีชะลอพิษหลิงฉือได้ในที่สุด ซึ่งก็คือวิธีที่ซูหว่านเอ่ยถึงนั่นเอง

ส่วนนาง ก็เป็นเพียงผู้ที่อาศัยการหยั่งรู้เรื่องราวล่วงหน้าดุจพระเจ้าเท่านั้น ต้องขออภัยด้วยพี่รอง ข้าไม่ได้ตั้งใจจะแย่งชิงความดีความชอบของท่านเลยจริง ๆ

ซูหว่านมองพี่รองของนาง หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกผิด หากสถานการณ์อำนวย นางคงได้โขกศีรษะให้เขาสักครั้งเป็นแน่

ยามที่ซูมู่เดินผ่านร่างของซูหว่าน เขาก็เหลือบมองนางด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความหมายล้ำลึก ทั้งยังพูดว่า

“รอให้ดี ๆ ประเดี๋ยวข้ามีเรื่องจะคุยด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูหว่านก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน ขณะที่ในใจก็เริ่มขบคิดเรียบเรียงถ้อยคำ เพื่อเตรียมหาทางเอาตัวรอดต่อหน้าพี่รองผู้เฉียบแหลมของนาง

หมอเทวดาซุนลงมือเขียนใบสั่งยาอย่างรวดเร็ว เป็นตำรับยาสำหรับปรับสมดุลปราณและโลหิต บำรุงร่างกายส่วนที่ขาดพร่องไป ล้วนแล้วแต่ใช้สมุนไพรชั้นเลิศทั้งสิ้น ทว่านั่นยังไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เพราะปัญหาใหญ่ในตอนนี้คือ จะไปตามหาสตรีมากมายเพื่อมามอบโลหิตหัวใจได้จากที่ใดกัน?

“พวกเจ้ากำลังพูดเรื่องอันใดกัน?” ในขณะที่ทุกคนกำลังกลัดกลุ้มเรื่องที่มาของโลหิตหัวใจ เจียงอวี้ก็กลับมาพอดี เดิมทีซูหว่านตั้งใจจะบอกว่านางต้องการอุทิศตนเพื่อเจ้าสำนักเฒ่า แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขา

ทางด้านเจียงอวี้ได้สั่งการให้เฟิงอิ่งจัดเตรียมกำลังฝีมือเยี่ยมหนึ่งกอง เพื่อคุ้มกันหมอเทวดาซุนเดินทางไปยังเขาเหลยหมิงให้เร็วที่สุด

อีกทั้ง เรื่องนี้จำเป็นต้องปิดบังไม่ให้อวี๋อู๋ชางล่วงรู้ ต้องส่งตัวหมอเทวดาซุนลงจากเขาไปโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เขามาวางอุบายขัดขวางได้อีก

ตอนที่ซูหว่านมาถึง หอเฟิงเย่ว์ได้ให้บ่าวไพร่ที่รับใช้ทั้งหมดออกไปแล้ว คงเหลือไว้เพียงบุคคลที่ไว้วางใจไม่กี่คนเท่านั้น

ดังนั้น นอกจากคนในเรือนเฟิงเย่ว์แล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าเรื่องที่เจ้าสำนักเฒ่าพิษได้ถูกเปิดโปงแล้ว ทั้งยังกำหนดแผนการรักษาได้ในเวลาอันสั้น ช่วยรักษาชีวิตของเจ้าสำนักเฒ่าไว้ได้ชั่วคราว

อวี๋อู๋ชางคาดไม่ถึงเป็นแน่ว่า ในแผนการอันแนบเนียนไร้ช่องโหว่ที่รอเพียงตลบหลังปิดฉากของเขา จะมีตัวแปรสำคัญอย่างซูหว่านที่กุมชะตาราวกับหยั่งรู้ฟ้าดินปะปนอยู่ด้วย

เดิมทีเขาคิดการณ์ไว้ว่า รอเพียงเจ้าสำนักเฒ่าสิ้นใจ ต่อให้เขาทิ้งคำสั่งเสียไว้ให้เจียงอวี้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป เขาก็สามารถนำเหล่าผู้อาวุโสออกมาคัดค้าน สร้างแรงกดดันให้แก่เจียงอวี้แต่เพียงฝ่ายเดียวได้